WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, May 23, 2008

ตะลึง! BRT ยิ่งสาวยิ่งลึก ดีเอสไอจ่อสอบ‘อภิรักษ์’

“ดีเอสไอ” สาวลึกจัดซื้อรถบีอาร์ที ระบุข้อร้องเรียนประมูลซื้อตัวรถโดยสารแค่เรื่องจิ๊บจ๊อย จ่อรื้อตรวจสอบทั้งโครงการ ตั้งแต่ “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ หลังพบพิรุธเบิกจ่ายหลายครั้ง และปรับสเป็กตลอดเวลา รวมไปถึงการจ้างบริษัทที่ปรึกษา เชื่อรวมแล้วเป็นเงินงบประมาณไม่น้อยกว่า 2 พันล้าน คาดเรียกสอบได้เร็วๆ นี้ ไม่เว้นผู้ว่าฯ กทม.

จากกรณีความไม่ชอบมาพากลในการจัดซื้อรถเมล์ด่วนพิเศษชิดเกาะกลาง(BRT) ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน อดีตปลัด กทม. ได้ร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่ามีความน่าสงสัยในราคาจัดซื้อที่เกินจริง และมีการลดสเป็ก รวมทั้ง 2 บริษัทที่เข้าร่วมการประมูล ยังพบว่ามีความสัมพันธ์กันโดยกรรมการทั้ง 2 บริษัทไปถือหุ้นร่วมกันในบริษัทอื่น

อีกทั้งที่ผ่านมาทาง กทม. ยังได้ชิงตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าวเอง และสรุปผลออกมาว่ากรณีที่เกิดขึ้นไม่เข้าข่ายฮั้ว และทุกอย่างเป็นไปด้วยความโปร่งใส จนเกิดความกังวลสงสัยว่าเป็นการชิงตัดตอนเพื่อจะกันบางคนออกไปจากคดีดังกล่าวหรือไม่ นั้น

ล่าสุด พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข ผอ.ส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 3 สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าพนังงานสอบสวนในคดีฮั้วการจัดซื้อรถเมล์ด่วนพิเศษชิดเกาะกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวว่า ในขั้นต้นทางดีเอสไอเพิ่งจะได้รับเอกสารหลักฐานจากทาง กทม. มาบางส่วน หลังจากที่มีการร้องขอให้ส่งมาให้ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนเพื่อที่จะทำการตรวจสอบก่อนนี้ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร

โดยในขณะนี้ดีเอสไอกำลังดำเนินการตรวจสอบหลักฐานเอกสารที่ได้มาเพื่อที่ดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และก้าวต่อไปสู่ขั้นตอนการเรียกสอบตัวบุคคลต่อไป ซึ่งยังคงบอกรายละเอียดอะไรไม่ได้มากในตอนนี้เพราะยังได้เอกสารมายังไม่ครบถ้วนทั้งหมด

ซึ่งในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวนั้น ไม่ได้ตรวจสอบเพียงแค่การซื้อรถ แต่จะมีการไล่ย้อนตรวจสอบไปทั้งโครงการโดยมีการเริ่มไว้ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2547 สมัย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ใหม่ ๆ ซึ่งมีการขอเบิกงบมาเป็นระยะ ๆ มีการเพิ่มวงเงินกันอยู่อย่างเรื่อย ๆ เช่น ในการขอปรับระยะทางหรือปรับเส้นทาง

ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาในการขอหลักฐานมาประกอบ เนื่องจากมีการขอปรับโครงการเป็นครั้งคราว จึงทำให้หลักฐานถูกแบ่งช่วงๆ เป็นระยะด้วยเช่นกัน ซึ่งยังไม่การสรุปมูลค่าโครงการว่าอยู่ที่ประมาณเท่าไร ต้องรอให้ทาง กทม. สรุปงบที่ตั้งไว้และมีการอนุมัติจริงๆ ว่ามีมูลค่าโครงการทั้งหมดเท่าไรกันแน่ กทม. เองก็ยังตอบให้ถูกต้องชัดเจนยังไม่ได้เช่นกัน โดยเรื่องรถเป็นเพียงแค่ส่วนเดียวของโครงการนี้ที่ต้องมีการตรวจสอบ โดยทางดีเอสไอได้มีการประเมินคร่าวๆ ว่างบประมาณโครงการอยู่ที่ประมาณกว่าสองพันล้านบาท

พ.ต.อ.ประเวศ กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้กำลังตรวจสอบว่าจะต้องขอหลักฐานอะไรมาประกอบเพิ่ม ซึ่งเอกสารที่ กทม. ส่งมาให้มีทั้งหมด 16 รายการ มีจำนวนร่วมพันกว่าหน้า ทั้งเอกสารทีโออาร์ เอกสารประกอบสัญญา อีกทั้งต้องตรวจสอบในเรื่องของการว่าจ้างที่ปรึกษา และเอกสารในการออกแบบ รวมไปถึงการจัดซื้อจัดจ้าง การเบิกจ่ายเงินงบประมาณตามขั้นตอน ซึ่งถ้ามีการตรวจสอบหลักฐานพบว่ามีใครที่ไปเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนคือเรียกเข้ามาสอบสวนถึงจะพบว่าเป็นผู้ว่าฯ กทม. เองเข้ามาพัวพันด้วยก็ตาม ซึ่งต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน เพราะเปิดโอกาสให้มีการแถลงข้อเท็จจริง