เห็นข่าวคราวของสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนนท. ออกโรงร่อนจดหมายให้นักเคลื่อนไหวรุ่นพี่ ที่ทำตัวสมสู่เผด็จการ ให้ยกเลิกพฤติกรรมเหล่านั้นเสีย และให้ลาออก หรือเลิกแอบอ้างตัวในองค์กรที่ใช้ชื่อทางประชาธิปไตย
สนนท. เป็นชื่อขององค์กรทางประชาธิปไตยที่สำคัญองค์กรหนึ่ง โดยมีมวลหมู่สมาชิกประกอบไปด้วย นักเรียน นิสิต นักศึกษา จากหลากหลายสถาบัน ที่กล้าแสดงออกทางการเมือง และร่วมต่อสู้ทางการเมืองเพื่อประชาธิปไตย มาตั้งแต่เหตุการณ์เดือนตุลามหาวิปโยคโน่นแล้ว
การยื่นข้อเสนอให้ “นักเคลื่อนไหว” ได้ลาออกจากองค์กร ที่ไปแอบอ้างใช้ชื่อประชาธิปไตยมาเคลื่อนไหว ทั้งที่รูปแบบและเนื้อหาฝักใฝ่เผด็จการอย่างชัดแจ้ง เช่น การเคาะกะลาเรียกคณะนายทหารมาปฏิวัติรัฐประหาร หรือการเข้าด้วยช่วยเหลือกับคณะรัฐประหาร ถึงขนาดไปร่วมงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จกันอย่างเอิกเกริก โดยไม่สนใจหลักการ หรือแก่นแท้ของการปกครองประเทศ ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง
เราเชื่อว่าวันนี้ ไม่สายเกินไปที่สังคมไทยจะตื่น และได้พิจารณาข้อเท็จจริงเหล่านี้อย่างถ่องแท้ว่าอะไรเป็นอะไร
แยกหมู่ แยกจำพวก ให้ชัดเจน ใครยืนข้างเผด็จการ ใครยืนข้างประชาธิปไตย?
เพราะปัจจุบันนี้มีคนจำพวก มือถือสาก ปากถือศีล เยอะแยะมากมายเต็มไปหมด
บางคนวางมาดนุ่มนิ่ม ทำตัวเป็นคนดี พูดแต่เรื่อง คุณธรรม จริยธรรม ธรรมาภิบาล ขณะที่ในช่วงที่ตนเองมีอำนาจกลับ
ทำแต่เรื่องสามานย์ ส่งทหารไปคุกคาม ส.ส. เพื่อไม่ให้ลงชื่อในญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ วางตัวไม่เหมาะสมกับ
สถานะและตำแหน่ง “รับจ๊อบ” เป็นที่ปรึกษาบริษัทใหญ่ระดับประเทศ เพื่อรับผลประโยชน์ด้านต่างๆ ทั้งเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง รถยนต์ประจำตำแหน่ง ซึ่งเป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
บางคนวางมาดเป็นสื่อสารมวลชนที่ดี แต่แท้ที่จริงเอาเงินของประชาชนไปใช้หนี้ โดยผ่านกระบวนการ “แฮร์คัตหนี้” กับ ธนาคารรัฐ อย่างหน้าตาเฉย กลายเป็นบุคคล ล้มบนฟูก
บางคนวางมาดจีบปากจีบคอ เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองเก่าแก่ แต่แท้ที่จริงทำทุกวิถีทางหวังจะได้ตำแหน่งที่ต้องการ โดยไม่สนใจที่มา วิถีทาง และกติกา อันถูกต้องชอบธรรม
ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่ง ของฝ่ายประชาธิปไตย ในการ ทำให้ผู้คนในสังคมหูตาสว่าง ขึ้นมา และกล้าที่จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของคนที่ ฝักใฝ่เป็นทาสเผด็จการ
ที่จริงโทษของคนที่ หลอกลวง ประชาชนเหล่านั้น สมควรจะได้รับคือ การจำคุกตลอดชีวิต หรือการประหารชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113, 114, 115, 116 เพื่อให้สาสมกับความผิดที่ได้ทำกับ ประชาชนคนไทยอีกกว่า 63 ล้านคน และทำกับประเทศไทย เพราะก่อให้เกิดความ เสียหายทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง อย่างประเมินค่าไม่ได้
หวังว่าจะมีการขยายความคิดเหล่านี้ไปเรื่อยๆ ช่วยกันแอนตี้ ช่วยกันต่อต้าน การกระทำใดๆ ที่จะไปส่งเสริมเผด็จการ ส่งเสริมการปฏิวัติรัฐประหาร เพื่อที่จะเป็น “เกราะเหล็ก” ปกป้องใครก็ตามที่จะมาทำร้ายทำลายการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข