* ถูกข่มขู่แค่ข้ามคืนหลังถล่ม “จำลอง”
เผด็จการคุกคามแกนนำผลักดันแก้ไข รธน.50 และนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย “นพ.เหวง โตจิราการ” วางปืนจ่อปากกระบอกเข้าบ้านแต่เช้ามืด หลังจากเปิดเวทีถล่มพวกดึงฟ้าต่ำ และถล่ม “พล.ต.จำลอง ศรีเมือง” ที่ออกมาชี้ช่องปฏิวัติว่ามีใจใฝ่เผด็จการ เพียงชั่วข้ามคืน ตำรวจส่งปืนปลอม หารอยนิ้วมือแฝงเพื่อเร่งล่าหาตัวคนร้ายโดยเร็ว ขณะที่บรรดาแนวร่วมประชาธิปไตย ประสานเสียงยัน “หมอเหวง” ไม่เคยมีศัตรู นอกจากออกมาต่อสู้ทางการเมืองเท่านั้น
ในสถานการณ์การเมืองที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำสมาพันธ์ประชาธิปไตย และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการประชาชนแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) ได้ออกมาเคลื่อนไหวผลักดันแก้ไขรธน. อย่างต่อเนื่อง รวมไปทั้งล่าสุดที่มีการเปิดเวที “16 ปี พฤษภา 35” และมีเนื้อหาบางตอนถล่ม พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุเปลี่ยนสีจากที่เคยต่อต้านการรัฐประหาร มาสนับสนุนและเชื้อเชิญให้เกิดการปฏิวัติ เสมือนเป็นการเหยียบย่ำกองกระดูกวีรชนเดือนพฤษภา ทำตัวเป็นทรราชย์ และฝักใฝ่เผด็จการ นั้น
ถัดมาเพียงข้ามคืนในเช้ามืดวันที่ 19 พฤษภาคม ได้เกิดเหตุการณ์ที่เชื่อได้ว่าหมายข่มขู่คุกคาม นพ.เหวง และครอบครัว ขึ้นที่หน้าบ้านพักในย่านดอนเมือง
นพ.เหวง เล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านพักในเวลาประมาณ 05.45 น.โดยภรรยาของตนเดินทางไปที่หน้าประตูรั้วบ้านเพื่อไปหยิบหนังสือพิมพ์รายวัน ปรากฏว่าพบอาวุธปืน 1 กระบอก วางอยู่นอกประตูรั้วห่างไปประมาณ 1 ฟุต ปากกระบอกปืนหันมาทางตัวบ้าน จากนั้นจึงเรียกตนเองไปดูและพบว่าเป็นปืนปลอมที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับของจริงมาก
สิ่งที่เกิดขึ้นเชื่อได้ว่าเป็นเรื่องผิดปกติอย่างแน่นอน เพราะบ้านตนอยู่อย่างสงบเรียบร้อยมาเป็นเวลาประมาณ 14-15 ปีแล้ว ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้ และรอบบริเวณบ้าน เพื่อนบ้านล้วนเป็นคนดีเรียบร้อยรักสันติทั้งนั้น จึงเชื่อว่าเป็นการแสดงการข่มขู่คุกคามต่อชีวิตจากพวกศัตรูทางการเมืองอย่างแน่นอน
“ทั้งหมดนี้เป็นการข่มขู่คุกคามต่อชีวิตจากศัตรูทางการเมืองอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะผมมีบทบาทในคคปพร. เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ2550 ที่ยังมีเนื้อหาอีกจำนวนไม่น้อยเป็นเผด็จการอำมาตยาธิปไตย อภิชนาธิปไตย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นโดยผ่านครรลองรัฐสภาและสันติวิธี
การต่อสู้ของผมและคณะนั้นจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนมีเพียงประการเดียวคือ ต้องการให้ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง ไม่ใช่เปลือกนอกเป็นประชาธิปไตยแต่แก่นแท้เป็นอำมาตยาธิปไตย อภิชนาธิปไตย รัฐประหารนิยม อย่างที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญ2550”
นพ.เหวง ยืนยันด้วยว่าการข่มขู่คุกคามต่อชีวิตไม่อาจหยุดยั้งการต่อสู้คัดค้านเผด็จการสร้างสานประชาธิปไตยได้ ไม่ว่าจะเป็นตนเองและคณะ หรือนักสู้และประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกคน จึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายปฏิปักษ์ประชาธิปไตยยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบรวมทั้งความพยายามที่จะดึงฟ้าต่ำ โหนสถาบัน ใช้สถาบันเบื้องสูงเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการฟาดฟันฝ่ายประชาธิปไตยและสร้างเงื่อนไขให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหารอันเป็นการทำลายประเทศให้พังพินาศยับเยินยิ่งๆขึ้น
หลังจากนั้นในเวลาประมาณ 07.00 น. นพ.เหวง พร้อมด้วยภรรยา ได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.นพดล ขันตีกุล ร้อเวร สน.ดอนเมือง เพื่อลงบันทึกประจำวัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปดำเนินการ บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และเก็บปืนปลอม เพื่อนำไปตรวจสอบลายนิ้วมือของกลางดังกล่าวเพื่อดำเนินการไปตามกฎหมายต่อไปแล้ว
