ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
โดยเฉพาะในเรื่องหลังสุดกลายเป็นข้อน่าห่วงใยที่สุดในยามนี้
ไม่ว่าจะเป็นคนในวงการไหน ต่างก็ต้องจับตากรณีนี้อย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะบรรดานักธุรกิจไทยที่ไปลงทุนในกัมพูชา
รวมไปถึงสวัสดิภาพของคนไทยที่ทำงานที่โน่น เพราะมีวิศวกรไทยถูกจับด้วยข้อหาจารชนไปแล้ว!!
จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลไทย และผู้เกี่ยวข้องทั้งปวงต้องหาทางเจรจาเพื่อช่วยเหลือให้ได้โดยเร็วที่สุด
สิ่งหนึ่งที่กำลังเป็นปัญหาถกเถียงกันมากมายระหว่างไทย-กัมพูชา เป็นกรณีเกี่ยวกับระบบยุติธรรม และความเที่ยงธรรมในการใช้กฎหมายของไทย
รัฐบาลไทยเกรี้ยวกราดอย่างยิ่งหลังนายฮุนเซนไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ โดยอ้างว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับขั้นตอนทางกระบวน การยุติธรรม
รัฐบาลพยายามย้ำอย่างหนักแน่นถึงความเที่ยงตรง
แต่ฝ่ายกัมพูชา และเสื้อแดง ยังสงสัยอยู่!?
ประการหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องหนีคดีอยู่ตอนนี้ถูกลงโทษโดย"ศาลเดียว"
ในขณะที่ระบอบยุติธรรมที่เชื่อถือกันทั่วโลกรวมทั้งเมืองไทยเอง จะเป็นระบบ 3 ศาลคือชั้นต้น อุทธรณ์ และฎีกา
หากเรายอมรับในระบบ "ศาลเดียว" ว่าเที่ยงธรรมเพียงพอ และเหมาะสมสำหรับเมืองไทย เกิดมีคนแนะนำให้ยกเลิกระบบ 3 ศาลที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จะเป็นอย่างไร
อีกประการที่ยากจะปฏิเสธได้คือการบังคับใช้กฎหมายระหว่างกลุ่มเสื้อเหลือง และเสื้อแดง มันเห็นชัดเจนเสียจนน่าเกลียด
เสื้อเหลืองหรือพันธมิตร ก่อเหตุยึดทำเนียบ ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ช่วงปลายปีก็ยึดสนามบิน
ถามว่านาทีนี้คดีไปถึงไหน!?
ขณะที่เสื้อแดงที่ออกมาอาละวาดช่วงเดือนเมษายน ระยะเวลาห่างกันกว่าครึ่งปี แต่คดีเดินหน้าพรวดๆ
เสื้อแดงทำผิดกฎหมายหรือไม่...ตอบว่าผิดแน่นอน เหมาะสมแล้วที่ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
แล้วกับกลุ่มเสื้อเหลืองเล่า?
หรือหมาดๆ ล่าสุดที่พันธมิตรฯ นัดชุมนุม รัฐบาลก็นิ่งเฉย ไม่คิดจะออกพ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อควบคุมสถานการณ์
แต่กับเสื้อแดง เพียงแค่ออกข่าวนัดชุมนุม รัฐบาลก็ขู่จะออกพ.ร.บ.มาควบคุมทันที
รวมไปถึงคดีเกี่ยวกับการ "ยุบพรรค" ทั้งไทยรักไทย พลังประชาชน ชาติไทย ฯลฯ ที่โดนสอยร่วงไปหมด
แต่กับคดีของประชาธิปัตย์ ที่ถูกกล่าวหาถึงขั้นยุบพรรคเช่นกัน หากเทียบระยะเวลากันแล้วดูเหมือนผู้เกี่ยวข้องจะใช้เวลามากเป็นพิเศษ!?
สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่มันสมควรให้ถูกครหาหรือไม่
ลองถามใจตัวเองก่อนว่าหากสถานการณ์นี้กลับข้างกัน จะมองด้วยความรู้สึกเช่นเดียวกับฝ่ายตรงข้ามมองตอนนี้หรือไม่!?