ที่มา ไทยรัฐ
พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี
ยืนยันมีหลักฐานชัดเจน พร้อมต่อสู้คดีในชั้นศาล พร้อมเชื่อข้อมูลมีประโยชน์ต่อรูปคดี ขณะที่"ชวน"สวนกลับ"พัลลภ"สร้างข่าวทำสับสน หวังทำทุกอย่างให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้.......
วันนี้(17 พ.ย.)พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย และอดีตรอง ผอ.รมน. กล่าวถึงกรณีที่นำพยาน 2 ราย ที่เคยให้การต่อตุลาการรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคไทยรักไทยมาเปิดเผยว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ คนละ 15 ล้านบาท เพื่อปรักปรำพรรคไทยรักไทยว่า การออกมาเปิดเผยเรื่องราวครั้งนี้ เป็นเพราะพยานทั้ง 2 คนสำนึกผิด และต้องการเปิดเผยข้อเท็จจริงให้สาธารณชนได้รับทราบว่า ตัวเองได้รับการว่าจ้างเป็นเงิน 15 ล้านบาท ซึ่งไม่แน่ใจว่า จะมีผลต่อคดียุบพรรคไทยรักไทยหรือไม่ เพราะศาลได้ตัดสินไปแล้ว เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายที่จะต้องว่ากันต่อไป แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะพอมีประโยชน์ต่อรูปคดีของ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ที่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา รวมทั้งสถานะของอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คนด้วย
พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า อยากให้สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ออกมาเรียกร้องสิทธิของตัวเองด้วย ส่วนตัวไม่รู้สึกหวั่นไหวหากนายสุเทพจะฟ้องหมิ่นประมาท เพราะมีหลักฐานชัดเจนในเรื่องของการโอนเงิน จึงพร้อมที่จะต่อสู้คดีในชั้นศาล ทั้งนี้ตนจะนำเรื่องนี้แจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อให้รับทราบ ต่อจากนี้พรรคจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายกฎหมายของพรรค เพราะตนเป็นแค่เพียงคนเปิดประเด็นเท่านั้น
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าหลักฐานต่างๆของคนที่ออกมาแถลงข่าวเป็นอย่างไร ส่วนการออกมาแถลงโดยระบุเป็นแผนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ตั้งใจบังคับพยานให้ยุบพรรคไทยรักไทย ก็ต้องย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ตอนนั้นแล้วจะรู้ดี เพราะคนที่ไม่ได้ติดตามเหตุการณ์จะสับสนว่า เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างไร สมัยนั้นใครมีอำนาจ ใครเป็นรัฐบาลอยู่ก็รู้กันอยู่ การวิ่งเต้นคดี การจ่ายเงิน มีเรื่องตอนที่มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ออกมาเปิดเผยเองว่า มีการวิ่งเต้นคดีราว 30 ล้านบาท โดยนายตำรวจแต่ผู้พิพากษากับตัวตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่รับ มาถึงวันนี้คดีดังกล่าวยังไม่จบ ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม หลายคนคงจะลืมไปแล้วว่า สมัยนั้นมีการวิ่งเต้นเพื่อล้มคดีแต่ไม่สำเร็จจึงกลายเป็นเหตุผลหนึ่งที่ ทำให้คนกลุ่มนี้ด่าศาล เพราะวิ่งเต้นคดีไม่สำเร็จ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะฟ้องกลับหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ตนตอบแทนไม่ได้ ต้องรอให้ถามหัวหน้าและเลขาธิการพรรคเป็นผู้ตอบจะดีกว่า และคงต้องรอให้คณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พูด ตนไปพูดแทนเขาไม่ได้ แต่อะไรที่ไม่จริงคนที่ออกมาพูดก็ต้องรับผิดชอบ อีกทั้งเพิ่งจะได้อ่านข้อมูลที่ พล.อ.พัลลภ พูดวันนี้ ก็เห็นเจตนาชัดเจนว่า ทำเพื่ออะไร แต่ตนคิดว่า เขาคงต้องการทำทุกอย่าง ซึ่งไม่ใช่ของแปลกอะไรเพราะเป้าหมายได้พูดชัดเจนในช่วงเวลาเกือบปีที่ ผ่านมาว่า ต้องทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้รัฐบาลนี้อยู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นในสภาหรือนอกสภา หรือด้วยวิธีใดก็ตาม