WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, May 24, 2008

เปิดใจ! “สมัคร” ร่อนหนังสือถึง กกต. แจง 4 ข้อชัดเจน

“นายกฯ” เคลียร์ตัวเองนั่งพิธีกร “ชิมไปบ่นไป” ระบุรับงานด้วยปากเปล่า ตั้งแต่ปี 43 ยืนยันไม่มีเซ็นสัญญาว่าจ้างหรือไม่เคยมีตำแหน่งใด ๆ ในบริษัทของผู้ผลิตรายการ รับแค่ไม่เหมาะสม พร้อมยินดีเข้าให้ปากคำต่อ กกต. เปรยให้หาพรีเซนเตอร์คนใหม่แทน

วันนี้ (23 พ.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2551 ถึงนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อชี้แจงถึงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่าเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ “ชิมไปบ่นไป” ทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายอภิชาตได้นำมาแจกกับกกต.ทั้ง 4 คนด้วยระหว่างการประชุม ซึ่งที่ประชุม กกต. ยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว

สำหรับเนื้อหาที่นายสมัครได้ชี้แจงถึง กกต. ระบุว่า “ตามที่ผู้กล่าวหาว่ากระผมเป็นผู้จัดรายการเป็นการขัดต่อข้อกำหนดของการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี โดยกล่าวหาว่ากระผมเป็นลูกจ้างบริษัทผู้ผลิตรายการนั้น กระผมจึงขอเรียนให้ท่านทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้

1. ผมได้รับการเชิญจากผู้เป็นเจ้าของรายการให้เป็นผู้แสดงการทำอาหารไทยให้กับผู้ที่สนใจได้ศึกษากับทางโทรทัศน์ตั้งแต่เมื่อกลางปี พ.ศ. 2543 ที่กระผมลาออกจากการเป็น ส.ส. มาลงสมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร

2. นับตั้งแต่การได้รับเชิญเป็นพิธีกรดังกล่าวเป็นการออกปากเชิญกันด้วยปากเปล่าและได้ทำรายการติดต่อกันมาเป็นเวลา 7 ปี โดยบางครั้งเมื่อเป็นผู้ว่าฯ กทม.แล้วมีหนังสือพิมพ์ลงตำหนิว่ากล่าว ผมก็ไม่รับเป็นพิธีกรอยู่จนพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ แล้วจึงได้กลับมารับเชิญใหม่ ซึ่งก็เป็นการเชิญปากเปล่าเหมือนเดิม ไม่เคยมีการเซ็นสัญญาว่าจ้างหรือไม่เคยมีตำแหน่งใดๆ ในบริษัท ของผู้ผลิตรายการไม่ว่าตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น

3. การรับเป็นพิธีกร ผู้เชิญก็ได้ให้ค่าน้ำมันรถในการไปถ่ายทำ ทำนองเดียวกันกับที่ผมไปเป็นผู้บรรยายทางหน่วยงานอื่นที่เชิญให้ไปพูด โดยได้รับค่าน้ำมันทุกคราที่ไปถ่ายทำ

4. เมื่อก่อนหน้าที่ผมจะได้รับเลือกเป็น ส.ส.ในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ประมาณ 2 - 3 วัน ผมได้รับจดหมายสอบถามจากเจ้าของรายการว่า ถ้าหากผมเป็น ส.ส. แล้วยังเป็นพิธีกร ให้เขาเหมือนเดิมหรือไม่ ซึ่งผมก็ตอบไปว่าเป็น ส.ส.ไม่เป็นไร แต่หากวันข้างหน้าไปทำหน้าที่รัฐมนตรีทางฝ่ายบริหารจะมีกฎระเบียบ ซึ่งแม้จะไม่เข้าเกณฑ์ต้องห้าม แต่อาจไม่เหมาะสม จึงมีหนังสือกลับไปว่าตอนที่ยังเป็นส.ส.อยู่นี้ รับดำเนินรายการเหมือนเดิมได้ แต่หากเป็นผู้บริหารระดับรัฐมนตรีแล้วก็คงจะต้องพิจารณากันอีกที โดยสรุปต่อจากนั้นจะทำรายการให้เปล่าๆ ไม่รับค่าน้ำมันรถ และขอให้เริ่มมองหาพรีเซนเตอร์คนใหม่เอาไว้ด้วย

โดยผมขอยืนยันว่าผมไม่เคยมีหรือเซ็นต์สัญญากับทางบริษัทและได้แจ้งไปแล้วว่าตั้งแต่รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ผมไม่ขอรับค่าตอบแทนแต่อย่างใด และยินดีที่จะนำหลักฐานและมาให้ปากคำกับกกต.เองหากต้องการทราบข้อเท็จจริง