ที่มา thaifreenews
ความจริงอย่างหนึ่งคือใครก็ตามที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทยมานานพอควร มักจะพบว่า เมืองไทยมีสภาพสังคมที่อำนาจที่ลึกลับคือคำตอบของหลายสิ่งหลายอย่าง ไม่ใช่ความถูกต้องเป็นธรรมตามระบบที่ควรเป็นอย่างในนานาประเทศ และเราก็อ่อนน้อมถ่อมตนยอมรับ ได้แต่บ่นด่าคนโน้นคนนี้ว่าทำให้เราลำบาก นักการเมืองจะโดนก่อนด้วยข้อหาทุจริตคอร์รัปชั่น ใช้อำนาจอิทธิพล อยู่เบื้องหลังสิ่งที่เป็นทุรกรรมแทบทุกประเภท ตามมาด้วยข้าราชการ พ่อค้าหน้าเลือด อาชญากรต่าง ๆ สิ่งที่เราไม่เคยนึกก็คือ องคาพยพแห่งอำนาจอิทธิพลนั้นมันมีเครือข่ายที่ประสานซึ่งกันและกัน เพราะสังคมมักยอมให้กับอำนาจบางอย่างมากกว่าที่กำหนดไว้ตามกติกา คนอื่นที่รองลงมาก็เลยจะมักใช้วิธีอำนาจมืดโดยไม่สนใจกติกาตามไปด้วย ความจริงก็คือคนพวกนี้จะใช้อำนาจโดยประสานเครือข่ายกับ “เส้นใหญ่” ขึ้นไปตามลำดับขั้น ปัญหาก็คือใครคือเส้นที่ใหญ่สุดและเส้นนั้นอุปถัมภ์คนที่เราบ่นด่าอยู่หรือเปล่า ถ้าสาวลงไปให้ถึงต้นตอของปัญหากันจริง เราจะพบว่าเครือข่ายอำนาจนิยมนั้นมาจากระบบที่ออกแบบมาเพื่อเอื้อโอกาสให้กับคนจำนวนไม่มากนักมีอำนาจ ไม่ใช่เอื้อให้กับมหาชนส่วนใหญ่ นานวันเข้าคนในสังคมก็จะยึดถือว่า การใช้อำนาจนอกระบอบเป็นเรื่องปกติสำหรับสังคมนี้ เมื่อตำรวจรีดไถ เขาจะอ้างว่านายสั่ง และนายของเขาก็จะบอกว่านายที่ใหญ่กว่าสั่งมาอีกที ต่อกันเรื่อย ๆ ไปเป็นลำดับชั้น แต่ไม่มีใครสาวไปให้ถึงสุดสายป่าน และทำให้เรายอมรับว่าสังคมที่มีอำนาจนอกระบบเป็นสภาพปกติอันน่าอับอายของบ้านเมืองนี้ ไม่ชอบแต่ก็ต้องทนกับมัน
เราเสียเวลากันมาหลายสิบปีกับการยอมรับอำนาจนอกระบบ ซึ่งพร้อมที่จะหักหลังคนรับใช้ทันทีที่ผู้นั้นเพลี่ยงพล้ำ เพื่อธำรงรักษาสถานะของชนชั้นตนเอาไว้ให้เนิ่นนานที่สุด มีคนหลายคนได้รับบทเรียนจากการกระทำเหล่านั้น และอยู่ในสภาพน้ำท่วมปาก พูดไม่ออกบอกไม่ถูก เกรงใจเพราะรู้ว่าแบกอัพคือมหาประชาชนอันไพศาลที่ถูกการโฆษณาชวนเชื่อแบบถล่มรุนแรงด้วยการบังคับให้รับชมรับฟังทุกสื่อ ด้วยสารพัดงานสร้างสรรค์ และกลยุทธการสื่อสาร รู้สึกว่าเรามีความสุขเหลือเกินในสังคมนี้ จนทำให้ลืมไปว่าชีวิตประจำวันที่แท้จริงของเราเป็นเช่นไร ปากกัดตีนถีบเพียงไหนเพื่อจะเอาชีวิตรอดไปวัน ๆ เคร่งเครียดว่าตนเองและครอบครัวจะแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจสังคมวันนี้พรุ่งนี้กันอย่างไรดี ไม่เคยรู้ว่าความจริงถูกกดขี่บีฑาจากธุรกิจสารพัดที่มองลึกลงไปแล้วใครที่มีส่วนเป็นเจ้าของ เราทนกันมานานเพราะเราเกรงใจไม่กล้าเอ่ยปาก ยอมรับ เจียมตัว เพราะไม่ได้ใหญ่โตโอฬารด้วยชาติกำเนิดและทรัพย์ศฤงคาร ต้องยอมให้เขาเพราะยอมรับว่านั่นคือผู้ทรงอำนาจ หลงใหลได้ปลื้มไปกับการประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบที่บอกเราว่าชีวิตของเรากำลังมีความสุขเพียบพร้อมจากโชคลาภที่ได้เกิดมาในแผ่นดินนี้ โดยลืมไปว่าความจริงแล้ว เรามีความสุขในชีวิตกันได้บ้างนั้นก็เพราะเราช่วยตัวเอง ทำกันเองต่างหาก แล้วปลอบใจตัวเองไปตามหลักการของศาสนาบางศาสนาที่บอกว่า “พระเจ้าจะช่วยผู้ที่รู้จักช่วยตัวเอง”
