WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, November 19, 2009

ประณามลั่นเน็ตจับแพทย์หญิงแพะรายที่4 เผด็จการกวาดล้างฝ่ายประชาธิปไตยในโลกออนไลน์

ที่มา Thai E-News


เหยื่อรายล่าสุด-แพทย์หญิงทัศพร รัตน์วงศา ตกเป็นเหยื่อคดีปล่อยข่าวอัปมงคลทุบหุ้นเป็นรายที่ 4 ชุมชนโลกออนไลน์ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ต้องหาคดีนี้คือเป็นปัญญาชน ชนชั้นกลางทั้งแพทย์ นักการเงิน คนในวงการค้าหลักทรัพย์ ซึ่งรัฐบาลเผด็จการมุ่งหมายกวาดล้างชุมชนโลกออนไลน์ที่เคลื่อนไหวประชาธิปไตย ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ เพื่อทำลายความเคลื่อนไหวของชนชั้นกลางที่เรียกร้องประชาธิปไตย


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
19 พฤศจิกายน 2552

สมาชิกประชาไทแนะวิธีไม่ตกเป็นเหยื่ออำนาจรัฐเผด็จการ ต้องป้องกันตัวรัดกุม ก่อนชูธงเคลื่อนไหวประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการอำมาตยาธิปไตยในโลกออนไลน์

กระดานสนทนาที่เคลื่อนไหวสนับสนุนประชาธิปไตย และต่อต้านเผด็จการอย่างห้องราชดำเนิน เวบพันทิป กระดานสนทนาชุมชนฟ้าเดียวกัน และกระดานสนทนาประชาไท ได้พากันออกโรงประณามการจับกุมเหยื่อคดีคอมพิวเตอร์รายล่าสุดที่เป็นแพทย์หญิง โดยตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการจ้องกวาดล้างฝ่ายประชาธิปไตยในโลกอินเตอร์เน็ตเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู ขณะที่มีการตั้งคำถามว่า คดียึดสนามบินสุวรรณภูมิที่หลักฐานชัดแจ้งใกล้ครบขวบปีแล้ว ทำไมไม่จับบ้าง

ASTVสื่อกระบอกเสียงของพันธมิตรรายงานข่าวอ้างว่า แพทย์หญิงที่ถูกจับล่าสุดนี้เป็นสมาชิกเวบบอร์ดประชาไท ใช้ชื่อในการโพสต์ว่าmom เขียนเผยแพร่เกี่ยวกับอาการพระประชวรในทางที่ไม่เป็นมงคล ซึ่งตำรวจอ้างว่าเป็นต้นตอทุบหุ้นระหว่างวันที่ 14 -15ตุลาคมที่ผ่านมา

จับแพทย์หญิงโยงแพร่ข่าวอัปมงคลทุบหุ้น

ทั้งนี้จากกรณีที่ตำรวจ บช.ก.จำนวนหลายหน่วยงานได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาที่กระทำความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เรื่องการโพสต์ข้อความอันมิบังควรผ่านทางเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต จนก่อให้เกิดความไม่มั่นคงต่อประเทศชาติและส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจรวมถึงตลาดหุ้นไทยนั้น โดยมีผู้หา 3 คน คือ นายคธา ปาจาริยพงษ์ พนักงานบริษัทหลักทรัพย์เคที ซีมิโก้ จำกัด น.ส.ธีรนันต์ วิภูชนันธ์ อายุ 43 ปี กรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์ยูบีเอส (ประเทศไทย) จำกัด และนายสมเจตน์ อิทธิวรกุล อายุ 38 ปี เจ้าของโต๊ะสนุ๊กเกอร์แห่งหนึ่งในชลบุรี

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้(18 พ.ย.) พล.ต.ต.เกรียงศักดิ์ อรุณศรีโสภณ ผบก.ปอท. และพ.ต.อ.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รอง ผบก.ปอท. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปอท.เข้าจับกุมตัว พญ.ทัศพร รัตน์วงศา อายุ 42 ปี แพทย์รังสีวิทยา โรงพยาบาลธนบุรี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ.เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหายปี 2550 ข้อหานำเข้าข้อมูลอื่นและเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงต่อประเทศ โดยมีพฤติกรรมไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ ปล่อยข่าวให้เกิดความเสื่อมเสีย มีโทษจำ 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยสามารถจับกุมตัวได้ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ใน รพ.ธนบุรี ถนนตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม.

