ที่มา เดลินิวส์
'อภิสิทธิ์'หวั่นรัฐบาลสะดุดซ้ำรอย ปชป.เย้ย พท.เรียกหาแต่'ทักษิณ'
สับรัฐบาลแลกเปลี่ยนผลประโยชน์หลัง“ถาวร” ดันแจกส.ป.ก.4-01 อีกครั้ง พร้อมปล่อยผีเช่ารถเมล์ 4 พันคันปิดปากกลุ่มเพื่อนเนวิน “ณัฐวุฒิ” แฉอ้อยเข้าปากช้างต่างพากันเงียบกริบ นายกฯย้ำต้องศึกษาบทเรียนส.ป.ก.ในอดีต หวั่นรัฐบาลซ้ำรอยสะดุดล้มหน้าคะมำ “ธีระ” เผยเป็นงานประจำตามโครงการธนาคารที่ดิน แต่ขอตรวจสอบรายละเอียดแจก 16 ล้านไร่ “ชวรัตน์” มึนขอหารือนายกฯ ฝ่าย “เพื่อไทย” เริ่มจัดแถวใหม่คาดรัฐบาลใกล้ยุบสภา ต้นเหตุจาก “กลุ่ม เพื่อนเนวิน” วางตัว “ยิ่งลักษณ์” นำทีม งัดนโยบายดึง “ทักษิณ” กลับสร้างแรงดึงดูดอีก ครั้ง ปชป.หยามลูกแหง่ร้องหาแต่ “ทักษิณ” ด้าน “โหรคมช.” ทำนายรัฐบาลพ้น 2 เดือนอยู่ได้ยาว จับตาหลังปี 52 “บิ๊กบัง” คืนสังเวียนการเมือง ชี้ทหาร-รัฐบาลต่างดูแลกันและกันแยก ไม่ออก
มท.3ไม่หวั่นส.ป.ก.ซ้ำรอย
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวถึงแนวทางการฟื้นการแจกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ว่าไม่ได้เป็นการฟื้น แต่เป็นนโยบายในการจัดที่ทำกินในเขตป่า ในเขตที่ดินของหลวง และได้ประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินแล้ว จึงจะมีการหารือกับรมว. เกษตรฯและนายกรัฐมนตรีว่าจะปฏิรูปที่ดินออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ให้กับประชาชนได้อีกบ้างหรือไม่ เพราะประชาชนยังต้องการเอกสารสิทธิ เหล่านี้อยู่
เมื่อถามว่า มีความกังวลเรื่องประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเหมือนรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ที่ต้องล้มเพราะเรื่องนี้หรือไม่ นายถาวร กล่าวว่า ไม่ เนื่องจากในช่วงนั้นไม่มีแนวทางในการดำเนินการ แต่ช่วงนี้มีแนวทางดำเนินการอยู่แล้ว จึงคิดว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้เคยมีการคุยกันในเชิงนโยบายกับนายกฯกับรองนายกฯ ในสมัยที่เป็นฝ่ายค้าน และนโยบายนี้ได้จดทะเบียนในนามพรรคไว้กับกกต.แล้วด้วย
เชื่อ “เนวิน” เข้าใจเรื่องนี้ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวว่าจะเป็นเป้าให้ฝ่ายค้านโจมตีหรือไม่ นายถาวร กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ฝ่ายค้านก็รู้ว่าประชาชนต้องการได้เอก สารสิทธิที่เข้าไปทำกินในที่ดินของรัฐ และรัฐก็ประกาศให้ออกเอกสารเหล่านี้ให้ประชาชนอยู่แล้ว เป็นการแก้ปัญหาการเข้าไปอยู่ในที่ดินของรัฐโดยผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมาย และรัฐเองก็ไม่มีปัญญาที่จะขับไล่ประชาชนออกไป ซึ่งเรื่องนี้มีกฎหมายกำหนดไว้อยู่แล้ว โดยขณะนี้ได้มีการประกาศให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินไว้มากแล้ว แต่ความล่าช้าอยู่ที่ระบบราชการ
เมื่อถามว่า นายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน มีความเห็นอย่างไร เพราะเคยเป็นแกนนำในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องนี้ นายถาวร กล่าวว่า นายเนวิน ก็รับทราบดีว่าที่จ.บุรีรัมย์ หรือที่อื่น ชาวบ้านต้องการเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ทั่วประเทศ ซึ่งหลักการคือที่ดินที่ไม่สามารถออกโฉนดให้กับประชาชนได้ก็ต้องออกเป็น ส.ป.ก.
“ชวรัตน์”ขอหารือกับนายกฯ
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) จะดำเนินการจัดการให้ที่ดินแก่เกษตรกรเรื่องเอกสารสิทธิที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 แต่การแจก 16 ล้านไร่นั้นขอดูในรายละเอียดก่อน เพราะนโยบายรัฐบาลจะมีในเรื่องธนาคารที่ดิน โฉนดชุมชน ที่ดำเนินการค้างอยู่ เพราะที่ผ่านมาในการประกาศเขตปฏิรูปที่ดินมีการประกาศคลุมเขตชุมชนอยู่ด้วย จึงต้องแยกออกมาให้ชัดเจนว่าตรงไหนเป็นเขตชุมชนจะออกเป็นโฉนดชุมชน
ขณะที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย กล่าวว่า ถ้าเป็นนโยบายที่มีประโยชน์กับประชาชน ก็ควรจะทำ เรื่องนี้ยังไม่ได้คุยกับนายกฯ รวมถึงยังไม่มีการคุยกันในพรรคร่วมรัฐบาล จึงต้องดูรายละเอียดก่อน เมื่อถามว่า จะซ้ำรอยเดิมที่จะต้องยุบสภาเพราะเรื่องนี้หรือไม่ นายชวรัตน์ ตอบว่า ไม่มีความเห็น อย่างไรก็ตามการกำกับดูแลนโยบายนี้จะคำนึงถึงผลได้ผลเสียที่จะได้รับ
“มาร์ค”ย้ำศึกษาบทเรียนเก่า
ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางกลับจากการ ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ตนยังไม่ทราบแนวทางที่จะเสนอเรื่องของการแจกส.ป.ก. จะเป็นอย่างไร แต่อยากเรียนว่าแนวนโยบายเรื่องการปฏิรูปที่ดินเป็นนโยบายรัฐบาล ที่คาดว่าจะมีการดำเนินการ ทั้งนี้ การดำเนินการเรื่องนี้ จะต้องทำให้ถูกต้อง โดยดูจากคำวินิจฉัยของศาล และคณะกรรมการกฤษฎีกาว่ามีแนวทางอย่างไร ที่ผ่านมาเราสรุปปัญหามาแล้ว ครั้งนี้จะต้องมีการกำหนดแนวทางที่ชัดเจน และคุณสมบัติที่ได้รับเอกสารสิทธิ หากมีแนวทางที่ชัดเจนอย่างนี้ เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอย่างไร
สับรัฐบาลเล่นหมูไปไก่มา
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้จัดรายการสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมดีทีวี กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จะรื้อฟื้นนโยบายแจกที่ดินส.ป.ก.4-01 ว่า โดยหลักการของนโยบายเป็นเรื่องดี แต่เราไม่ไว้ใจเมื่อไปอยู่ในมือพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อนำมาปัดฝุ่นใหม่จึงต้องจับตามองเป็นพิเศษ เพราะนโยบาย ส.ป.ก.4-01 เป็นบาปกรรมที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เคยทำไว้กับประชาชน นำที่ดินไปแจกให้กับเศรษฐีและศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้คืนที่ดินแก่รัฐไปแล้วด้วย แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับไม่เคยแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองแม้แต่ครั้งเดียว
นายณัฐวุฒิ ยังระบุว่า การที่อดีตสมาชิกกลุ่ม 16 เช่น นายเนวิน ชิดชอบ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ซึ่งเคยล้มรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ด้วยประเด็น ส.ป.ก.4-01 แต่วันนี้ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยและร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยหลักการกลุ่ม 16 จะต้องออกมาตั้งข้อสังเกตหรือคัดค้าน แต่กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น ตนสงสัยว่างานนี้อาจมีรายการแลกรถกับที่ดิน เพราะก่อนหน้านี้นายถาวร เคยออก มาคัดค้านโครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คันของ กระทรวงคมนาคม แต่วันนี้เสียงอ่อยและออกทำนองสนับสนุน ส่วนเพื่อนเนวินก็สนับสนุนโครงการแจกที่ดิน ส.ป.ก.4-01
พท.จัดแถวรับมือยุบสภา
ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธุ์ สุนทรชัย ส.ส. หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคบางส่วนออกมาเรียกร้องให้เป็นหัวหน้าและเลขาธิการพรรคเพื่อไทยว่า ไม่วิตกว่าจะบานปลาย ในเร็ว ๆ นี้พรรคเพื่อไทยจะต้องมีการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคอยู่แล้ว เนื่องจากน.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรค จะต้องเตรียมพร้อมลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ซึ่งจะทำให้ไม่มีเวลาทำงานในพรรค และเมื่อถึงเวลาสมควรก็ต้องเอามืออาชีพมาทำงาน เรื่องนี้ก็เคยพูดคุยกันในพรรคบ้างแล้ว เพราะคาดการณ์กันว่าจะเกิดการยุบสภาภายใน 3-4 เดือนข้างหน้า ซึ่งหลังจากงบประมาณกลางปีผ่านความเห็นชอบจากสภาไปแล้ว โดยปัจจัยหลักคือความแตกแยกระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อน เนวินจะเป็นตัวแปรสำคัญ
ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธุ์ กล่าวแสดงความมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง โดยบุคคลที่วางตัวเป็นหัวหน้าพรรคและจะชูเป็นนายกฯแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยเรียงลำดับ 3 คน คือ 1.พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.ทบ. 2.พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตผบ.ทบ. และหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และ 3.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมจะนำบุคลากรบ้านเลขที่ 111 ไทยรักไทย ที่ยังอยู่กับเรามาช่วยให้คำปรึกษา ส่วนนโยบายหาเสียงจะชู 3 ประเด็นคือ 1.แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ให้เป็นประชาธิปไตย 2.นิรโทษกรรม 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และ3.นำพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯกลับประเทศ โดย จะเป็นการวัดใจว่าประชาชนจะเลือกใคร
ดัน “ยิ่งลักษณ์” รับงานใหญ่
นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ อดีตส.ส. ร้อยเอ็ด พรรคไทยรักไทย ในฐานะคนใกล้ชิดนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังออกมาเรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมกับปรับระบบการบริหารพรรคเสียใหม่ว่า หลังปรากฏข่าว มีส.ส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทยจำนวนมากโทรศัพท์มาให้กำลังใจและแสดงความเห็นด้วยกับตน เพื่อให้เป็นเสียงสะท้อนให้เกิดการแก้ไขโดยเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ซึ่งเสียงส่วนใหญ่มองว่าอาจจะเป็นน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อความรวดเร็วในการตัดสินใจ
นายนิรันดร์ กล่าวอีกว่า ส่วนหัวหน้าพรรคอาจให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ทำหน้าที่ไปก่อนก็ได้ เพราะการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ยืนยันว่าเสนอความคิดเห็นไปเพราะความรักและต้องการให้เกิดประโยชน์แก่พรรค จึงไม่กังวลว่าจะนำไปสู่ความขัดแย้ง ขณะที่น.ส. สุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว
หยามลูกแหง่ร้องหา “ทักษิณ”
นายอิสสระ สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่รู้สึกหวาดหวั่นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยเตรียม ใช้พ.ต.ท.ทักษิณ ในการดึงส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน กลับไปร่วมรัฐบาลในขั้วของพรรคเพื่อไทย เพราะพ.ต.ท.ทักษิณตอนนี้ก็เหมือนหมอที่ไม่ได้อยู่ใกล้คนไข้ จึงไม่รู้ว่าอาการคนไข้เป็นอย่างไร และสถานการณ์เปลี่ยนไปขนาดไหนแล้ว นายเนวินเคยพูดกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ไปเจรจาร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า ถ้าประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านเพื่อนเนวิน ก็จะขออยู่ด้วย เพราะนายเนวิน ทราบว่าอยู่กับพ.ต.ท.ทักษิณต่อไปก็ไม่มีอนาคต
