ที่มา ประชาไท
สืบเนื่องจากกรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีต รองผอ.กอ.รมน. นำพยาน 2 ราย ที่เคยให้การต่อตุลาการรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคไทยรักไทยมาเปิดเผยว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ คนละ 15 ล้านบาท เพื่อปรักปรำพรรคไทยรักไทย จนทำให้พรรคไทยรักไทยถูกยุบไปในที่สุดนั้น
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้ความเห็นต่อเรื่องดังกล่าว โดยยอมรับว่า การต่อสู้เพื่อให้รื้อฟื้นคดีและชนะคดียุบพรรคไทยรักไทยนั้นเป็นเรื่องยาก แม้จะมีพยาน 2 คนออกมาสารภาพว่าถูกจ้างวานให้เป็นพยานเท็จก็ตาม ดังนั้น จะพุ่งเป้าไปที่การเอาผิดกับพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ว่าจ้างให้พยานทั้ง 2 คน มาใส่ร้ายพรรคไทยรักไทย เพราะถือเป็นข้อมูลใหม่ที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน และเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ผู้เกี่ยวข้องกำลังประสานงานกับ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และอดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยที่ตกเป็นจำเลยคดีอาญาในฐานะผู้ว่าจ้างพรรคเล็กให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อขอให้มาเป็นเจ้าภาพในการดำเนินคดีกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะถือว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรง
ทั้งนี้เขากล่าวด้วยว่า เมื่อได้หลักฐานใหม่ที่เป็นประโยชน์ในทางคดี เราก็มีสิทธิอันชอบธรรมในการเล่นงานพรรคประชาธิปัตย์ นี่คือเป้าหมายที่มีโอกาสเป็นไปได้สูง สำหรับขั้นตอนในการดำเนินการเอาผิด จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ 1.การเข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อขอให้ดำเนินคดีอาญากับพรรคประชาธิปัตย์ฐานจงใจใช้พยานเท็จ และ 2.การยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กตต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากเลขาธิการพรรคกระทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง หาก กกต.วินิจฉัยว่ามีมูล ก็จะยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อขอให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาต่อไป
............................
ที่มา : เรียบเรียงจากเว็บไซต์มติชน