WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, May 22, 2008

ปชป.นัดประชุมกำหนดจุดยืน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมีการประชุมในวันที่ 22 พ.ค. เพื่อดูรายละเอียดว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ ส.ส.รัฐบาลเป็นอย่างไร ก่อนจะกำหนดท่าทีของพรรคต่อไป ตราบใดที่เป็นการแก้ไขเพื่อตัวเองเราก็ไม่เห็นด้วย และอาจนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งในสังคม เบื้องต้นพรรคประชาธิปัตย์อาจมีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเข้าประกบ ส่วนแนว ความคิดที่จะไม่ร่วมสังฆกรรมกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง แต่หากไม่เข้าไปร่วมพิจารณาหรือไม่เข้าไปแปรญัตติเลย จะเท่ากับเป็นการให้การพิจารณาผ่านไปรวดเร็วโดยไม่มีความรอบคอบ ส่วนตัวรู้สึกว่าเราต้องทำหน้าที่ในการคัดค้าน อย่างน้อยก็มีท่าทีของ ส.ว. และ ส.ส.พรรคพลังประชาชนบางส่วนที่รับฟังข้อเสนอแนะบางประเด็นจากพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนอย่างที่ก่อนหน้านี้มีคนมาบอกว่าอย่างไรเขาก็จะแก้ไข 2-3 มาตราให้เสร็จก่อนปิดสมัยประชุมรัฐสภา ตนก็บอกว่ามันไม่แน่เสมอไป เพราะพรรคการเมืองต้องฟังเสียงของสังคมด้วย ในที่สุดการแก้ไขก็ไม่เกิดขึ้นในการประชุมสมัยสามัญ

แฉตีสองหน้าหวังลดแรงต้าน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่นายกฯของบทำประชามติว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขณะที่ลูกพรรคพลังประชาชนก็ไปยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตรงนี้ทำให้มองได้ว่าที่สุดแล้วเป็นปาหี่ตีสองหน้าตบตาประชาชนหรือเปล่า เพราะการที่ไปถามประชาชนหลังจากที่ยื่นร่างแก้ไขแล้ว ทำให้มองเห็นชัดว่าจริงๆแล้วอยากฟังความเห็นของประชาชนหรือไม่ หรือเป็นแค่เกมการเมืองที่จะลดกระแสความไม่เห็นด้วยในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าสมมติว่านายกฯต้องการจะถามประชาชนก่อน ก็ควรบอกให้ลูกพรรคถอนร่างออกมา สำหรับตัวร่างที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนยื่นไปนั้น เป้าหมายอยู่ที่มาตรา 237 และ มาตรา 309 เพื่อช่วยเหลือคนบางคนให้พ้นจากคดีของ คตส. ซึ่งยังมีอยู่บางมาตราที่ระบุว่า ประกาศของคปค.ที่ขัดกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอเข้าไปใหม่ถือเป็นการบังคับใช้ไม่ได้ ตรงนี้ถือเป็นการมัดตราสัง คตส. ป.ป.ช. และ กกต.ชุดปัจจุบัน เพราะองค์กรเหล่านี้เกิดจากคำสั่งของ คปค. ถ้าใช้บังคับไม่ได้ก็แปลว่าถึงที่สุดแล้วต้องยกเลิกทั้งหมด จึงอยากให้ประชาชนติดตามและรู้เท่าทัน

คตส.แนะเอาเงินช่วยการศึกษาดีกว่า

นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส. กล่าวถึงกรณีที่นายกฯจะของบประมาณ 2,000 ล้านบาท ทำประชามติรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้คนไทยเดือดร้อนเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ จึงควรใช้เงินเพื่อเรื่องปากท้องชาวบ้าน มากกว่าเรื่องการเมือง การทำประชามติไม่ใช่ใช้เงินแค่ 20-30 ล้านบาท แต่ใช้เป็นพันล้าน ถ้าจะให้ดีรัฐบาลควรจะนำเงิน 2,000 พันล้านบาท ไปช่วยนักศึกษาที่สอบติดมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ 2 แสนคน เป็นค่าทุนการศึกษา เชื่อว่าน่าจะใช้แค่เพียง 1 พันล้านบาท เหลืออีก 1 พันล้านบาท อาจนำไปตั้งเป็นกองทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียน จะเป็นประโยชน์มากกว่านำไปใช้เพื่อการเมือง