นายอิสสระ กล่าวว่า การที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปขอให้พ.ต.ท.ทักษิณมาเป็นที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ก็เป็นเพียงแค่การหลอกพ.ต.ท. ทักษิณให้มาช่วยเรื่องทุนกับคนเหล่านั้นเท่านั้น จะเห็นได้ว่าวันนี้สภาพภายในพรรคเพื่อไทยเละขนาดไหน เพราะที่ผ่านมาเวลามีปัญหาอะไร ส.ส.ก็มักวิ่งไปหา พ.ต.ท.ทักษิณอย่างเดียว
เตรียมออนแอร์นายกฯจ้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีได้มาจัดเตรียมสถานที่บริเวณห้องม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ที่จะใช้เป็นสถานที่ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯออกรายการโทรทัศน์สดเป็นครั้งแรก โดยใช้ชื่อรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์” ระหว่างเวลา 09.00-10.00 น. และถ่ายทอดสัญญาณไปทั่วประเทศ
ทั้งนี้ นายกฯได้คัดเลือกประชาชนจากทั่วประเทศ จำนวน 39 คนมาร่วมรายการด้วย และอาจจะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ซักถาม นอกจากนั้นได้จัดเตรียมห้องสีเขียวให้ผู้สื่อข่าวและผู้ติดตามด้วย สำหรับเนื้อหาของรายการ นั้นทางนายกฯจะชี้แจงแนวทางการทำงานด้าน ต่าง ๆ ของรัฐบาล รวมถึงการเดินทางไปพื้นที่ภาคใต้ในวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม รูปแบบของรายการจะเป็นไปในลักษณะรายการสดและจะสัญจรไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด
หลังปี 52 “บิ๊กบัง” ลงสนาม
นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหร คมช. ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “ลับ ลวง พราง” ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงระยะเวลาในการบริหารงานประเทศของรัฐบาลว่า ต้องผ่านช่วงเดือน ก.พ.ไป ทุกอย่างจะดีขึ้นตามลำดับ ในเดือน เม.ย.ทุกอย่างจะคลี่คลายและหลัง ธ.ค.จะดีที่สุด ซึ่งช่วงนั้นอาจจะมีการปรับเปลี่ยนอะไรของบ้านเมือง จากนั้นจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหากรัฐบาลพ้นวิกฤติ 2 เดือนนี้ไปได้จะอยู่ยาว ส่วนบทบาทของกองทัพขณะนี้เหมือนเป็นพี่เลี้ยง เท่าที่ผ่านมากองทัพช่วยดูแลทุกรัฐบาลอยู่แล้ว สำหรับดวงในการปฏิวัติรัฐประหารนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้น เวลานี้พรรคประชาธิปัตย์กับกองทัพจะต้องช่วยกันประคองและมีหน้าที่ดูแลซึ่งกันและกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พบกับพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.หรือไม่ นาย วารินทร์ กล่าวว่า ช่วงหลังไม่ได้พบกับท่าน เพราะท่านมีภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ มีเพียงที่มีการพูดคุยทางโทรศัพท์เพื่อคุยสารทุกข์สุกดิบ ส่วนท่านจะเล่นการเมืองหรือไม่ เป็นเรื่องอนาคต แต่ท่านคงต้องได้กลับมาช่วยกันประคับประคองบ้านเมือง ซึ่งดูแล้วปีนี้ท่านคงยังจะไม่ลงการเมือง หรือถ้าลงก็ยังคงไม่เหมาะ แต่ท่านคงได้กลับมาหลังจากปี 2552 นี้ ทั้งนี้ดวงนายกฯตอนนี้ยังเป็นนายอภิสิทธิ์ และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์จะอยู่ยาวกว่าในอดีต แต่คงไม่ถึง 3 ปี
แฉพม่ายกเลิกกำหนดเยือน