จากการสอบสวนเบื้องต้น พญ.ทัศพร ยอมรับว่า เคยโพสต์ข้อความมิบังควรลงในเว็บบอร์ดจริง แต่ไม่มีเจตนาจะมุ่งร้ายต่อสถาบันเบื้องสูง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปตรวจค้นที่ห้องพัก ภายในรอยัลปาร์ค คอนโดมิเนียม ภายในซอยพหลโยธิน 8 พบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง จึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

พ.ต.อ.พิสิษฐ์ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้พบข้อมูลเกี่ยวกับข้อความอันมิบังควรที่ พญ.ทัศพร โพสต์ลงบนเว็บบอร์ด จึงรวบรวมพยานหลักฐานติดตามไปจับกุมได้ภายในโรงพยาบาล เบื้องต้นทางผู้บังคับบัญชาได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาร่วมกับ นายอารีย์ จิวรรักษ์ ผอ.สำนักการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ แล้วคาดว่าน่าจะอนุญาตให้ประกันตัวออกไปเหมือนรายอื่นๆ ที่เคยถูกจับกุมมาก่อนหน้านี้ แต่จะต้องถูกควบคุมบริเวณไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศไทย ส่วนจะถูกแจ้งข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่นั้น หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และกระทรวงไอซีที ที่จะดำเนินการหาพยานและหลักฐานมาดำเนินการต่อไป

ขณะที่ พล.ต.ต.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหากับพญ.ทัศพร ในความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหายปี 2550 โดยนำข้อมูลโพสต์เข้าไปทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดเอาคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหามาตรวจสอบ ว่าจะมีผู้ใดเกี่ยวข้องอีกบ้าง หากพบมีผู้เกี่ยวข้องก็จะออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป ซึงตอนี้ยังไม่มีการออกหมายจับใคร ต้องรอผลการตรวจสอบหลักฐานอีกครั้ง

ฝ่ายประชาธิปไตยในโลกออนไลน์เซ็งชี้เผด็จการจ้องกวาดล้างปชต.โลกออนไลน์

ห้องสนทนาราชดำเนิน เวบพันทิป ได้ตั้งข้อสังเกตว่าแพทย์หญิงรายนี้โพสต์ลงประชาไท ซึ่งเป็นห้องสนทนาที่คนสนใจการเมืองมากกว่าเรื่องหุ้น ไม่น่ามีอิทธิพลทุบหุ้นได้ จึงน่าจะเป็นแพะมากกว่า

ส่วนห้องสนทนาประชาไทก็ตั้งข้อสังเกตทำนองเดียวกัน กับเย้ยหยันว่าไม่มีหลักฐานอะไรเลย หุ้นตกหนักแล้ว สมาชิกประชาไทค่อยแปลมาลงทีหลัง แต่ก็โดนจับ เป็นการำระทำที่ต้องการทำลายฝ่ายที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลและเผด็จการในโลกอินเตอร์เน็ตมากกว่า

สมาชิกเวบบอร์ดประชาไทยังได้เสนอแนะสมาชิกให้หาทางป้องกันตนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแบบเดียวกับผู้ต้องหา4รายที่ผ่านมาผ่านกระทู้มารู้ทัน+วิธีแก้ ว่ารัฐรู้ได้อย่างไรว่าคุณเป็นใครโดยไม่ต้องขอล็อกไอพีจากคุณจีรนุช

หลายๆคนอาจสงสัยว่าไอซีทีรู้ได้ไง วิธีการที่ง่ายๆก็คือการ sniff หรือดักจับ เเพคเก็จข้อมูลโดยอาศัย isp ช่วยทำงานให้ โดยกรองแค่ข้อมุลที่วิงมาที่ประชาไท ซึ่งก็จะรู้ว่ามาจากไอพีอะไร จากนั้นไอเอสพีก้จะเข้าไปดูว่าไอพีนี้ถูกแจกให้กับยูสเซอร์อะไรลงทะเบียนโดยใคร จากนั้นก็ไปไล่ดูว่าคนดังกล่าวมีฐานะ อาชีพ ประวัติเป็นใคร ถ้าเข้าเค้าก็โอเคเลย

