ที่มา บางกอกทูเดย์
ทำวิกฤติเป็นโอกาส!ต้องกระตุ้นเซรุ่มให้ “มวลชน” เกิดความฮึกเหิม...ไม่สนใจยี่หระและเกรงกลัวต่อภัยอันตรายที่เกิดขึ้นผมกำลังพูดถึงเหตุมือมืด “ลอบบึ้ม” ยิงระเบิด M 79 ถล่มกลุ่มพันธมิตรฯ ในหมายงาน “ชุมนุมใหญ่” เมื่อ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาเล่นเอาตลาดนัดชุมนุมถึงกับ “วงแตกแหกกระเจิง” ทั้งที่ยังมิอาจพิสูจน์ได้ว่าเป็น “กฐินจอง” จากกลุ่มอำนาจฝ่ายใดแต่ทว่าเวลานี้...กลุ่มการเมืองนอกสภา “เสื้อเหลือง” ได้พุ่งเป้าไปที่ตัวนายทหารนักบู๊อย่าง “เสธ.แดง”
พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผลซึ่งเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการรบ“ใจกล้าบ้าบิ่น”โดยเฉพาะพฤติกรรมการแสดงออกทางการเมืองที่ยึดมั่นฝังรากและยืนหยัดอยู่ “ฝั่งตรงข้าม”กลุ่มพันธมิตรฯ อย่างชัดเจนงานนี้เลยถูก “กาหัว” ถูกตั้งเป็นผู้ต้องสงสัยโดยแกนนำกู้ชาติ “ยะใส” สุริยะใส กตะศิลา ออกมารับหน้าที่เป็น “พีอาร์หน้าดำ” แสดงตนเปลี่ยนอาชีพจาก นักเคลื่อนไหว เป็น “หมอดู” นักทำนายฟันธง...ฉั๊วะ! เสธ.แดง คนนี้แหละคือ “ผู้รับใช้” ทักษิณ ชินวัตร...ยิง M 79
ถล่มกลุ่มพันธมิตรฯผมว่า “ยะใส” ควรสงบใจให้นิ่ง...ปล่อยให้เป็นหน้าที่การทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาสอบสวน “พิสูจน์หลักฐาน” ให้แน่ชัด...ก่อนชี้ชัดตัดสิน “ลงโทษ” ในความผิดปล่อยคนผิดไปร้อยคน...ดีกว่าจับคนบริสุทธิ์เพียงคนเดียวคนที่ทำเรื่องนี้ย่อม “รู้ดีอยู่แก่ใจ” แต่พยานหลักฐานจะสาวไปถึง “ตัวผู้บงการ” ได้หรือไม่...ต้องอยู่ที่ “ฝีมือ” การสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่เพราะขนาดคดีของ “ท่านลิ้ม” ที่ถูกลอบสังหารหมายปลิดชีพคารถตู้คันหรู...ถึงเวลานี้ยัง
ไม่คืบหน้า “ลากคอ” ตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษไม่ได้หากวัด “เนื้อแท้ตัวตน” ระหว่างบุคคลทั้งสอง ยะใส กับ เสธ.แดง...ท่านสมควรจะเชื่อบุคคลใดมากกว่ากันคนหนึ่ง “กู้ชาติ” มีรถมีบ้านราคาเป็นสิบล้านเสวยสุข...กับอีกคนเป็น “ทหารนักรบ” แต่ถูก “ทหารนักกอล์ฟ” เชลียร์ขึ้นตำแหน่งข้ามหน้าข้ามตาเป็นใหญ่กันไปหมดแล้วใครกันที่เป็น “คนจริง”