ที่มา ประชาทรรศน์
คอลมัน์ : โต๊ะข่าวประชาทรรศน์
โดย กะพรุนไฟ
ทั้ง “ลูกไม้” และ “แม่ไม้การเมือง” ต้องบอกว่า “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผู้ดูแลความมั่นคง นับว่าแพรวพราว เหลือกินเหลือใช้ ยากที่ใครจะทาบรัศมีจับ
ฉะนั้น ใครจะ “เหยียบน้ำ” หรือ “ดำดินมา” ...รับประกันซ่อมฟรี ว่าไม่มีสิทธิ์ได้แอ้ม “ท่านเทพเทือก” ให้เสียยี่ห้อ โลโก้ชั้นดี ได้หรอก
อย่างไรก็ดี ถึงสุภาพบุรุษลูกผู้ชาย “เทพเทือก” จะครบเครื่อง ครบครัน คร่ำคร่า ไปด้วยวิทยายุทธ์ ที่แก่พรรษาอย่างสุดโต่งเช่นนี้...
แต่ใช่ว่า จะไม่มีคนมา “ลูบคม” ให้เสียเหลี่ยมลูกกำนัน ก็หาไม่??
หมาดๆ ใหม่ๆ ล่าสุด...มีการ “เหยียบตาปลา” ของ “เทพเทือก” ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ผู้ดูดำดูดี “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” เข้าอย่างจังเบอร์
เหมือนกับว่า เขาไม่เห็น “รองนายกฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ” อยู่ในสายตาเช่นนั้นแหละ
เพราะไม่เช่นนั้น เขา?...คงไม่สร้างนิยายลวงโลก “แหกตา” เย้ยฟ้าท้าดินขึ้นมาหรอก
รวมทั้ง “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ “บิ๊กกิ๊ก” พล.ต.ต.พงษ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจกองปราบ ยังตกเป็นเหยื่อ
เป็นเครื่องมือ โดนเขาหลอกใช้ โดยไม่รู้ตัวอีกด้วย!!
เรื่องทั้งหมดที่กล่าวมานี้ สืบเนื่องมาจาก ว่ามี “ตำรวจใหญ่ระดับบิ๊ก”...ดูแลด้าน “ธุรกิจ-เศรษฐกิจ”...ได้เล่นแร่แปรธาตุ สร้างเรื่องอุปโลกน์ แหกเนตร ผู้บังคับบัญชา “หน่วยเหนือ” เสียสนิท??
ด้วยการ “จับแพะชนแกะ” เมคเรื่อง เป็นตุเป็นตะ ถึง “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” และ “ท่านผู้การกองปราบ” เพื่อกวาดล้าง “โต๊ะบอลออนไลน์ข้ามชาติ” ให้เรียบวุธ
โดย เขา?...สร้างพล็อตเรื่อง “กลุ่มอาบูบาก้า”โต๊ะพนันบอลมาเลเซีย ขึ้นมาเป็นฉากบังหน้า
แต่หลังฉาก เป็นการหาเงิน “เข้ากระเป๋า”...โดยเขาไม่ตีโพยตีพาย สักแอะเดียว
จะบอกได้ฉันใด?...เมื่อเขา เตรียมเคาะเรียกเงิน 700-800 ล้านบาท จาก “เหยื่อ” เข้ากระเป๋า
ตรงนี้นี่แหละ มีการ “หมกเม็ด” เงียบฉี่เลย!!
ทั้งนี้ ได้มีการสร้างฉาก สมอ้าง ว่า มี “กลุ่มคนไทย” จำนวนหนึ่ง เป็นพวก “รับพนันบอลออนไลน์ข้ามชาติ” ร่วมกับกลุ่ม “อาบูบาก้า” โดยเหวี่ยงแหจับกันอย่างสะเปะสะปะ
เมื่อจับกันอย่าง “เหมาเข่ง” ไม่ดูตาม้าตาเรือเช่นนี้...จึงได้ผู้ต้องหามากมายอื้อซ่า
จากนั้น มีการงัดกฎหมายมาเล่นงานกันอย่างจั๋งหนับบุเรงนอง...