นายณัฐวุฒิ เปิดเผยว่า ตนทราบข้อ มูลมาจากผู้ที่เป็นสมาชิกสมาคมสื่อต่างประเทศว่า หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ ไปกล่าวที่สมาคมสื่อต่างประเทศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุทำนองว่าอยากเห็นประชาธิปไตยเกิดขึ้นในประเทศพม่า หลังจากนั้นทางการพม่าได้ขอระงับกำหนดการเดินทางเยือนพม่าของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ในวันที่ 28 ม.ค.นี้ รวมถึงกำหนดการเยือนของนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศด้วย ซึ่งถือเป็นการปฏิเสธในทางการทูตโดยทราบเหตุผลว่าเป็นเพราะคำพูดของผู้นำประเทศไทยถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่านายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯที่ไม่มีวุฒิภาวะ โดยแสดงความเห็นแทรกแซงกิจการภายในต่างประเทศ ได้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในระดับภูมิภาค ขณะที่ระบบเผด็จการภายในประเทศไทย ไม่เคยเห็นนายอภิสิทธิ์ออกมาเคลื่อนไหวหรือแสดงความเห็น แม้แต่ครั้งเดียว
วิปฯมั่นใจคุมเสียงในสภาได้
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีส.ส.พรรคเพื่อไทยระบุให้จับตาเกมในสภา โดยเฉพาะกรอบการเจรจาอาเซียน และร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายกลางปี เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลไม่พอใจการจัดงบตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจกระจุกอยู่ในกระทรวงที่พรรคประชาธิปัตย์ดูแลว่า ในวันจันทร์ที่ 19 ม.ค.นี้วิปรัฐบาลจะมีการประชุมกัน โดยจะพิจารณากรอบการประชุมสภาในวันที่ 21-22 ม.ค. และพิจารณากรอบการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 26-27 ม.ค.ในเรื่องกรอบการเจรจาอาเซียน โดยมั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการดูแลเสียงของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตั้งเป็นคณะทำงานควบคุมเสียง ส.ส.ในสภา ซึ่งกำหนดให้วิป 1 คน ดูแลส.ส. 5 คน นอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะกรรมการประสานงานด้านการเมือง ซึ่งมีตนเป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อทำการประสานกับรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล และยังมีคณะทำงานด้านกฎหมาย ที่มีนายทิวา เงินยวง ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน มีหน้าที่ประสานข้อกฎหมายกับครม. ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าเสียงของรัฐบาลในขณะนี้ที่มีอยู่ 261 เสียงจะเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง และร่วมกันโหวตกฎหมายไปในแนวทางเดียวกัน
รอส่งศาลฯชี้ที่มา “เรืองไกร”
นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เปิดเผยความคืบหน้ากรณี กกต. มีมติเสียงข้างมากให้ส่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อวินิจฉัยว่าองค์กรที่ส่งชื่อนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา เข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว.นั้น มีคุณสมบัติเป็นองค์กรที่จะส่งรายชื่อบุคคลเข้าเป็น ส.ว.ได้หรือไม่ว่า กกต. จะส่งเรื่องดังกล่าวไปยังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งในสัปดาห์หน้าโดยประเด็นที่จะส่งให้ศาลฯ วินิจฉัยนั้นไม่ใช่เรื่องคุณสมบัติในตัวบุคคลของ นายเรืองไกร แต่เป็นปัญหาเรื่องคุณสมบัติขององค์กรที่ต้องให้ศาลฯวินิจฉัย
เมื่อถามว่า ส.ว.สรรหารายอื่น ๆ มีปัญหาถูกร้องเรียนในลักษณะเดียวกับนายเรืองไกรหรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า เท่าที่ดูมานั้นยังไม่มี แต่มีกรณีร้องเรียนคุณสมบัติส.ว.รายอื่น ๆ ว่า ส.ว. บางคน ไม่ได้มีลักษณะเป็นตัวแทนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรที่ส่งรายชื่อตนเข้ารับการสรรหา เช่น องค์กรมีวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งแต่ตัวผู้ถูกส่งชื่อไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับกิจการของภาคดังกล่าวเลย.