ที่มา ประชาทรรศน์
คอลัมน์ : สามเหลี่ยมดินแดง
* หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ รายวัน ฉบับประจำ วันจันทร์ที่ 19 มกราคม 2552 ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ที่เคยมั่งมีกลับเสื่อมสูญ ที่เคยมอดม้วยกลับเรืองรุ่ง วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้ได้ เพราะหลายครั้งหลายที ในชีวิตของคนเรา ต้องยอมรับว่า “คนคำนวณ มิสู้ฟ้าลิขิต” จริงๆ
* “ความพยายามเป็นเรากำหนด ความสำเร็จเป็นโชคชะตากำกับ” คิดได้ดังนี้ จึงจะครองชีวิตได้อย่างเป็นสุข ทุกคืนวัน แม้จะสมหวังบ้าง ผิดหวังบ้าง แต่ก็จะไม่ตีอกชกหัวตัวเอง ด้วยความแค้นคลั่ง ให้เสียพลังไปโดยเปล่าประโยชน์
* วันนี้ จงรัก ภักดีราช มาเหมือนปลงตกกับชีวิต แต่เปล่าเลย ทั้งหมดที่ยกมาสองวรรคต้นคอลัมน์ คือ คำปลอบโยนให้เข้าถึงสัจธรรมของชีวิตมนุษย์ ที่อยากจะฝากไปถึงเพื่อนพ้องน้องพี่ในพรรคเพื่อไทย และมวลชนคนเสื้อแดง ทั้งๆ ที่รู้ว่า ดอกไม้ที่ยื่นให้ อาจถูกสวนมาด้วยก้อนอิฐ ก็ตามที
* ก็อย่างที่เคยเขียนไว้ล่วงหน้า ว่า ระดับผู้นำที่ทำหน้าที่กุมสภาพการเต้นของหัวใจพรรคเพื่อไทย ได้สะบั้นสัมพันธ์ตัดขาดกันอย่างสิ้นเชิงแล้ว ทั้ง ยงยุทธ ติยะไพรัช เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และ พงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล หรือ แก๊งอ๊อฟโฟร์ รุ่น 2 “ยุทธ-แดง-หน่อย-เพ้ง” ที่ก่อการ ยึดอำนาจจาก สมัคร สุนทรเวช มาทูนใส่มือ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ถึงนาทีนี้ ไม่พูดจากันแล้ว เรื่อง ความร่วมมือร่วมใจมาทำพรรคร่วมกัน จึงเป็นเรื่องห่างไกลเกินจริง
* ในขณะที่ ฝั่ง “แดง” เปิดประเด็นเข็น ทักษิณ ชินวัตร กลับมาเป็นที่ปรึกษาพรรค เต็มรูปแบบ แต่ฝ่าย “ยุทธ” ชี้ไปในคนละทาง อ้างว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องเลิกติดยึดกับ “ทักษิณ” ต้องสลัดอดีตให้หลุดพ้น แล้วก้าวไปบนวิถีทางแห่งความเป็นจริง ว่าหากจะเอาพรรคเพื่อไทย กลับขึ้นมาแล่นบนถนนสายอำนาจ ต้องตัด “ทักษิณ” ที่มีสถานะไม่ต่างจากกระบะพ่วงถ่วงหินมาเต็มคัน แค่ดันขึ้นมาอยู่บนถนน ยังยาก เรื่องคิดจะเป็นเจ้าถนนอีกครั้ง ก็คงได้แค่ฝันไปวันๆ