พันธมิตรฯเตรียมจัดชุมนุมใหญ่

ขณะเดียวกัน ที่บ้านพระอาทิตย์ 5 แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ได้ประชุมหารือประเมินสถานการณ์ทางการเมือง และวิเคราะห์ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ ส.ส.ซีกรัฐบาล จากนั้น นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ แถลงว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้จัดชุมนุมใหญ่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิดระบอบทักษิณ และรณรงค์ล่ารายชื่อถอดถอน ส.ส.ที่ลงชื่อสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนรายละเอียดการดำเนินการจะแถลงให้ทราบอีกครั้งในวันที่ 22 พ.ค. เนื่องจากต้องขอเวลาศึกษาวิเคราะห์ตรวจสอบรายละเอียดร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก 1 วัน รวมทั้งต้องประเมินสถานการณ์ทางการเมืองให้รอบคอบ เพื่อกำหนดแนวทางมาตรการคุ้มครองประชาชนที่ออกมาร่วมชุมนุม ไม่ให้ถูกคุกคามและถูก ทำร้ายร่างกาย ส่วนกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เตรียมของบประมาณ 2,000 ล้านบาทเพื่อทำประชามติในเดือน ก.ค.นั้น ถือว่าเป็นการทำประชามติหลังจากมีการยื่นญัตติไปแล้ว จึงไม่อยู่ในเงื่อนไขที่กลุ่มพันธมิตรฯเคยเรียกร้อง ดังนั้น จะใช้สิทธิตาม กฎหมายชุมนุมเคลื่อนไหวคัดค้านให้ถึงที่สุด

ย้ำปมฟอกผิดคดีของ “ทักษิณ”

นายสุริยะใสกล่าวอีกว่า ในเบื้องต้นแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯประเมินว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชาชนเป็นการทำรัฐประหารเงียบผ่านระบบรัฐสภา นำไปสู่การยุบและยกเลิก ทำให้เกิดการฟอกผิดคดีที่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังเห็นได้ชัดในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 14 จะส่งผลให้องค์กรต่างๆ อาทิ คตส. กกต. จะถูกยุบและยกเลิก นายสุริยะใสยังได้กล่าวถึงข้อเรียกร้องขององคมนตรี และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหยุดพูด หรือนำสถาบันเบื้องสูงมาข้องเกี่ยวกับการเมืองว่า เรื่องนี้คงร้องขอกันไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาทั้งรัฐบาลและกองทัพปล่อยปละละเลย ไม่ได้ทำหน้าที่ในป้องปรามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งคัด เพื่อไม่ให้มีกล่าวร้ายพาดพิงให้สถาบันเสื่อมเสีย ปล่อยให้นำเสนอผ่านเว็บไซต์ ซีดี และใบปลิว จนสถานการณ์บานปลายและลามปามไปมาก แทนที่จะป้องปรามคนที่ออกมาโจมตีสถาบัน กลับมาเรียกร้องให้ทุกคนโดยเฉพาะฝ่ายพสกนิกรผู้ที่จงรักภักดีหยุดพูด คงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนัก

“ประชา” ลั่นจัดม็อบตามประกบ

ด้านนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน ในฐานะแกนนำกลุ่มมหาประชาชนร่วมพิทักษ์ประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ว่า หากกลุ่มพันธมิตรฯออกมาเคลื่อนไหวเมื่อใด กลุ่มมหาประชาชนร่วมพิทักษ์ประชาธิปไตยก็จำเป็นต้องออกมาเคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน จะไม่ยอมให้กลุ่มพันธมิตรฯเอาการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเป็นเงื่อนไขนำไปสู่การปฏิวัติ เพราะกระบวนการนี้ควรให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน นายกฯก็ระบุแล้วว่า จะทำประชามติขอความเห็นจากประชาชน อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของเราจะยังคงเป็นไปในรูปแบบสันติวิธี หลีกเลี่ยงการปะทะ แต่ถ้ากลุ่มพันธมิตรฯมาชุมนุมกันที่ท้องสนามหลวง เราก็จะไปที่สนามหลวงเหมือนกัน อาจต้องแบ่งซีกกันคนละครึ่ง จะไม่ยอมให้มีการเคลื่อนไหวฝ่ายเดียว ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและฝ่ายรักษาความมั่นคงที่จะเข้ามาควบคุมดูแลมวลชน