ที่มา บางกอกทูเดย์
“ตั้งแต่เราสร้างประเทศไทยมา รัฐบาลมาร์คเป็นรัฐบาลเดียว ที่เกิดขึ้นจากองค์ประกอบซึ่งไม่น่าเชื่อที่สุดในโลก”แต่เมื่อเป็นรัฐบาลได้แล้ว อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะกลับ “เปลี่ยนโอกาสให้เป็นวิกฤติ” อย่างน่าเสียดาย......ทุกวันนี้ โลกของอภิสิทธิ์แคบลง ในเมืองไทยนอกจากภาคใต้แล้ว เขาก็มีสิทธิ์เหยียบผืนแผ่นดินต่างจังหวัดได้แค่สองสามจังหวัด!!และมาวันนี้...เขากำลังจะตัดโอกาสตัวเองด้วยการเปิดศึกกับ “เพื่อนบ้าน” ซึ่งทำให้เขาเหลือ“มิตรประเทศ” ที่จะไปมาหาสู่น้อยลง.....โลกของเขามีแค่เมืองไทย และกรุงเทพฯผมเชื่อว่า....ยามนี้ ไม่มีใครพูดจาให้สติ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้? แม้แต่ คุณชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นเสมือน
อาจารย์ทางการเมืองคนแรกและคนสุดท้ายของ “มาร์คผู้อหังการ์”!!ในการบริหารราชการแผ่นดินของมาร์ค เขามีเพื่อนซี้ที่ยังคบหากันอยู่เพียงสองสามคนหนึ่งในจำนวนนั้นคือ กรณ์ จาติกวณิช-กอร์ปศักดิ์สภาวสุ และ ปณิธาน วัฒนายากร ส่วน สุเทพเทือกสุบรรณ ได้กลายเป็นอดีตที่ขมขื่น เป็นแค่คนที่เคยเป็นมิตรสนิทไปแล้ว??กอร์ปศักดิ์ ยังคงยิ่งใหญ่ในการบริหารประเทศ กับสองตำแหน่งสำคัญที่ไม่มีหน้าไหนสามารถแย่งจากมือได้!!ดังนั้น.....การรอคอย
ของ “สามสี ภูเขาทอง” ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่จะมานั่งเก้าอี้แทนกอร์ปศักดิ์ในตำแหน่ง รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจนั้นจึงเป็นเพียง “ฝันกลางแดด”!!กอร์ปศักดิ์ ยังคงแฮปปี้สนุกสนานกับการมีอำนาจสิทธิ์ขาดในการใช้งบ “ชุมชนพอเพียง” กว่า 18,000 ล้านบาทอยู่คนเดียวโดยไม่มีใครกวนใจ??ปณิธาน (ดอกเตอร์) ก็คงเดินตามนายกรัฐมนตรีด้วยแววตาและสีหน้าเคร่งเครียดเหมือนท้องผูกมาสามอาทิตย์หรือโกรธใครมาสัก 10 ปี ได้อย่างมั่นคง ไม่มีใครมาแตะ
ต้องเปลี่ยนแปลงได้ แม้แต่ “เทพเทือก” ผู้จัดการรัฐบาลทั้งที่ สองคนนี้น่าจะเป็น “Weakness Point”ที่ควรจะรีบเปลี่ยนแปลงโดยเร็วที่สุดของรัฐบาลเจ้าพระยามหาอำมาตย์มาร์คผมยืนยันกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ณ วันนี้คุณเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวที่ “เปลี่ยนโอกาสเป็นวิกฤติ”!! ผมสงสารคุณ? แต่ที่สงสารมากกว่าคือคนไทยกับประเทศไทย