* น่าประหลาดใจในการรับรู้ของหลายคนที่ได้ยินได้ฟัง สาย “ยงยุทธ” ที่ท่าทีลอยแพ “นายใหญ่” เช่นนี้ แต่จะไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมสัญญาณจากสาย “ยงยุทธ” จึงแปร่งปร่าได้ขนาดนี้ หากได้รู้ว่า ยงยุทธ ติยะไพรัช เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ มาก่อน และยังคงมีสัมพันธ์อันดีกับ สุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่เปลี่ยนแปลง ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และ “ยงยุทธ” ก็เป็นคนหนึ่งที่ได้รับการคาดหมายว่าถูกใช้ให้ ทำหน้าที่เจรจากับ ทักษิณ ให้อยู่นิ่งๆ เพื่อให้ประเทศไทยกลับคืนสู่ความสงบเรียบร้อยเสียที
* จงรัก ภักดีราช ได้แต่เห็นใจทุกคนทุกฝ่าย สาย ยงยุทธ ที่ ภักดีถวายหัว เอาตัวเข้าแลกความบาดเจ็บแทนนายใหญ่ มาตลอด กลับได้รับผลตอบแทนไม่คุ้มค่า เมื่อวันที่ สายเยาวภา กุมสภาพรัฐบาลสมชาย ฝ่าย เยาวภา ที่เป็นห่วงพี่ชายสุดที่รัก และสามีสุดที่ใคร่ ก็ไม่อาจแบ่งปันให้ใครอื่นได้มากนัก เพราะยังตักเข้าท้องไม่พออิ่ม ถึงวันนี้ ยงยุทธ น่าจะเข้าใจ เนวิน ชิดชอบ ได้ดี ว่าทำไมจึงต้องตัดใจลาจากไป
* ส่วน ฝั่ง “หน่อย” กับ เครือข่าย “เพ้ง” สองทางนี้ ได้แต่ลอยตัวเหนือความขัดแย้ง เพราะยึดคติ ลงทุนน้อย คอยสถานการณ์ แบ่งปันผลกำไร จึงพอใจกับทุกสถานการณ์ที่ยังมีส่วนแบ่ง แต่จะเข็นให้ไปลงทุนแข่งกับใคร นับเป็นเรื่องยาก ยิ่งในวันที่อยู่ในซีกฟากฝ่ายค้าน สูญสิ้นอำนาจวาสนาในมือ ด้วยแล้ว อย่าไปคิดข่มเขาโคขืนให้กินหญ้า เลย
* ณ เวลานี้ หน่อย ได้หัวหน้าพรรค เพ้ง ยึดเลขาธิการพรรค ลงทุนน้อย กำไรมาก เป็นความสามารถเฉพาะบุคคล ที่ลอกเลียนแบบได้ยาก ในขณะที่ สาย ยงยุทธ ได้แต่ตะโกนบอก ถึงเวลาต้องเปลี่ยนตัวทั้งหัวหน้าพรรค และ เลขาธิการพรรค หากไม่ทำตามที่ต้องการ ก็ทางใครทางมัน แยกกันเดินไปตามฝันของแต่ละคน ...นี่จึงเป็นคำตอบว่าทำไม พระกาฬที่ไม่เคยไล่ทัน ทักษิณ ชินวัตร มาตลอดสองปีที่ผ่านมา จึงมาหายใจรดต้นคออดีตนายกรัฐมนตรี ชนิดที่ไม่ให้เวลาตั้งตัวเช่นนี้
* เห็นอาการออกสตาร์ทของ พรรคภูมิใจไทย แล้ว คนนอกวงการเมือง อาจจะดูเป็นเรื่อง ฝนตกขี้หมูไหล แต่คนในวงการเมือง โดยเฉพาะใน ชุมชนคนบ้านเลขที่ 111 และคนในตระกูลชินวัตร กำลังหนาวสะท้านไปถึงหัวใจ เมื่อ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รับอาสาเป็นนายท้ายคัดหางเสือเรือลำใหม่ที่ชื่อ ภูมิใจไทย โดยไม่ฟังคำทัดทานที่ลอยลมมาจากต่างแดน
