ที่มา มติชนออนไลน์
"ยงยุทธ วิชัยดิษฐ"ฉลุยนั่ง หน.เพื่อไทย รอ กกต.รับรอง เจ้าตัวลั่นรักษาจุดยืน ปชต. ยึดกฎกติกากรอบกฎหมาย ปัดข่าว"ยิ่งลักษณ์"ถูกเบียดวืด ระบุเสนอชื่อเดียว เผยโครงสร้างใหม่พรรคมีกรรมการบริหาร 13 คน แยกส่วนฝ่ายบริหารออกจาก กก.บห. ปลอบใจตั้ง"น้องสาวแม้ว"เป็น กก.คัดเลือกผู้สมัคร
แผนใหม่แยก"กก.บห.-ฝ่ายบห." หลังผลการประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อไทย (พท.) เพื่อลงมติเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งปรากฏว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น
เวลา 13.30 น. วันที่ 7 ธันวาคม นายยงยุทธพร้อมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ร่วมกันแถลงผลการประชุมพรรค โดยกล่าวว่า หลังจากได้รายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่แล้ว จะต้องรอการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ยืนยันว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่พรรคเพื่อไทยยึดมั่นและรักษาไว้ ได้แก่ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ยึดกติกา กฎหมาย ความถูกต้องชอบธรรมของบ้านเมือง ยุทธศาสตร์ใหม่ของพรรคคือ การแยกส่วนกันระหว่างกรรมการบริหารพรรค และฝ่ายบริหาร
เมื่อถามว่า เหตุใด น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงไม่ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค นายยงยุทธกล่าวว่า นี่คือข่าวลือ เป็นการคาดเดาเอาเอง ยืนยันว่าการประชุมเสนอชื่อตนเพียงคนเดียว ส่วนการเดินทางมาที่ทำการพรรคเพื่อไทยของนายสมชายนั้น ไม่เกี่ยวกับการเลือกกรรมการบริหาร เพราะไม่ได้ร่วมประชุมด้วย แต่รู้สึกผูกพัน ในช่วงหน้าสิ่งหน้าขวานจึงมาให้กำลังใจ นายสมชายเป็นนักกฎหมายย่อมรู้ดีว่าจะมาข้องเกี่ยวไม่ได้
เปิดกว้าง ส.ส.สัดส่วนนั่งนายกฯ
เมื่อถามถึงเหตุจะแยกส่วนผู้มาเป็นนายกฯออกจากกรรมการบริหารพรรค และไม่เอาคนพรรคเพื่อไทย เพื่อยอมถอยหวังชักชวนพรรคร่วมรัฐบาลให้มาจับขั้วด้วยใช่หรือไม่ นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ไม่ใช่ อันนั้นเป็นคนละส่วนกัน โครงสร้างใหม่ดังกล่าวถือเป็นการเปิดมุมกว้าง ต่อไปกรรมการบริหารพรรคจะทำ 3 เรื่อง คือ จัดทำนโยบาย คัดเลือกตัวผู้สมัคร และวางยุทธศาสตร์ จะแยกหน้าที่กันอย่างชัดเจนกับฝ่ายบริหาร แต่ก็ไม่ได้ปิดทางว่า หัวหน้าพรรคจะไม่มีสิทธิเป็นนายกฯแต่ตามรัฐธรรมนูญ นายกฯต้องมาจาก ส.ส. ดังนั้น ส.ส.สัดส่วนทั้ง 8 เขต ใครที่ได้อันดับที่ 1 ในแต่ละเขตก็สามารถเป็นนายกฯได้
เมื่อถามว่า จะกระทบต่อการเลือกตั้งหรือไม่ เพราะประชาชนที่ตัดสินใจเลือกพรรค จะไม่ทราบเลยว่าจะได้ใครเป็นนายกฯ นายคณวัฒน์กล่าวว่า ต้องมองมิติใหม่ ที่พรรคเพื่อไทยกำลังจะก้าวไปข้างหน้า หากยังมองว่าเลือกพรรคไหนเพื่อหวังให้ใครเป็นนายกฯ ก็ถือว่ายังมองการเมืองในมิติเดิม