ส่วนอีกแบบก็คือให้ไอเอสพีดูในลอกไฟล์การใช้งานของลูกค้าหรือยูสเซอร์ ว่าใครเข้าใช้ ประชาไทบ้าง จากนั้นก้ไปไล่ดูไอพี แล้วก็ ประวัติ ยูสเซอร์ที่ลงทะเบียนไว้ ซึ่งวิธีนี้ทางไอเอสพีกก็อาศัยการดักจับแพคเกจหรือ sniff อีกนั่นแหละ

การ sniff จะทำให้รุ้ที่มา แล้วก็ จดุหมายของ แพคเก็จข้อมูล

วิธีแก้ไขก็คือ ทำการพรางไอพีด้วยการใช้ proxy หรือ ซอฟแวร์ ประเภท ฟรี vpn (เช่น hotspot shield ที่คนเล่นแคมฟรอกใช้กัน) ก็จะช่วยได้ วิธีนี้จะทำให้ ที่มาของแพคเก็จไม่ได้มาจากคุณเองแต่มาจากเวบไซต์พรอกซี่หรือผู้ให้บริการ vpn นั่นเอง

อีกเทคดนโลยีหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือ tor ซึ่งหลายคนคงเคยได้ยินข่าวเวบของกระทรวงกลาโหมโดนแฮกมาแล้วสมัย คมช ซึ่งการแฮคก็อาศัยเทคโนโลยี ทอร์ นี่แหละครับ ทอร์นั้นทำงานคล้าย proxy แต่ต่างกันที่ว่า ทอร์นั้นมีลักษณะเป็นเครือข่าย ดังนั้นโอกาสที่จะเทรซหรือหาต้นตอของแพคเก็จนั้นแทบเป็น 0 สำหรับทอร์แล้ว เครื่องคอมทุกเครื่องทำหน้าที่เป็นเกตเวย์เซิฟเวอร์ได้ในตัว ซึ่งคุณสามารถใช้งานทอร์ได้แบบฟรีๆด้วยการติดตั้งใช้งานปลักอิน (plug-in) tor ใช้งานให้กับ firefox
ดาวน์โหลดได้ที่ https://addons.mozilla.org/en-US/firefox/downloads/latest/2275/addon-227...

ข้อเสียก็คือการใช้งาทอร์นั้นจะช้าหรือเร้วขึ้นอยุ่กับว่าคุณ ถูก bind เข้ากับเครื่องคอมเครื่องไหน และ มีขนาด/ปริมาณการใช้งานแบนวิดท์เยอะหรือเปล่า

ซึ่งหลังจากเข้าใช้งาน คุณสามารถตรวจสอบคุณเองว่าได้ใช้งานไอพีตัวไหน ด้วยการเข้า ไปเช็คได้ที่ www.speedtest.net ตราบใดที่ไอเอสพี่ที่ปรากฏไม่ใช่ไอเอสพีที่คุณใช้งานก็แสดงว่าใช้งานได้

ฟ้าเดียวกันออกแถลงการณ์ประณามจับแพะเพื่อทำลายเสรีภาพในการแสดงออก


ส่วนชุมชนฟ้าเดียวกันที่ก็มักตกเป็นเป้าหมายการกวาดล้างปราบปรามเช่นเดียวกับเวบประชาไทก็ได้ออกมาวิจารณ์ทำนองเดียวกัน และก่อนหน้านี้ได้ออกแถลงการณ์ประณามการจับแพะกรณีทุบหุ้น


