ที่มา thaifreenews
พระพิศาลธรรมพาที(พระพยอม กัลยาโณ)เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่17มกราคมโดยยอมรับว่า การตัดสินใจร่วมออกรายการสถานีโทรทัศน์ดีทีวี ของกลุ่มเสื้อแดงแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ(นปช.)เพราะสาเหตุก่อนหน้านี้ได้ถูกนายประพันธ์ คูณมี แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาโจมตีอย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าพระทำตัวไม่ดี เปิดวัดรับโจร หรือที่กลุ่มพันธมิตรฯ หมายความถึง คือ กลุ่มเสื้อแดง จึงขอออกรายการทีวีเพื่อชี้แจงบ้าง อีกทั้งที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีได้ออกมาโจมตี แต่ไม่เคยเชิญให้ไปชี้แจง เปรียมเสมือนตีหัวพระแล้ววิ่งหนีเข้าบ้าน
ลั่นร่วม ดีทีวี.ผิดตรงไหน
พระพยอมกล่าวอีกว่าการที่ออกรายการนั้นไม่ใช่เรื่องเสียหายเพราะพันธมิตรฯยังสามารถเชิญท่าน ว.วชิรเมธี หรือ แม้แต่ หลวงปู่พุทธะอิสระไปร่วมรายการได้แล้ว หากตนไปร่วมรายการเช่นเดียวกัน จะมีความผิดตรงไหนที่ พระจะออกรายการเพื่อพูดความจริงบ้างไม่ได้
นอกจากนี้ พระพยอม ยังทิ้งท้ายถึงรัฐบาลชุดนี้ว่าเปรียมเสมือนรัฐบาลลูกหนี้มีสภาพน่าสงสารเพราะถูกพันธมิตรฯทวงบุญคุณจึงต้องหาการตอบแทนให้อยู่ตลอดเวลา การบริหารประเทศ ก็ทำไปแบบวันๆ
"อดิศร"ไม่หวั่นดีทีวี.ถูกจับตา
ขณะที่ นายอดิศร เพียงเกษ ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท ดี สเตชั่นจำกัด หรือดีทีวี กล่าวว่า กรณีเงินสนับสนุนนั้นเป็นประเด็นเล็ก ไม่น่าสงสัย การทำสื่อถ้าประชาชนโดยเฉพาะฝ่ายประชาธิปไตยเห็นด้วยจะมีเงินทุนไหลเข้ามา ส่วนเครื่องดื่มชูกำลังนั้น ถือเป็นการโฆษณาของรายการหนึ่งเท่านั้นและคิดว่าเมื่อสถานีอื่น สามารถบริหารงานได้ ตนก็สามารถบริหารงานดีทีวีได้เช่นกัน ส่วนกรณีการตรวจสอบจากฝ่ายรัฐบาล เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ตนคิดว่าขอให้ไปตรวจสอบตัวเองก่อนว่ามีที่มาถูกต้องหรือไม่
ยัน"ทักษิณ"ไม่เอี่ยว ดีทีวี
นายอดิศรี ยังยืนยันว่า การทำสถานีโทรทัศน์ดีทีวีครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อีกทั้งการก่อตั้งดีทีวีขึ้นมาไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบโต้กับเอเอสทีวี ส่วนข้อครหาว่าเป็นสื่อเทียม ก็เป็นเรื่องที่คิดมากกันไปเอง โดยดีทีวีจะออกอากาศครั้งแรกในวันจันทร์หน้านี้แน่นอน
ทั้งนี้ นายอดิศร กล่าวว่าในวันที่ 19 ม.ค.นี้ พร้อมทดลองออกอากาศตั้งแต่06.00น.ผ่านสัญญาณดาวเทียมไทยคม5โดยตนจะจัดรายการ"คุยกับอดิศร"ตั้งแต่เวลา14.00-15.00น.โดยเนื้อหาจะพูดถึงหลักการประชาธิปไตย ตลอดจนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองขณะนี้ เช่น เรื่องการตั้งรัฐบาลประชาธิปัตย์ ที่ไม่ชอบธรรม และในอนาคตจะเปิดข้อมูลที่ทหารมาแทรกแซงการเมืองในเชิงลึก ขณะนี้ตนมีข้อมูลจากข้าราชประจำและคณะกรรมาธิการการทหาร(กมธ.ทหาร)ส่งมาร้อยแล้วคิดว่าจะนำเสนอให้ประชาชนรับทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ชี้"พระพยอม"ออก ดีทีวี.ยิ่งชัด
ทางด้าน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกล่าวตอบโต้ว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พระพิศาลธรรมพาที หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ไปจัดรายการสนทนาธรรมทาง ดีทีวี เพราะความสัมพันธ์ของพระพยอมกับขบวนการเสื้อแดงเครือข่ายระบอบทักษิณ มีความใกล้ชิดกันมาก่อน มาถึงวันนี้ ก็ชัดเจนดีถือว่า เป็นการเปิดหน้า ไม่ต้องซุ่มซ่อน หรือลับลวงพราง ทำให้ประชาชนเห็นว่าใครเป็นใครและคิดอะไร
พธม.โต้ไม่เคยทวงบุญคุณ
