ที่มา thaifreenews
บทความ โดย Bugbunny
อยากเสนอข้อมูลวิเคราะห์ถึงวิธีการและลักษณะที่แตกต่างกันของการอภิวัฒน์ครั้งสำคัญของภาคประชาชนในหลายประเทศที่เปลี่ยนผ่านการปกครองไปในลักษณะพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินมาแล้วในอดีต เพื่อเป็นกรณีศึกษา คือ
ฝรั่งเศส การอภิวัฒน์ฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1789 มาจากความเสื่อมศรัทธาอย่างสิ้นเชิง ต่อสถาบันของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ราชินีแมรี อังตัวเนต และชนชั้นสูงในประเทศ ความรุนแรงระหว่างเปลี่ยนแปลงสูง เนื่องจากการแบ่งแยกฐานันดรในฝรั่งเศสนั้นชัดเจนมาก ชีวิตชนชั้นสูงหรูหราอลังการณ์แปลกแยกจากพลเมืองส่วนใหญ่ แบ่งเขาแบ่งเราหมิ่นแคลนกันอย่างไม่ให้ศักดิ์ศรีอะไรเลย เมื่อภาคประชาชนในฐานันดรที่ต่ำกว่าทำการอภิวัฒน์ การล้างผลาญทั้งชีวิตและทรัพย์สินของชนชั้นสูงจึงรุนแรงอย่างยิ่ง ถือเป็นการล้างแค้นต่อการสังหารผลาญชีวิตและกดขี่ข่มเหงประชาชนที่คนชั้นสูงเคยกระทำมาในอดีตมาตลอด ผู้ที่เข้าร่วมนั้น ก็มีชนชั้นสูงเองจำนวนมากที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในสังคมเท่าราชนิกูลและขุนนางศักดินาที่กษัตริย์โปรดปรานเข้าร่วมเคลื่อนไหวกับชนชั้นล่างอย่างเอาการเอางาน และคนเหล่านี้คือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างยิ่งต่อการสังหารผลาญชีวิตศัตรูจากยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของพวกตน เพราะการรู้จักมักคุ้นและถูกกระทำด้วยตนเองจากคนเหล่านั้นเป็นแรงขับ ต่อมาเมื่อกำจัดกลุ่มที่ตนแค้นเคืองได้ก็เข้าสู่กระบวนการแย่งชิงการนำ และต่างก็ทำร้ายฆ่าฟันกันเพื่อให้แนวทางการปกครองประเทศเป็นไปตามความต้องการของพวกตน จนระยะเวลาผ่านไปนับสิบปีกว่าความสงบจะมาเยือนประเทศ นี่เป็นการอภิวัฒน์ที่มีแนวร่วมหลากหลาย มีความรุนแรงสูง และกระทำกันในเมืองอย่างเปิดเผย คนในฐานันดรชั้นล่างเป็นกำลังหลักในการปะทะกับฝ่ายชนชั้นปกครอง เคียงข้างกับชนชั้นสูงที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบอบเดิม เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เน้นด้านเรียกร้องเสรีภาพและความเสมอภาคในสังคม
รัสเซีย ชัยชนะของพรรคบอลเชวิกในรัสเซียมีลักษณะผสมผสานในทางยุทธวิธี พรรค ฯ เองได้เข้าไปเคลื่อนไหวแทรกซึมอยู่ในองคาพยพของรัฐมาแล้วยาวนาน ทั้งทหารในกองทัพพระเจ้าซาร์ ข้าราชการพลเรือน พ่อค้ารายย่อย กรรมกร ฯลฯ มีจำนวนมากที่เป็นแนวร่วมของพรรค ฯ ตัวเร่งคือการที่รัสเซียเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่หนึ่งที่สร้างความทุกข์ยากหนักหน่วงให้ทหารที่มาจากชนชั้นล่างเป็นส่วนใหญ่ กองทัพพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า ทหารขาดวินัยและกำลังใจในการสู้รบ หลังจากที่กองทัพสูญเสียเกียรติภูมิอย่างย่อยยับเพราะพ่ายแพ้ในสงครามกับญี่ปุ่นมาก่อนหน้านี้แล้วภายใต้การบังคับบัญชาที่ไร้ประสิทธิภาพของชนชั้นสูง ประชาชนต่างดูแคลน ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 1917 พระเจ้าซาร์ต้องทรงสละราชสมบัติ เนื่องจากชนกลุ่มใหญ่เดินขบวนแสดงความไม่พอใจ ร่วมกับกรรมกร และทหารในกรุงเปโตรกราด พรรคบอลเชวิกนั้นมีการเคลื่อนไหวทั้งแบบเปิดและแบบปิด มีสมาชิกในรัฐสภา ร่วมมือตั้งรัฐบาลกับพวกเสรีนิยม จนถึงเดือนตุลาคมปีนั้นก็แตกกัน จัดก่อการจลาจลโดยมีกรรมกร ทหาร และกลาสีเรือ เข้าร่วมกันขับไล่รัฐบาลชั่วคราวออกไป จัดตั้งรัฐบาลโซเวียตขึ้นเป็นครั้งแรก นับเป็นการอภิวัฒน์ที่เกิดขึ้นรวดเร็วจนถือว่าเป็นรูปแบบการปฏิวัติ ชื่อเฉพาะว่าเป็นการอภิวัฒน์เลนิน-สตาลิน ใช้การเคลื่อนไหวลุกฮือในเมืองของทหารในกองทัพ พลเรือน กรรมกร นายทุนน้อย ฯลฯ ร่วมกันยึดอำนาจ หน่วยกำลังอาวุธของพรรค ฯ เองเป็นเพียงแนวร่วม การแทรกซึมเข้าไปสร้างจิตใจอภิวัฒน์ให้กับผู้ไม่ได้รับการดูแลในระบอบเดิมเป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลง กองกำลังของระบอบเดิมต่างหันปืนและดาบไปสู่เจ้านายของพวกเขาที่กดขี่ลูกน้องมาแสนนานและเข้าร่วมอภิวัฒน์จนสำเร็จ
จีน จีนมีลักษณะทางสังคมที่เป็นประเทศเกษตรกรรม ชาวนาจึงเป็นกำลังพื้นฐานของการอภิวัฒน์ สาธารณรัฐประชาชนจีนนั้นตั้งรัฐบาลขึ้นมาด้วยกองทัพปลดแอกประชาชนจีนที่มีกำลังพื้นฐานเป็นชนชั้นล่างในสังคม เหมาเจ๋อตง เคยบอกว่า “อำนาจรัฐต้องมาจากปากกระบอกปืน” เป็นเรื่องปกติของประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายพันปีในเรื่องกบฏชาวนา การปฏิวัติซินไฮ่ โดย ดร.ซุนยัดเซ็น ยึดอำนาจจากจักรพรรดิ และสถาปนาระบอบประชาธิปไตยนั้น ใช้กำลังทหารของขุนศึกต่าง ๆ ร่วมกับการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน ขุนศึกคือผู้บีบคั้นให้จักรพรรดิลงจากอำนาจ หลังจากซุนยัดเซ็นเสียชีวิต เป็นช่วงเวลาชิงอำนาจระหว่าง เจียงไคเช็ค กับฝ่าย เหมาเจ๋อตุง สุดท้ายเหมาเจ๋อตุงเป็นฝ่ายชนะ และเป็นชัยชนะที่มาจากการทำสงครามกลางเมืองเป็นเวลาหลายปีของกองทัพสองฝ่าย การประสานงานกับกรรมกร นายทุนน้อยในเมือง หน่วยงานอื่น ๆ เป็นกำลังรอง ไม่ใช่กำลังหลักในการอภิวัฒน์ พรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้นยึดอำนาจรัฐได้สำเร็จด้วยการนำกองทัพปลดแอกเข้าทำสงครามและเป็นผู้ชนะสงคราม โดยการต่อต้านญี่ปุ่นเป็นปัจจัยเร่งภายนอกที่สร้างกระแสชาตินิยมให้รุ่งโรจน์ กองทัพแดงที่ได้รับการยอมรับว่าสู้อย่างจริงจังเพื่อต่อต้านผู้รุกรานญี่ปุ่นชนะใจประชาชนและทำให้อำนาจทหารเพิ่มความเข้มแข็งขึ้นจนกลายเป็นตัวตัดสิน แตกต่างจากการยึดอำนาจของเลนินในรัสเซียที่ทหารในกองทัพและการต่อสู้ในเมืองของกรรมกรเป็นตัวตัดสินความสำเร็จ
