WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, May 19, 2008

แนะสื่อยึดมั่นในวิชาชีพท่ามกลางปัญหาการแบ่งพวก

กรุงเทพฯ 18 พ.ค. – นักวิชาการเรียกร้องให้สื่อยึดมั่นในวิชาชีพอย่างมั่นคง ในสถานการณ์ที่สังคมเกิดการแบ่งพวก ไม่เช่นนั้นประเทศจะไม่มีทางออก “นิธิ เอียวศรีวงศ์” วอนสื่อปฏิวัติการนำเสนอข่าวใหม่ ขยายพื้นที่ระหว่างกลางของสองขั้วมากขึ้น

ในการเสวนาเรื่อง “ส่องกระจกบทบาทสื่อในสถานการณ์ความขัดแย้ง” ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ได้เรียกร้องให้สื่อมวลชนยึดมั่นในหลักการวิชาชีพของตนเองอย่างมั่นคง เพราะสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน กำลังเกิดความขัดแย้งที่มีลักษณะประหลาด คือ ไม่ใช่ความขัดแย้งในเรื่องของประเด็น แต่เป็นลักษณะการแบ่งพวก ซึ่งทำให้คนที่อยู่ตรงกลาง รวมทั้งสื่อทำงานค่อนข้างลำบาก เพราะไม่ว่าจะเสนอข่าวอะไรจะถูกมองว่าเป็นพวกนั้นพวกนี้ตลอดเวลา ทั้งที่อาจไม่ได้ตั้งใจว่าจะเป็นพวกไหน

“สังคมไทยในปัจจุบัน กำลังเป็นสังคมที่เป็นอัมพฤกษ์ เพราะจะเคลื่อนตัวหรือเคลื่อนไหวอะไรก็ไม่สะดวก จะถูกมองว่าเป็นพวกนั้นพวกนี้ตลอด ดังนั้น ในสถานการณ์เช่นนี้จึงอยากให้สื่อยึดมั่นในหลักการวิชาชีพของตนเองอย่างมั่นคง ไม่เช่นนั้นสังคมไทยจะไม่มีทางออก” นายนิธิกล่าว

นายนิธิ ยังเห็นว่า การนำเสนอข่าวของสื่อในปัจจุบัน ไม่ได้ส่งเสริมให้เกิดการรับรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ในบ้านเมืองเท่าที่ควร และเห็นว่าปัญหามาจากบรรณาธิการหรือเจ้าของสื่อที่คิดว่า การนำเสนอข่าวเช่นในปัจจุบันสามารถขายได้ แต่ตนคิดว่าไม่จริง โดยเห็นว่าขณะนี้คนไทยกำลังหิวกระหายกับความรู้ ว่ามีอะไรคืบหน้าในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาบ้าง เช่น นโยบายข้าวที่ดีที่สุดควรเป็นอย่างไร มากกว่าคำสัมภาษณ์ของคนนั้นคนนี้ ซึ่งไม่ได้ให้ความรู้เพิ่มขึ้น นอกจากความสะใจ ดังนั้น จึงอยากให้ผู้สื่อข่าวไปทำสงครามกับบรรณาธิการหรือเจ้าของสื่อ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการนำเสนอข่าว เพื่อเพิ่มพื้นที่ตรงกลางให้มากขึ้น แทนที่จะนำเสนอข่าวของพวกนั้นพวกนี้

“วันนี้ หากเราไม่อ่านหนังสือพิมพ์สักเดือนหนึ่ง แล้วกลับไปอ่านอีกที ถามว่าจะรู้อะไรเพิ่มขึ้นหรือไม่ ผมว่าไม่ เหมือนกับฟังคุณสมัคร (สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี) ไม่ว่าคุณสมัครจะพูดหรือไม่พูดอะไรก็แล้วแต่ หากไม่ฟังสัก 5 อาทิตย์ แล้วไปฟังใหม่อีกที มันก็ซ้ำกับที่ฟังไปครั้งที่แล้ว เพียงแต่ประเด็นที่ยกมาพูด อาจคนละเรื่องกัน แต่ไม่ได้ความรู้อะไรเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ถ้าผมเป็นนักธุรกิจ ผมจะไม่รับสื่อเพราะทำให้เสียเวลา เนื่องจากไม่สามารถทำให้ผมเข้าใจสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองรอบข้างเพิ่มพูนขึ้น จนพอที่ผมจะวางแผนยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของผมได้” นายนิธิ กล่าว

ด้าน นายชัยวัฒน์ สถาอานันท์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวเช่นกันว่า การแบ่งพวกที่เกิดขึ้นในปัจจุบันถือเป็นปัญหาใหญ่ เพราะสังคมถูกบังคับให้เลือกพวก ดังนั้น สื่อจะต้องมีความเป็นมืออาชีพสูง เป็นสื่อที่มีมารยาท ไม่ทำให้คนเกลียดกันหรือฆ่ากัน เพราสื่อถือเป็นอาวุธทางการเมืองอย่างหนึ่ง ที่อาจส่งเสริมให้ความขัดแย้งขยาบยวงกว้างขึ้นได้ เห็นได้จากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศรวันดา ที่มีการฆ่ากันตายถึง 5 แสนคนภายใน 2 เดือน ซึ่งสื่อก็มีส่วนที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการฆ่ากันดังกล่าว. - สำนักข่าวไทย


อัพเดตเมื่อ 2008-05-18 13:00:54