ด้วยการ “อายัดเงินในบัญชีธนาคาร” ของผู้ที่ตกเป็นจำเลย ในข้อกล่าวหา ว่าเป็น “โต๊ะพนันบอลข้ามชาติ” นับ “พันๆ บัญชี” อย่างไม่เคยมีมาก่อนเลย
แต่ละบัญชี ที่ขึ้นเครื่องหมายโดนอายัด ...ล้วนเป็นบัญชี “ธนาคารกสิกรไทย” เพียวๆ เพียงแห่งเดียว ที่โดนกากบาท หมายหัวเอาไว้
ไม่ทราบว่า คนของ “แบงก์รวงข้าว” ปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ เสนอตัวรับใช้เขาหรือเปล่า???
ถึงได้มีแต่บัญชีของ “ธนาคารกสิกรไทย” ถูกอายัด ห้ามถอนจ่ายโอนเท่านั้น
ถ้าไม่รู้เห็นเป็นใจ?... เรื่องพิสดารพันลึกนึกไม่ถึงพรรค์นี้ จะมีเกิดขึ้นล่ะหรือ!!
หลังจากที่ได้มีการอายัดเงินในบัญชีกันอย่าง “ส่งเดช” กันอย่างลวกๆ ...
ยังมี “ข้อครหานินทา” ตามมาอีกบานตะโก้แห้ว
เนื่องจากการสั่ง “อายัดบัญชี” นั้น...ไม่มีการ “ตั้งข้อหา” แม้แต่กระทงความเดียว
นี่น่าจะแปลความหมายได้ว่า “เขาไม่ผิด” จะไม่มีสิทธิ์ ตั้งข้อหาใช่ไหมล่ะ
แต่อย่างไรก็ตาม ผลพวง แห่งการทำ “เลยเถิด” ณ คาบเวลานี้... ได้สร้างบาดแผลร้าวลึก กับคนที่ถูกอายัดบัญชี เป็นอันมาก(ส์)
เพราะแต่ละคน ล้วนเป็น “นักธุรกิจรากหญ้า” และ “คนชั้นกลาง” ที่หาเช้ากินค่ำ เก็บออมหอมริบ ด้วยความมัธยัสถ์ ประหยัด เป็นอย่างยิ่ง
ครั้นจะถอนเงินมา “ต่อยอด” ทำธุรกิจ...ก็โดน “ระงับ” เบิกจ่าย ไม่ได้เสียงั้นแหละ
ตรงนี้ สร้างความเสียหายอันใหญ่หลวง แก่เศรษฐกิจรากหญ้า อย่างทันตาเห็น
เพราะ “ท่านรองนายกฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ” และ “ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” พยายาม ปล้ำผีลุก ปลุกผีนั่ง เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ให้เดินจ้ำอ้าว เติบโตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง...
ต้องมาหยุดกึก กระฉึกกระฉักไปทันที!!
เหตุเพราะมี ตำรวจบางคน?...ทำตัว “นอกแถว” สร้างเรื่อง จนส่งผลกระทบแก่ “ประชาชน” ที่อยู่ใต้กฎหมาย จนพูดไม่ออก
ความเสียหาย ทำให้ “นักธุรกิจสุจริตชน” ส่ายหน้าไปตามๆ กัน
เห็นว่า “ท่านรองนายกฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ” ตั้งเข็มทิศ ที่จะ “ยกเครื่องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ให้เป็นที่พึ่งพิงของ “ประชาชนอย่างแท้จริง”
ดังนั้น “ตำรวจคนใด?”...ที่ไม่อยู่ใน “แถว” สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นไปทั่ว
ท่านต้อง “อัปเปหิ” อย่าให้เป็นใหญ่เป็นโต ...เพราะพวกนี้ยิ่งก้าวหน้า “ปวงประชา” น้ำตามีแต่ตกใน
ฉะนั้นเมื่อเป็นฉะนี้ ท่านไม่ควร ปล่อย “ตำรวจหัวหมอ” แบบนี้...อยู่ในตำแหน่งต่อไป!!
ขืนให้เขามีอำนาจ “ครอบจักรวาล” ย่อมสร้างความเสื่อมเสียให้ปรากฏ...
ตำรวจประเภทนี้ “สมควรปลด”... “รองนายกฯ สุเทพ” อย่าได้เลี้ยงเอาไว้???