การจับกุมอิสรชนสามท่าน ซึ่งได้แก่ คุณคฑา ปาจริยพงษ์ คุณธีระนันท์ วิปูชนินท์ และคุณ สมเจต อิทธิวรกุล ในข้อหาป่วนตลาดหุ้น จากข้อเท็จจริงคุณคฑา ได้แสดงความคิดเห็นถึงสาเหตุหลังเหตุการณ์หุ้นตกไปแล้ว และคุณจีระนันท์ ได้แปลข่าววิเคราะห์จากต่างประเทศถึงสาเหตุของการหุ้นตกที่ผ่านมา เห็นได้ว่า ทั้งสามท่านมิได้เป็น "ต้นเหตุ" ของภาวะเหล่านั้นไม่ว่าจะพิจารณาในทางใด เหล่านี้สะท้อนได้ว่า การจับกุมอย่างจงใจสะเพร่าเช่นนี้ เกิดขึ้นเพื่อรองรับมูลเหตุจูงใจบางประการ และพยายามเร่งขยายผลต่อไป เช่น การคุกคามเว็บบอร์ดของชุมชนฟ้าเดียวกัน(www. sameskyboard.com) เว็บบอร์ดประชาไท(www.prachataiwebboard.com) และกระดานสนทนาฟรีสปีช อื่นๆ โดยอาศัยกฎหมายล้าสมัยและไร้ศีลธรรมต่ำทรามอย่างที่สุด เช่น ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา๑๑๒ ซึ่งพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐ เป็นอีกหนึ่งในเครื่องมือแห่งการคุมคามนี้

การแสดงความคิดเห็น และการเผยแพร่ข่าวสารในเหตุการณ์ต่าง ๆ ล้วนเป็นสาระสำคัญพื้นฐานแห่งสิทธิเสรีภาพของประชาชน การอ้างภัยแห่งความมั่นคงนั้น ล้วนเป็นข้ออ้างของรัฐบาลเผด็จการทุกยุคสมัย

ในความเป็นจริง มีข่าวลือจำนวนมากในตลาดหุ้น รวมถึงปัจจัยตัวแปรต่าง ๆ การเจาะจงเรื่องนี้ ซึ่งก็คือ ข่าวลือเกี่ยวกับสถาบัน แสดงให้เห็นว่า ผู้มีอำนาจต้องการขยายผล เพื่อละเมิดสิทธิในเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนผู้ใช้อินเตอร์เน็ท- ชุมชนออนไลน์ต่างๆ โดยมีลักษณะเป็นเผด็จการในการปิดกั้นการรับรู้และแสดงออกทางการเมืองของ ประชาชน โดยพยายามอ้างนักลงทุนเป็นพวก

นอกจากนี้ ความปั่นป่วนในตลาดหุ้นที่เกิดขึ้น ย่อมสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนมีความไม่ไว้วางใจต่อ "แถลงการณ์จากรัฐ" หรือ "แถลงการณ์จากราชสำนัก" ภายใต้สังคมที่ปฏิเสธความจริง หรือปิดกั้นเสรีภาพ อยู่เนือง ๆ ย่อมสร้างภาพแห่งความไม่น่าเชื่อถือ ไม่ว่านักลงทุนไทยหรือต่างชาติ คงตระหนักซึ้งในเรื่องเหล่านี้ดี

การถูกบังคับให้เชื่อ ให้ได้ยิน ให้ได้ฟัง อยู่ด้านเดียวนี้เอง เป็นกลไกหนึ่งที่บั่นทอนความน่าเชื่อถือ "แถลงการณ์จากรัฐ" และ "แถลงการณ์จากราชสำนัก" จึงไม่น่าแปลกใจว่า "ข่าวลือ" จะสามารถปั่นป่วนตลาดหุ้นไทยได้ขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่แถลงการณ์สำนักพระราชวังได้ออกมาอย่างเนือง ๆ แต่หาสร้างน้ำหนักอันมีผลต่อการตัดสินใจไม่

ในครานี้ ฝ่ายรัฐ กลับตอกย้ำปมปัญหา โดยการคุกคามสิทธิเสรีภาพอีกครั้ง และเป็นการจับแพะได้อย่างน่าละอายยิ่ง วิญญูชนล้วนตระหนักดี และเล็งเห็นได้ว่าจะมีการ "หาเรื่อง" และ "จับแพะ" เพิ่มเติม การจงใจสะเพร่าเช่นนี้ จะอ้างว่า ให้พิสูจน์ในชั้นศาล ไม่อาจฟังขึ้น เพราะเป็นการใช้อำนาจตามอำเภอใจ อยากจับใครก็ได้ ให้พิสูจน์ในชั้นศาลเอาเอง ซึ่งขัดต่อหลักสาระสำคัญแห่งสิทธิเสรีภาพในรัฐประชาธิปไตย และการบังคับใช้กฎหมายอย่างบิดเบือน อันบั่นทอนหลักนิติรัฐ เรื่องเหล่านี้ในนามชุมชนเว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน ไม่อาจยอมรับได้ และขอเรียกร้องดังนี้

๑.แม้จะเป็นการเริ่มต้นดำเนินคดี อย่างมิชอบ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐ ได้ดำเนินคดีแล้ว ก็ต้องเคารพระเบียบกระบวนการทางกฎหมาย โดยหลักการประชาธิปไตยในโลกสากล ตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ และรัฐธรรมนูญทุกฉบับของราชอาณาจักรไทย ได้เคารพในหลักการว่าผู้ถูกกล่าวหาคือผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะถูกพิสูจน์โดยกระบวนการอันชอบด้วยกฎหมายว่ากระทำความผิด โดยกระบวนการพิสูจน์ตามกฎหมายนั้น จะต้องกระทำโดยเปิดเผยและให้โอกาสต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ในขณะนี้ ผู้ใช้อินเตอร์เน็ททั้งสามท่านที่ถูกดำเนินคดี จะต้องถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และ ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดจนเจ้าพนักงานในกระบวนยุติธรรมทางอาญาทั้งหลายที่เกี่ยวข้อง ต้องดำเนินคดีต่อผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามท่าน อย่างเปิดเผยและเป็นไปตามปฏิญญาสากลของสหประชาชาติ รัฐธรรมนูญ และกฎหมายด้วย

๒.พระราชบัญญัติความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ที่ถูกบังคับใช้ในครั้งนี้ ทำหน้าที่เสมือนส่วนขยายของ กฎหมายอาญาฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ซึ่งขัดต่อปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน มาตรา ๒ โดยชัดแจ้ง ในทางหนึ่ง แม้แต่องค์พระมหากษัตริย์รัชกาลปัจจุบันเอง ยังเคยมีพระราชดำรัสว่า กฎหมายดังกล่าวสร้างความเสื่อมเสียให้กับสถาบันกษัตริย์

๓.พลเมืองเสรีประชาธิปไตย โปรดประณามการจับกุมในรูปแบบนี้ และเผยแพร่พฤติกรรมที่น่าละอายของเจ้าพนักงานรัฐไทย แพร่ขยายไปยังสื่อทั้งในและนอกประเทศ

๔.พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐ , บรรดากฎหมายซึ่งออกโดยคณะรัฐประหารทั้งปวง ตลอดถึงกฎหมายที่ละเมิดหลักเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและที่ละเมิดต่อหลัก การสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน ทุกฉบับ ทุกมาตรา ต้องถูกยกเลิกโดยเร็วที่สุด

๕.การใช้อำนาจคุกคามสิทธิเสรีภาพทางความเห็น ไม่ว่าจะอาศัยอำนาจโดยในหรือนอกกฎหมาย ต้องไม่เกิดขึ้นอีก

๖.เราคาดว่าน่าจะมีการ"หาเรื่อง"และ" จับแพะ" เพิ่มเติม ซึ่งเราผู้รักประชาธิปไตยนั้นไม่เห็นด้วยและจะพยายามคัดค้านในทุกวิถีทาง

สุดท้ายนี้เราอาจกล่าวต่อท่านว่า แม้ท่านอาจจะปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงเจตนาเพียงใด แต่สิทธิอันท่านไม่อาจก้าวล่วง และไม่อาจหาเครื่องมือในการปิดกั้นหรือบังคับได้เลย คือ "สิทธิในการคิด ในความศรัทธา ในความรัก ในความเกลียดชัง" อันเป็นสิทธิสัมบูรณ์โดยแท้ที่ไม่มีผู้ใดเคยสามารถที่จะจำกัดบังคับได้