ส่วนที่พระพยอมระบุว่ารัฐบาลเป็นลูกหนี้พันธมิตรฯ นั้น ไม่เป็นความจริงเพราะพันธมิตรฯ ไม่เคยไปทวงบุญทวงคุณจากรัฐบาล พวกเราต่อสู้อย่างยืดเยื้อเพื่อเอาการเมืองออกมาจากระบอบทักษิณคืนสู่ประชาชน ไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเขาพระวิหาร เรื่องการทวงคืนรัฐวิสาหกิจ ทรัพย์สินของแผ่นดินที่ถูกโกงไป การคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือแม้แต่การเมืองใหม่ ฯลฯ
"อยากเรียนถาม พระพยอมกลับว่าประเด็นเหล่านี้ เป็นผลประโยชน์ส่วนตัวของพันธมิตร หรืออย่างไร ในทางตรงกันข้าม นี่กลับเป็นผลประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศด้วยซ้ำไป"นายสุริยะใส กล่าว
บทบาททำให้สังคมเข้าใจผิด
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ส่วนการพูดจาพาดพิงพระพยอมในเวทีพันธมิตรฯนั้น ก็เป็นการวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของท่านเป็นบางครั้งเท่านั้นซึ่งท่านก็ต้องกลับไปไตร่ตรองดูว่าการวางบทบาทในบางสถานการณ์ทำให้สังคมเข้าใจผิด และเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่และที่ผ่านมาท่านก็ใช้สิทธิชี้แจงผ่านสื่อเป็นระยะๆอยู่แล้วซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าจะเชื่อใครดี เว้นแต่ท่านชี้แจงแล้ว สังคมอาจจะไม่เห็นด้วย หรือฟังไม่ขึ้นเท่านั้นเอง
ผู้ประสานงานพันธมิตรฯกล่าวด้วยว่า เมื่อท่านเลือกเข้ามาคลุกคลีการเมืองท่านก็ต้องยอมรับสัจธรรม พร้อมถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ตลอดเวลา ส่วนการ เชิญท่าน ว.วชิรเมธี หลวงปู่พุทธะอิสระ หรือท่านจันทร์มาร่วมรายการทางเอเอสทีวีนั้น อยากให้พระพยอมไปดูเนื้อหาการเทศนาธรรมของพระเหล่านี้ด้วยว่าไม่ได้บิดเบือน หรือมุ่งโจมตีเสื้อแดง แต่เป็นความพยายามเตือนสติสังคม หรือแม้แต่คนเสื้อเหลืองของพันธมิตรฯเองก็ตาม
ติงพูดการเมืองอาจผิดศีลได้
"ผมเป็นห่วงพระพยอม ท่านเป็นพระผู้ใหญ่ ท่านมีสิทธิที่จะพูดเรื่องการเมือง แต่ท่านต้องไม่พูดเท็จ หรือพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะท่านเป็นพระห่มผ้าเหลืองและท่านก็คงทราบดีว่าผู้ที่ครองตนในเพศบรรพชิตพูดจาสองแง่สองง่าม ก็ผิดศีล หรือเข้าข่ายมุสาได้เช่นกัน"นายสุริยะใสย้ำ
ชม พธม.เกาะกันเหนียวแน่น
ผู้สือข่าวรายงานว่า ในเย็นวันเดียวกัน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางจากโรงเรียนผู้นำจ.กาญจนบุรี ไปยังสนามกีฬาเทศบาลเมืองชลบุรี รวมงานคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 1 ท่ามกลางการต้อนรับของกลุ่มพันธมิตรฯกว่า2หมื่นคนที่เข้าร่วมงาน บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น
โดยพล.ต.จำลองกล่าวว่ารู้สึกปลื้มใจที่เห็นความกลมเกลียวของกลุ่มพันธมิตรฯในพื้นที่ต่างๆที่เดินทางเข้าร่วม หากทุกคนคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัวจะทำให้ความขัดแย้งต่างๆลดน้อยลง ที่สำคัญทุกคนจะต้องย้อนคิดถึงวันแรกของการรวมตัวที่ผ่านมาด้วยความยากลำบาก จนทำให้พันธมิตรฯมีความแข็งแกร่งอย่างมากในวันนี้ซึ่งหากพันธมิตรฯทุกคนเกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่นและรักษา ความสัมพันธ์ระหว่างกันไว้ให้ดี ก็จะทำให้พันธมิตรฯ แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ
"เสื้อแดง"เปิดวิทยุชุมนุมสู้
ในส่วนของการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงในภาคเหนือ ทางน.ส.จิระนันทร์ จันทวงศ์ แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนา เพื่อประชาธิปไตย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า กลุ่มเสื้อแดงใน จ.เชียงราย ได้เตรียมที่จะรวบรวมสมาชิกมาเป็นแนวร่วมในการกดดันรัฐบาล เบื้องต้นจะได้จัดตั้งคลื่นวิทยุชุมชนขึ้นภายในจังหวัดเพื่อที่จะเป็นการประชาสัมพันธ์ ผลงานที่ได้กระทำมา พร้อมชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบว่ารัฐบาลได้กระทำอะไรบ้างที่ผ่านมาและจะนำรถขยายเสียงประกาศ ไปทั่วจังหวัด ซึ่งกลุ่มแนวร่วมในจังหวัดนั้น จะมีการประชุมเพื่อวางมาตรการการต่อต้านในรูปแบบต่างๆต่อไป และขอยืนยันว่าขอเรียกร้องให้รัฐบาลชุดนี้ลาออก หรือยุบสภาไปโดยเร็ว