ตั้ง"ยิ่งลักษณ์"กก.เลือกผู้สมัคร
สำหรับรายชื่อกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ มีจำนวน 13 คน ลดลงจากเดิมที่มีจำนวน 19 คน โดยชุดใหม่ได้แก่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค ส่วนคณะกรรมการบริหารพรรคประกอบด้วย รองหัวหน้าพรรค 3 คน มีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร นายปลอดประสพ สุรัสวดี และนายคณวัฒน์ วศินสังวร ส่วน น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร เป็นเลขาธิการพรรค นายสง่า ธนสงวนวงศ์ เป็นรองเลขาธิการพรรค นางทัศน์วรรณ มุสิกบุญเลิศ เป็น เหรัญญิกพรรค นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เป็นโฆษกพรรค นายวิม รุ่งวัฒนะจินดา เป็นรองโฆษกพรรค นายกมล บันไดเพชร เป็นนายทะเบียนพรรค ส่วนกรรมการบริหารพรรค 3 คน มี นายวรวีร์ มะกูดี นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ นายเอกธนัช อินทร์รอด
นอกจากนี้ มีการตั้งคณะกรรมการตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 จำนวน 3 คณะ ได้แก่ 1.คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง มีนายคณวัฒน์ เป็นประธาน และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นกรรมการ 2.คณะกรรมการนโยบายพรรค มีนายปานปรีย์ เป็นประธาน 3.คณะกรรมการส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรค มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ เป็นประธาน
"พงศ์เทพ" ปัด "อ้อ" มากล่อม ส.ส.
วันเดียวกัน เวลา 13.10 น. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ภายหลังมาพร้อมกับนายอุดมเดช รัตนเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ เพื่อให้กำลังใจทีมงานพรรคเพื่อไทยว่า ตั้งแต่คุณหญิงพจมานลงเครื่องบิน ยังไม่ได้มีโอกาสพบ แต่ยืนยันว่า การกลับมาครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการมาประสาน ส.ส.เพื่อให้มาอยู่พรรคเพื่อไทย เพื่อจับขั้วรัฐบาลแต่อย่างใด แต่มาเพื่อเยี่ยมอาการป่วยของมารดาเท่านั้น
เมื่อถามว่า สถานการณ์ในขณะนี้ ที่มีการช่วงชิงกันจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล จำเป็นต้องอาศัยมือของคุณหญิงพจมานช่วยด้วยหรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า "คุณหญิงพจมานท่านไม่พูดหรือยุ่งเรื่องการเมืองอยู่แล้ว"
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศหน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ภายหลังจากที่คุณหญิงพจมานกลับประเทศไทยเป็นวันที่ 2 บรรยากาศยังคงเงียบสงบ โดยตั้งแต่ช่วงเช้า ยังไม่พบว่ามีรถยนต์หรือ บุคคลใดมาเข้าพบแต่อย่างใด ขณะที่บริเวณประตูหน้าบ้านยังคงปิดสนิท โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบ้านจันทร์ส่องหล้าประจำการอยู่ภายในป้อมหน้าบ้าน "ยงยุทธ"ฉลุยหัวหน้าพรรค"พท."
ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี ครั้งที่ 4/2551 พรรคเพื่อไทย (พท.) ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย อาคารบีบีดี บิวดิ้ง ถนนพระราม 4 ลงมติเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังจากนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคไปก่อนหน้านี้ ลงมติเป็นเอกฉันท์เลือกนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมเริ่มขึ้นในเวลา 09.30 น. วันที่ 7 ธันวาคม ซึ่งนายยงยุทธในฐานะประธานที่ประชุม ได้เสนอให้ที่ประชุมเห็นชอบโครงสร้างคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ที่จะมีจำนวน 13 คน แบ่งเป็นหัวหน้าพรรค 1 คน รองหัวหน้าพรรค 3 คน เลขาธิการ 1 คน รองเลขาธิการ 1 คน เหรัญญิก 1 คน นายทะเบียน 1 โฆษก 1 คน รองโฆษก 1 คน และกรรมการบริหารพรรค 3 คน ซึ่งที่ประชุมได้ยกมือเห็นชอบ จากนั้นนายกมล บันไดเพชร นายทะเบียนพรรคเพื่อไทยได้เสนอชื่อนายยงยุทธต่อที่ประชุมให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยไม่มีผู้ใดเสนอรายชื่อบุคคลอื่นให้สมาชิกคัดเลือก รวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้รับการเสนอชื่อแต่อย่างใด ส่งผลให้นายยงยุทธได้รับตำแหน่งดังกล่าวไป
หักดิบ "ยิ่งลักษณ์" ไม่เสนอชื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าว ระหว่างที่ประชุมใหญ่กำลังเสนอชื่อหัวหน้าพรรคคนใหม่อยู่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์เพิ่งเดินทางเข้ามายังห้องประชุม พร้อมเดินไปนั่งในกลุ่มสมาชิกพรรคในภาคกรุงเทพมหานคร (กทม.) ก่อนจะหันรีหันขวางอยู่หลายครั้ง เพื่อมองหาคนรู้จักระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยเดินมากระซิบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้ไปด้านหลังของห้องประชุมพร้อมแจ้งว่า "เขาเสนอชื่อไปแล้ว" ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ถามกลับไปว่า "ขอขึ้นพูดได้ไหม"แต่ได้รับการปฏิเสธ จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินออกจากห้องประชุมและไปร่วมประชุม ส.ส.และแกนนำที่บริเวณชั้น 12
น.ส.ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ระบุเพียงว่า "ขอยังไม่ให้สัมภาษณ์อะไร ไว้พร้อมก่อนแล้วค่อยคุยกันอีกที" เมื่อถามถึงรายงานข่าวที่ระบุว่า คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาประเทศไทยเพื่อที่จะดูแลพรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า "ยังค่ะ ยังไม่ได้คุยกันเลย"
เผยเบื้องหลัง"ยิ่งลักษณ์"ไม่นั่งหน.
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งเบื้องหลังที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้รับการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เนื่องจากความเห็นของอดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชน สมาชิกพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ไม่ควรเสนอชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคท่ามกลางสถานการณ์ที่ขัดแย้งรุนแรง และพรรคเพื่อไทยก็ต้องการแรงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลเป็นแนวร่วมทางการเมือง และหากเสนอชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ขึ้นมา ก็จะเป็นเงื่อนไขให้ถูกโจมตี ซึ่งจะทำให้ชื่อของ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะยิ่งบอบช้ำทางการเมือง โดยจะให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จ.เชียงใหม่ แทนนายประสิทธิ์ วุฒินันชัย ส.ส.เชียงใหม่ ที่ได้ใบแดง ซึ่งหลังจากนั้นที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับเลือกเป็น ส.ส.จะมีการเรียกประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคใหม่อีกครั้งหนึ่ง
"สมชาย"ควง"เจ๊แดง"สังเกตการณ์
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะมีการเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่ ส.ส.ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกพรรคพลังประชาชนและอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ตลอดจนอดีตรัฐมนตรีร่วมคับคั่ง แต่ ส.ส.จากพรรคพลังประชาชนที่ย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทย ยังไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน แต่เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์การประชุมเท่านั้น อาทิ นายชูศักดิ์ ศิรินิล อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพงศกร อรรณนพพร อดีต รมช.ศึกษาธิการ กลุ่มเพื่อนเนวิน พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.อ.อุดมชัย องคสิงห์ อดีตเลขานุการ รมว.กลาโหม นายสมพล เกยุราพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด
นอกจากนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรียังเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมาพร้อมกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยา มาร่วมสังเกตการณ์การประชุมดังกล่าว แต่เมื่อเจอผู้สื่อข่าวและช่างภาพกลุ่มใหญ่ดักรอสัมภาษณ์ บริเวณทางเชื่อมต่อลานจอดรถกับห้องโถงลิฟต์ด้านหลังอาคารที่ทำการพรรค ได้ให้คนขับรถขับหลีกเลี่ยงออกไป และใช้จังหวะที่ผู้สื่อข่าวขึ้นไปติดตามบรรยากาศการประชุมเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคที่ ชั้น 10 กลับเข้ามาอีกครั้ง เพื่อร่วมประชุมกับ ส.ส.และแกนนำที่แยกประชุมบนชั้น 12 ของอาคารดังกล่าว