* ระหว่าง ความรัก กับ ความแค้น มีเพียงเส้นบางๆ กั้นอยู่ ใครข้ามก่อน “แพ้” จงรัก ภักดีราช ได้ยินมาว่า การปรากฏตัวเพื่อยืนยันสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย เป็นความประสงค์ของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เอง โดยไม่มีใครยุยง นี่คงบอกได้ว่า สุริยะ รู้สึกอย่างไรกับเรื่องราวแต่หนหลังครั้งยังอยู่ในไทยรักไทย
* จงรัก ภักดีราช ฟันธงว่า สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ไม่ใช่ตัวเลือกของพรรคภูมิใจไทย ที่จะส่งชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพราะจับทางลม กลุ่มเพื่อนเนวิน แล้ว ยัง ไม่ต้องการโตพรวดพราดเป็นพรรคอันดับ 1 และ ไม่มีวาระเร่งด่วนปลดล็อกผู้ต้องขังทางการเมือง ในเร็ววันนี้ เพราะจะทำให้ ดุลอำนาจของการเมืองไทย ที่พรรคภูมิใจไทย กำลังพึงพอใจสูญเสียไป
* เมื่อไม่ต้องการสถานะพรรคแกนนำรัฐบาล ก็ไม่มีความจำเป็นต้องปลดล็อกทางการ เมือง เพื่อให้ ใครบางคน ที่ไม่นิยมปลูกมะม่วง แต่ชื่นชอบปลิดผลมะม่วงไปกลืนกิน ได้ประโยชน์โดยไม่ลงทุน ประกอบกับ วิธีคิดแบบ เนวิน ชิดชอบ ที่พูดให้สมาชิกของกลุ่มได้ยินทั่วกันว่า มีแต่คนลงทุน ลงแรง เท่านั้นที่จะได้ส่วนแบ่ง มีแต่ผู้ที่เข้าสู่สนามรบเท่านั้นที่จะได้รับรางวัล พวกรักนวลสงวนตัว รอชุบมือเปิบ จึงไม่มีสิทธิ์ และไม่มีที่ยืนในพรรคภูมิใจไทย
* ฝากความหวังดีไปถึง ผู้ผลิตรายการ “ดีทีวี” ทุกท่าน การพายเรือทวนน้ำ เป็นงานหนัก ที่ต้องการความมุ่งมั่นและจะสำเร็จได้ ก็ด้วยความเชื่อในหัวใจตัวเอง มิใช่ด้วยปัจจัยเรื่องเงินทอง หรือสิ่งของอื่นใด และจะยากยิ่งขึ้นไปอีก หากเป็น การพายเรือในลำน้ำที่แห้งขอด แม้จะมีพลังใจมากมายเพียงใด แต่ เมื่อธรรมชาติไม่เกื้อหนุน ที่ลงแรงไป แม้จะไม่สูญเปล่า แต่ก็ไม่อาจสำเร็จได้โดยง่าย
* ถึงนาทีนี้ กระแสสังคมที่ไม่อยากเห็นม็อบ ไม่อยากเห็นการปลุกระดมเข้าห้ำหั่นกันเองของคนไทย การพายเรือทวนน้ำ และ การพายเรือในลำน้ำที่แห้งขอด จึงเป็นเรื่องที่ต้องคิด เก็บพลังกาย พลังใจ ไว้รอเวลาหน้าน้ำ ไหลหลาก จะไม่ดีกว่าหรือ? จับตาดูต้นน้ำที่ทำเนียบรัฐบาล เห็นอาการตัดสินใจของใครบางคนในรัฐบาล เชื่อว่าอีกไม่นาน ฤดูน้ำหลาก ก็คงมาถึง แต่ถ้ารอไม่ได้ เพราะความแค้นในอก ก็ขอให้จ้ำพายล่วงหน้าไปก่อนเถิด
*ขอเชิญศิษยานุศิษย์ ร่วมพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ เจ้าคุณพระสุนทรวิหารการ (หลวงพ่อเลื่อน) ณ วัดประยุรวงศาวาส เชิงสะพานพุทธฝั่งธน เวลา 16.00 น. วันนี้