กกต.ขู่ตั้ง"แม้ว"ที่ปรึกษาโดนยุบ
ขณะที่ นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณี นายวิทยา บูรณศิริ ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย เสนอแนวคิดจะตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งถูกตัดสิทธิ์การเมือง และถูกศาลฎีกา สั่งจำคุก เป็นที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยว่าแม้กฎหมายจะไม่ระบุว่าผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ไม่สามารถเป็นที่ปรึกษาพรรคการเมืองอื่นได้ แต่ต้องระวังเพราะอาจมีผู้ร้องเรียนภายหลังโดยการส่งเรื่องให้ กกต.วินิจฉัย
"หากวินิจฉัยแล้วพบว่า ผู้ที่ถูกแต่งตั้งมีความผิด หรือส่อไปในลักษณะกระทบความมั่นคงของประเทศ ขัดกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง กกต.จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบพรรคทันที"นางสดศรี ย้ำ
ติงไม่ควรตั้ง-มีปัญหาแน่นอน
อย่างไรก็ตาม นางสดศรี กล่าวอีกว่าไม่ทราบจุดประสงค์ที่พรรคเพื่อไทยจะตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษา เนื่องจากต้องมีปัญหาตามมาอย่างแน่นอนและคิดว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เช่นเดียวกับพรรคเพื่อแผ่นดินซึ่งเคยส่งเรื่องให้วินิจฉัยกรณีคล้ายกันมาแล้วและที่ประชุมมีมติว่าไม่เหมาะสม พรรคเพื่อแผ่นดิน ก็ไม่ตั้งที่ปรึกษา ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง
เด็กแม้วเมินคำขู่เดินหน้าหนุนตั้ง
ขณะที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวตอบโต้นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ระบุว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย อาจส่งผลถึงถูกยุบพรรคว่าในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคมองว่าการตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาได้ พิจารณาข้อกฎหมายอย่างรอบคอบแล้ว จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรและไม่มีกฎหมายระบุว่าต้องส่งรายชื่อที่ปรึกษาต่อ กกต.จึงขอยืนยันว่าพรรคจะไม่ถอดชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษา
ส.ส.เชียงใหม่ คนนี้ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ต้องถามกลับไปที่นางสดศรีว่าเหตุใดจึงไม่แสดงความคิดเห็น หรือจับผิดกรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตกรรมการบริหารไทยรักไทย ที่มีส่วนร่วมในการเปิดตัวพรรคภูมิใจไทย ดั้งนั้น การที่นางสดศรี มุ่งประเด็นมาที่พรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียว เหมือนเป็นการเลือกปฎิบัติ
ชี้โยง"แม้ว"จ่อยุบพรรคภาค3
นายสุรพงษ์ อ้างอีกว่า ก่อนหน้านี้พรรคได้ทำหนังสือต่อ กกต. เพื่อให้ตรวจสอบกรณีนายเนวิน นายสมศักดิ์ ที่อยู่เบื้องหลังการจับขั้วรัฐบาลและตั้งพรรคการเมือง โดยมีภาพนายเนวิน ไปกอดคอกับอภิสิทธิ์ ยืนยันได้ชัดเจน แต่กกต.ไม่ดำเนินการอะไร แต่กลับพยายามจะโยงเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณให้ประเด็นทางการเมือง เพื่อหวังให้เกิดการยุบพรรครอบ 3 จึงฝากไปถึงนางสดศรี ควรระวังการให้สัมภาษณ์ในลักษณะนี้เพราะจะทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรอิสระยิ่งเสื่อมโทรมและจะทำให้สังคมแตกแยกมากขึ้น
"ยงยุทธ"พร้อมลงจากเก้าอี้หน.