นพ.เหวง เสริมด้วยว่าจะยื่นหนังสือต่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อร้องขอความเป็นธรรมอีกทางหนึ่งด้วย เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการคุกคามความปลอดภัยต่อชีวิต และเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง โดยในเบื้องต้นจะส่งเอกสารแฟกซ์ไปยังกระทรวงมหาดไทยก่อน และจะหาโอกาสเข้ายื่นหนงสือต่อ รมว.มหาดไทยต่อไป
ร.ต.ท.นพดล ขันตีกุล ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่าจากการที่ไปตรวจที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบหน้าบ้านเป็นที่สัญจรไปมาของคนในซอยได้สะดวกจึงทำให้สันนิษฐานได้ยากว่าเป็นฝีมือของใคร ซึ่งในการดำเนินการตรวจสอบนั้นอยู่ในขั้นตอนของการส่งหลักฐานปืนปลอมไปให้ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานหารอยนิ้วมือบุคคล เพื่อทำการสืบสวนในขั้นตอนต่อไป ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาราว 1 เดือนกว่าที่การตรวจสอบลายนิ้วมือจะเสร็จสิ้น
อย่างไรก็ดี ในกรณีนี้ ผู้กำกับฯ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าไปให้การดูแลความปลอดภัยถี่ขึ้นกว่าปกติ เพื่อให้เกิดความสบายใจ อีกทั้งยังเป็นการหาตัวบุคคลต้องสงสัยอีกทางหนึ่งด้วย
ด้าน นายวิภูแถลง วัฒนภูมิไท หนึ่งในแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะเป็นไปได้ที่ นพ.เหวง จะถูกฝ่ายปฏิปักษ์คุกคาม เนื่องจากในขณะนี้ ทุกคนในแกนนำ คปพร. เป็นเฟืองหลักในการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องความเป็นประชาธิปไตย และเหตุการณ์เช่นนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกต่อสมาชิกภายในกลุ่ม โดยไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ก็เคยถูกกระทำมาแล้ว
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือแม้กระทั่งทหาร ควรจะให้ความสำคัญกับนพ.เหวง ในระดับหนึ่ง เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณที่ไม่ปลอดภัย และที่ผ่านมานพ.เหวงก็ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใครเป็นการส่วนตัว เว้นเสียแต่เรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมืองเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทางคปพร.พร้อมที่จะเดินหน้าต่อสู่ให้เกิดความเป็นประชาธิปไตยต่อไป
“หมอไม่เคยขัดแย้งกับใครเป็นการส่วนตัว เรื่องการเมืองน่าจะเป็นเหตุผลเดียวที่จะถูกข่มขู่ ก่อนหน้านี้คุณสมยศก็โดนขู่มาแล้ว แต่ผมคิดว่าการขู่คุกคามอย่างนี้ไม่เป็นปัญหากับเรา หากเราต้องการจะได้ความชุ่มฉ่ำจากสายฝน ก็ไม่เห็นต้องกลัวฟ้าร้อง เราต้องเดินหน้าต่อเพื่อความเป็นเสรีภาพ เราไม่หยุดนิ่งเพียงเท่านี้” นายวิภูแถลงกล่าว
ทางด้านนางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ อดีตสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย กล่าวว่าคนที่ทำเรื่องนี้เป็นกลุ่มอื่นไปไม่ได้นอกจากฝ่ายเผด็จการ เพราะนพ.เหวง เป็นผู้ต่อสู้และเรียกร้องเพื่อต่อต้านเผด็จการมาตลอด และที่ผ่านมาก็มีการต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) จนทำให้กลุ่ม คมช.ถูกจับ อีกทั้ง นพ.เหวง ยังมีการจัดกิจกรรมพร้อมทั้งสร้างแกนนำให้ประชาชนต่อต้านเผด็จการ เพื่อเรียกร้องให้บ้านเมืองกลับคืนสู่ประชาธิปไตยมาโดยตลอด
ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นกลับครอบครัว นพ.เหวง เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องมาดูแล เพราะเป็นกระบวนการบ่งชี้ว่าเป็นการกระทำที่ข่มขู่เพื่อหวังเอาชีวิต ซึ่งกลุ่มดังกล่าวไม่ปรากฏตัวเด่นชัดจึงระบุผู้กระทำผิดไม่ได้ อย่างไรก็ตามคนที่กระทำไม่มีจิตใจเป็นสุภาพบุรุษ
“หมอเหวงเป็นผู้รักในระบอบประชาธิปไตย และที่ผ่านมาก็ได้มีการต่อสู้และเรียกร้องให้ต่อต้านเผด็จการมาตลอด และได้มีการต่อต้านกลุ่ม คมช.จนถูกจับ แล้วยังมีการจัดกิจกรรมสร้างแกนนำให้ประชาชนต่อต้านเผด็จการ ฉะนั้นจะเป็นกลุ่มใดไม่ได้นอกจากกลุ่มที่ต้องการนำประเทศกับไปสู่เผด็จการ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องคอยดูแลครอบครัวคุณหมอด้วย” นางประทีปกล่าว