ที่มา ข่าวสด
เหล็กใน
แต่ทั้งอาเซียน เอเชีย และทั่วโลกก็จับตาอย่างใกล้ชิด
เพราะจะว่าไปนาทีนี้ ระหว่างไทย-กัมพูชา กับสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี อะไรจะน่าห่วงกว่ากัน??
เกาหลีนั้นฮึ่มๆกันมานานแล้ว และคงจะฮึ่มฮั่มกันไปเรื่อยๆ จนโลกเริ่มจะชิน
ส่วนไทย-กัมพูชา จะว่าไปที่ผ่านมามีสัมพันธ์ปกติ
จนมาถึงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงเริ่มมองหน้ากันไม่ติด
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัญหาพิพาทเรื่องเขาพระวิหาร
แต่ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นชนวนสำคัญคือการแต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ เป็นรมว.ต่างประเทศ
ถึงจะใจกว้างแค่ไหน หากรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้านกล้าตั้งคนที่ด่าผู้นำประเทศอื่นอย่างสาดเสีย เทเสีย ขึ้นเป็นใหญ่เป็นโต คงมองหน้ากันไม่สนิทนัก
ไม่ต้องอื่นไกล เอานายกฯของไทยนี่แหละ
หากมีคนด่าว่าเป็นเด็กเมื่อวานซืน ทำอะไรก็ไม่เป็นเก่งแต่กู้กับใช้เงิน กล้ารีดภาษีน้ำมันเพื่อให้คนจนเดือดร้อน แต่ไม่ยอมเก็บภาษีมรดกหรือภาษีที่ดินของคนรวย
เป็นรัฐบาลกึ่งเผด็จการ เพราะได้อำนาจเนื่องจากทหารหนุนหลัง แอบอิงม็อบเพื่อให้ตัวเองขึ้นมามีอำนาจ ฯลฯ
แล้วรัฐบาลเพื่อนบ้านของเราตั้งคนที่ด่านายอภิสิทธิ์แบบนั้น เป็นรมว.ต่างประเทศ เป็นตัวแทนติดต่อกับนายอภิสิทธิ์และเมืองไทย
ท่านนายกฯของเราจะทำหน้ายังไง
แต่มองจากมุมคนไทย อย่างไรเสียก็คงไม่สามารถยอมรับพฤติกรรมของนายฮุนเซน ในหลายๆเรื่องได้เช่นกัน
และอีกคนที่เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่เริ่มจะยอมรับไม่ได้คือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่รู้ระยะหลังน่าจะกินยาผิด จนทำอะไรแปลกๆ ดิสเครดิตตัวเองอยู่เนืองๆ
ตอนนี้ที่น่าห่วงนอกจากความตึงเครียดของไทย-กัมพูชาแล้ว คือพวก "บ่างช่างยุ"
แน่นอนว่ารวมไปถึงกลุ่มพันธมิตรฯด้วย เพราะนัดรวมตัวจะอาละวาดกลับนายฮุนเซน
ก่อนหน้านี้เคยไปป่วนตามแนวชายแดน ท้าตีท้าต่อย ด่าเอามันปาก แล้วก็เผ่นกลับกรุงเทพฯ
คนที่เดือดร้อนกลายเป็นชาวไทยตามแนวชายแดน
สถานการณ์ตอนนี้เข้าทางพันธมิตรฯอยู่แล้ว เพราะพยายามปั่นกระแสคลั่งชาติมาตลอด
นายอภิสิทธิ์จึงควรพิจารณาให้ถี่ถ้วนและรอบคอบที่สุด
ที่ผ่านมาแม้จะเชื่อฟังเป็นเด็กในโอวาทของท่านผู้นำม็อบ ยอมศิโรราบทำตามเกือบทุกข้อแนะนำ
ยอมตัดขาดจากนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ กล้าให้กองทัพไม่สบายใจจากปัญหาแต่งตั้งตำรวจ
แต่สำหรับกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา เดิมพันมันสูงเกินไป หาต่างหูมาใส่บ้างก็น่าจะดี
จะได้ไม่เบาเกินไป!?