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ภายในพรรคเพื่อไทย หลังจากที่มีข่าวว่าส.ส.ภาคอีสาน พรรคเพื่อไทยบางคน มีแนวคิดที่จะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทยกับส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินว่าเรื่องนี้ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็นเพราะถือว่าเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลของส.ส.แต่ละคนบอกได้เพียงว่าถ้า ส.ส.จะย้ายพรรคต้องดูในแง่กฎหมายให้รอบคอบว่าเปิดโอกาสให้ส.ส.สามารถทำได้หรือไม่ ถ้าทำได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนที่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย บางคนเรียกร้องให้เปลี่ยนหัวหน้าฯเพื่อให้มาทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯพร้อมกับปรับโครงสร้างผู้บริหารพรรค นายยงยุทธ กล่าวปฎิเสธว่าไม่มีความเห็น
ถ้าสมาชิกพรรคเห็นว่ามีบุคคลที่เหมาะสม ตนก็พร้อมที่จะไปทำงานด้านอื่น เช่น ด้านธุรการหรือด้านยุทธศาสตร์ ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร ทั้งนี้ มองว่าบุคคลที่จะเข้ามา คงไม่ใช่บุคคลภายนอกแต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับสมาชิกว่าจะมีความเห็นอย่างไร
ปรับทัพ"เพื่อไทย"สู้ปชป.
ด้าน นายอิทธิเดช แก้วหลวง สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมปรับโครงสร้างพรรคใหม่ว่าถ้ามีการยุบสภาและเลือกตั้งตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์ คงชนะพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน ดังนั้นจะต้องรีบปรับโครงสร้างพรรค วางกลยุทธเร็วเท่าไหร่ ยิ่งดีต่อพรรคมากขึ้นเท่านั้น
ส่วน มีการเคลื่อนไหวกดดันให้ หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ลาออกจากตำแหน่ง โดยจะให้มีการปรับโครงสร้างพรรคในวันที่ 30-31 ม.ค.ที่จะมีการประชุม ส.ส.และคณะกรรมการบริหารพรรค นายอิทธิเดช กล่าวว่ายังไม่ทราบว่าจะนำใครมาเป็นหัวหน้าพรรคแทนแต่สิ่งสำคัญอันดับแรกคือต้องปรับโครงสร้างพรรค และ ตำแหน่งหัวหน้าพรรค มีความสำคัญ ต้องมีการคัดเลือกหัวหน้าพรรคขึ้นมาใหม่ ส่วนของ ส.ส.ภาคเหนือ เราจะพยายามจับมือกันให้แน่นกว่านี้ แต่ยังไม่ได้วางหลักการให้ชัดเจน
ประชุมจัดทัพรองรับเลือกตั้ง
นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ ว่าในช่วงปลายเดือนม.ค.นี้จะมีการสัมมนา ส.ส. เพื่อจัดกระบวนทัพกำหนดทิศทางของพรรคในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาล รวมถึงการเก็บข้อมูลที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เชื่อว่าถ้าอภิปรายเมื่อไหร่รัฐบาลอยู่ไม่ได้แน่ และจะหารือการทำงานในพื้นที่ เพื่อเตรียมการเลือกตั้งที่ประเมินกันว่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เพราะดูจากการจัดทำงบประมาณกลางปีงบ เท่าที่คุยกับพรรคร่วมรัฐบาลในฐานะที่เคยทำงานร่วมกันก็ไม่ค่อยพอใจพรรคประชาธิปัตย์ พรรควิเคราะห์ว่าการจัดงบนี้หวังผลช่วงสั้นๆอาจยุบสภาเร็วๆนี้
ชู"ชวรัตน์"นั่ง หน.เหมาะสุด