ปัญหาก็คือเราช่วยตัวเองได้จริงหรือ ในเมื่อเขาไม่ให้โอกาส ที่ดินที่เป็นของกลุ่มพวกเขาจำนวนมากมายนั้นอยู่ในเขตที่เจริญจนตารางวาละหลายล้าน ในขณะที่เมื่อสมัยก่อนนั้นถ้าเราอยากมีบ้านสักหลัง ก็ต้องหาเงินไปผ่อนดาวน์ ยอมรับดอกเบี้ยสูงลิ่วเกือบร้อยละยี่สิบเมื่อขอกู้เงินจากธนาคารที่พวกเขาเป็นผู้ถือหุ้น มากบ้างน้อยบ้างแต่มีทุกธนาคาร และเมื่อเศรษฐกิจล่มสลายเพราะความหิวกระหายของพวกเขา ซึ่งนำระบบ BIBF มาผลักดันให้รัฐบาลทำเพื่อเอาเงินเมืองนอกดอกเบี้ยร้อยละหนึ่งกว่า ๆ มาปล่อยให้พวกเรากู้ดอกเบี้ยร้อยละสิบปลาย ๆ เขาเอาเงินเข้ามาคล่องจนเหลิง ให้เงินกู้พวกเดียวกันจนเพลิน ไม่มีปัญญาหาเงินมาคืนเมืองนอก สิ่งที่เราพบก็คือเมื่อพวกเขาหมดหนทางก็หันมาใช้การบีบบังคับฟ้องร้องยึดบ้าน ยึดรถ ฟ้องล้มละลายเอากับพวกเรา เศรษฐกิจล่มสลายนั้นทำให้เราตกงาน หาเงินมาใช้หนี้ธนาคารที่พวกเขาเป็นเจ้าของกันไม่ได้ สรุปก็คือชาวบ้านรับกรรมลูกเดียว พวกเขาไม่เคยลำบาก แต่ถ้าคุณทำธุรกิจการค้าแบบไม่อิงอำนาจนอกระบบ คุณจะเจ๊ง เพราะเขาไม่ช่วยเหลืออะไรคุณเลย เขาจะไม่เอาความเสียหายที่พวกเขาก่อกันขึ้นมาโยนให้รัฐบาลและประชาชนแบกรับเหมือนกับธุรกิจในเครือข่ายของพวกเขา แบบที่เขาช่วยธนาคารในกรณี ปรส. ที่ลึกลงไปแล้วก็คือธนาคารของเขาเป็นหลักใหญ่
จนมาถึงวันหนึ่งกับการที่ไพร่ลูกชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งสามารถทำให้พวกเราได้รับโอกาสที่ทุกคนสมควรต้องได้รับมาแสนนาน แต่พวกเขาไม่เคยให้ เพราะเราเป็นไพร่ ไม่ใช่พวกเขา ได้โอกาสที่จะมีชีวิตที่ไม่ต้องเคร่งเครียดเหน็ดเหนื่อย พอมีเวลาคิดสร้างสรรค์วิธีการใหม่ ๆ เพื่ออำนวยประโยชน์ให้กับตัวเองและสังคมส่วนรวมได้บ้าง ซึ่งอันที่จริงมันก็ไม่ได้มากมายจนทำให้พวกผู้มีอำนาจนอกระบบอย่างเขาต้องกระเทือนกันเลยแม้แต่น้อย เพราะพวกเขามีมากเสียจนไม่ต้องห่วงอนาคตลูกหลานไปอีกไม่รู้ว่ากี่สิบเจเนอเรชั่น แต่เขาและสมุนก็ยังรับไม่ได้ เขาเห็นแก่ตัวกันมากที่สุดแบบไม่ยอมสูญเสียอะไรสักอย่างจริง ๆ
ตอนนี้อำนาจนอกระบบมาอีกแล้ว สั่งทหารใหญ่ลูกน้องในคาถาให้ไปบีบคั้นข่มขู่นักการเมืองเพื่อสลับขั้ว อย่าแปลกใจถ้าพรรคสวิงกิ้งจะได้ตั้งรัฐบาล เพราะนี่คือหนทางหน้าด้านช่วงท้าย ๆ ของอำนาจนอกระบบ เตรียมรับการต่อต้านเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน เพราะประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยเลิกเกรงใจกันหมดแล้ว