ตัวอย่างการเอาชนะชนชั้นปกครองที่ล้าหลังเช่นนี้ จะผิดแผกแตกต่างกันไปตามสภาพสังคมเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ สำหรับไทยเราคงต้องเลือกว่าจะเปลี่ยนแปลงสังคมกันด้วยยุทธวิธีแบบไหน เพราะถึงอย่างไรก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการปะทะกันระหว่างพวกอนุรักษ์นิยมกับฝ่ายโลกาภิวัตน์ได้อีกแล้ว วันนี้ชนชั้นสูงพยายามพิทักษ์อำนาจของตนเองทุกวิถีทาง ส่วนชนชั้นไพร่ก็ชัดเจนคือสังคมต้องเปลี่ยนแปลงไปและชีวิตความเป็นอยู่ต้องดีขึ้นหลังการอภิวัฒน์ ยุทธวิธีสองแนวทางในวันนี้ คือระหว่างการรอให้ปัจจัยต่าง ๆ ภายนอกผุกร่อนพวกอำมาตย์จนสถานการณ์สุกงอมและตกอำนาจกันไปเอง กับการเร่งปลุกระดมภาคประชาชนลุกขึ้นต่อต้านพวกอำมาตย์ด้วยกิจกรรมต่าง ๆ กำลังเป็นข้อถกเถียงกันในหมู่นักประชาธิปไตยที่ต่อสู้เพื่อเป้าหมายเดียวกันในวันนี้
แนวโน้มของแนวทางที่อยากนำเสนอก็คือการประสานสองแนวทางเข้าด้วยกัน บีบบังคับพวกอมาตยาธิปไตยให้ถอยร่นทางการเมืองมากที่สุด บวกไปกับการให้การศึกษาผู้ที่อยู่ในระบบและมีอำนาจอาวุธอยู่ในมือให้รับรู้ว่าที่ผ่านมาเขาถูกหลอกให้รับใช้คนหลอกลวง ถึงเวลาแล้วที่ต้องหันมาเลือกข้างคนส่วนใหญ่ของประเทศ หลายคนตาสว่างแล้ว มีผลทำให้พวก คมช. และกลุ่มอดีตทหารเสือราชินี ไม่มั่นใจในอำนาจของตน ต้องรีรอที่จะยึดอำนาจแม้จะได้รับคำสั่ง หันไปใช้วิธีการทางสภาในการยึดอำนาจรัฐ สถานการณ์สากลนั้นไม่ใช่ปัญหาที่คนพวกนี้กังวลมากนัก ผู้ทรงอำนาจของเขาเชื่อมั่นว่าแก้ได้ และพร้อมที่จะปิดประเทศ เพราะโภคทรัพย์ของพวกเขามีมากมายเกินพอที่จะมีชีวิตสุขสบาย ส่วนไพร่ทั้งหลายไม่ใช่ธุระของพวกเขา แบบเดียวกับพม่าที่นายพลทุกคนสุขสบาย ชาวบ้านจะลำบากไม่ใช่ปัญหาของชนชั้นปกครอง ดังนั้น การที่จะเอาชนะเผด็จการศักดินาอำมาตย์ครั้งนี้เราต้องเดินหน้าประสานกับทุกฝ่าย วันนี้ไม่มีป่าให้ตั้งฐานที่มั่นปฏิวัติอีกแล้ว คนไทยเองก็กลายเป็นชนชั้นกลางมีชีวิตแบบคนเมืองมากขึ้น ต้องปลุกระดมชนชั้นกลาง ทั้งในสายอาวุธ และสายอื่น นายทุนน้อย ฯลฯ ให้เข้าร่วมกับชนชั้นรากหญ้าทำการอภิวัฒน์ ความจริงชนชั้นสูงในประเทศไทยมีจำนวนเพียงหยิบมือ ตอนนี้ก็จนตรอกกันจนต้องทิ้งไพ่ข่มขู่แทนไพ่หลอกลวง ต่างก็พากันเผยโฉมประกาศตนเป็นศัตรูกับประชาชนชัดเจน ไม่เล่นบทเนียนเหมือนในสมัยก่อน ๆ ภาคประชาชนต้องเปิดโปงให้เต็มที่ ชี้ให้เห็นถึงการกระทำแบบไม่แคร์ประชาชนด้วยการหนุนหลังจัดตั้งรัฐบาลเพื่อพวกเขา ความจริงที่พวกนี้คิดไม่ถึงก็คือ งานนี้กำลังทำให้พวกตนโดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางความโกรธแค้นของประชาชน เราต้องประสานกับข้าราชการประชาธิปไตย ทำให้คลื่นแห่งความไม่พอใจกระจายกันทั่ว พร้อมจะถาโถมเข้าทำลายพวกชนชั้นสูงให้สิ้นซากเมื่อมีสถานการณ์จุดชนวนใดก็ตามเกิดขึ้นในเร็ววันนี้