ส่วนนาย บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้น นาย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เป็นคนเดียวที่จะถูกเสนอชื่อ เพราะมีความเหมาะสมที่สุด ส่วนคณะกรรมการบริหารพรรคนั้น โดยหลักการ จะมีไม่เกิน15 คน อาจมีทั้งคนที่เป็นส.ส.และคนนอก ขึ้นอยู่กับที่ประชุมพรรค จะเลือก หาก ส.ส.คนใดไม่พร้อม ก็ไม่เป็นไร ส่วนสถานที่ตั้งที่ทำการพรรคภูมิใจไทย มีอยู่ 2 แห่ง ที่อยู่ใกล้รัฐสภาเพื่อสะดวกในการเดินทาง จะนำเข้าที่ประชุมพรรควันที่20ม.ค.นี้ก่อน
นายมานิตย์ นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี สมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าส่วนกรรมการบริหารพรรคใหม่ จะต้องรอมีการประชุมใหญ่ของพรรคก่อนโดยชัดเจนว่านายชวรัตน์ จะเป็นหัวหน้าพรรค และนางพรทิวา นาคาศัย จะเป็นเลขาธิการพรรค ส่วนคณะกรรมการบริหารพรรคนั้น เป็นไปได้ที่กรรมการบริหารพรรค จะไม่ใช่ ส.ส. เพราะยุคนี้ไม่มี ส.ส.คนไหน อยากเป็นกรรมการบริหาร พรรค เนื่องจากกลัวถูกตัดสิทธิ์การเมืองเหมือนที่เป็นมา
โหรชี้"มาร์ค"ไม่ยุบสภา-พ้นเมษารุ่ง
ในวันเดียวกัน นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหร คมช.ชื่อดังใน จ.เชียงใหม่ กล่าวในรายการลับ ลวง พราง สถานีวิทยุเอฟเอ็ม100.5 ว่าการบริหารงานประเทศของรัฐบาล จะต้องให้ผ่านช่วงเดือนกุมภาพันธ์ไป ทุกอย่างจะดีขึ้นตามลำดับ และเดือนเมษายน ทุกอย่างจะดีขึ้นตามลำดับรวมถึงรัฐบาลจะได้อยู่ปกครองบ้านเมืองในระยะยาว หากรัฐบาลพ้นวิกฤติ2เดือนนี้ไปได้จะอยู่ยาว แต่วิกฤตินั้น จะไม่รุนแรงถึงขั้นนองเลือดเหมือนปีที่ผ่านมา ส่วนการยุบสภานั้น ช่วงนี้ไม่เกิดแน่นอนซึ่งดูนายอภิสิทธิ์ มีความตั้งใจดีในการประคองชาติบ้านเมืองเพื่อฟันฝ่ามรสุม
" ที่ผ่านมาตลอดปี2551ชาติเกิดวิกฤติมากมายเหมือนเป็นกรรมของแผ่นดิน ซึ่งเมื่อเปิดนิมิต เห็นเป็นการร่วมใจกันเพื่อสร้างบุญให้กับแผ่นดินเพื่อผ่อนคลายกรรม เมื่อถึงเวลานี้กรรมได้คลายไป แต่ยังไม่หมดจนกว่าจะผ่านวิกฤติเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ทุกอย่างจึงจะเป็นปกติ ส่วนวิธีการแก้ที่รัฐบาล จะทำบุญประเทศนั้น ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ผ่อนคลายกรรมลงไปได้" โหรชื่อดัง กล่าวและว่าสำหรับดวงในการปฏิวัติรัฐประหารนั้น ไม่น่าจะเกิดขึ้นและในเวลานี้พรรคประชาธิปัตย์กับกองทัพจะต้องช่วยกันประคอง และมีหน้าที่ดูแลซึ่งกันและกัน
ศน.ค้าน"พระพยอม"ออก ดีทีวี
ขณะที่ นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวถึงกรณีพระพิศาลธรรมพาที หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ร่วมออกรายการของสถานีโทรทัศน์ดีทีวีว่า ในส่วนของ พศ. คงไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว และไม่ออกความคิดเห็น เพราะ พศ.มีหน้าที่สนองงานคณะสงฆ์ แต่ในส่วนพระสงฆ์จะปฏิบัติภารกิจอะไรนั้นเป็นเรื่องของเจ้าคณะผู้ปกครองต้องดูแล ว่าพระที่ออกมาพูดในเวทีการเมือง ถูกต้องตามระเบียบวินัยสงฆ์หรือไม่ และถูกต้องตามกฎมหาเถรสมาคม (มส.) หรือไม่
ด้านนายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พระสงฆ์ที่ออกมาพูดในเวทีการเมือง มองเป็นเรื่องสิทธิของท่าน ในเมื่อมหาเถรสมาคม (มส.) ไม่ได้ว่าอะไร อีกทั้ง ศน.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบทบาทของพระ แต่ในความคิดเห็นส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรทำ