รัฐบาลเตรียมเดินหน้าหวยบนดินผ่านระบบออนไลน์ แล้ว โดยผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ค. นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีนายปิยพันธุ์ นิมมานเหมินท์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นประธานกรรมการ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. จนถึงเวลา 16.00 น. หลังจากประชุมเสร็จสิ้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวทางของบอร์ดสำนักงานสลากฯที่จะมีการจำหน่ายสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัวและ 2 ตัว หรือหวยบนดินอีกครั้ง ภายหลังจากรัฐบาลชุดที่แล้วได้ยกเลิกการจำหน่ายหวยบนดิน ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. 49 รวมระยะเวลา 18 เดือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า นับจากนี้ไปสำนักงานสลากฯ ต้องไปหารือเพิ่มเติมกับบริษัทล็อกซเล่ย์ จี เทค เพื่อดำเนินการปรับปรุงซอฟต์แวร์เดิมให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับการจำหน่ายหวยบนดินที่จะกลับมาดำเนินงานอีก ครั้ง โดยคาดว่าบริษัทล็อกซเล่ย์ จี เทค จะใช้เวลาในการปรับปรุงประมาณ 90 วัน เพื่อให้ระบบเสถียร โดยมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย ดังนั้น หวยบนดินงวดแรกที่จำหน่ายคือ งวดวันที่ 1 ก.ย. หรือไม่เกิน 16 ก.ย.ปีนี้ “สำหรับหวยบนดินที่จะนำมาจำหน่ายในครั้งนี้ ตนได้อนุมัติในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานสลากฯ และจะเสนอ ให้ ครม.รับทราบต่อไป โดยยึดหลักของการเป็นสลากกินแบ่ง ไม่ใช่สลากกินรวบเหมือนกับหวยบนดินในอดีต โดยอาศัย พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 2517 มาตรา 22 ที่มีการกำหนดสัดส่วนของรายได้ กล่าวคือ 60% นำไปจัดสรรเป็นเงินรางวัล 28% เป็นรายได้นำส่งคลัง และอีก 12% เป็นค่าจัดการและส่วนลด หรือกำไรของตัวแทนจำหน่าย ทำให้หวยบนดินใหม่นี้มีลักษณะเป็นหวยออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีจุดจำหน่าย 6,000 เครื่อง สามารถเดินไปซื้อหวยได้ทันที ส่วนคนเดินโพยอีก 200,000 ราย ก็สามารถจำหน่ายหวยบนดินได้ ด้วยวิธีการเขียนลักษณะคล้ายหวยบนดินเดิม แต่คนเดินโพยจะต้องรีบนำโพยหวย มาบันทึกลงเครื่องออนไลน์” รมว.คลังกล่าว นพ.สุรพงษ์กล่าวอีกว่า ส่วนการจ่ายเงินรางวัลที่ชัดเจนนั้น สำนักงานสลากฯจะสรุปเงินรางวัลให้ได้ภายใน 1 เดือนนับจากวันนี้ โดยในเบื้องต้น เงินรางวัลจะเหมือนเดิม กล่าวคือ เลขท้าย 3 ตัวบนตรง บาทละ 500 บาท 3 ตัวบนโต๊ด บาทละ 100 บาท 2 ตัวบน และ 2 ตัวล่าง บาทละ 65 บาท แต่เนื่องจากมีการกำหนดการจ่ายเงินรางวัลไม่ให้เกิน 60% ของรายได้ ทำให้ยอดเงินรางวัลที่จะต้องจ่ายผันแปรตามเปอร์เซ็นต์ที่ขึ้นลงตามยอดการจำหน่าย ซึ่งทำให้เลขดัง หรือเลขที่คนนิยมแทงจำนวนมาก หากออกรางวัลมาตรงกับที่แทง ก็มีโอกาสได้รับเงินรางวัลน้อยลง ขณะเดียวกันหากรางวัลออกมาเป็นเลขที่คนไม่นิยม คนที่ถูกก็จะได้รับเงินรางวัลในสัดส่วนที่สูงขึ้น นอกจากนี้หากในช่วงระยะเวลาของการจำหน่าย ปรากฏว่าเงินรางวัลที่มีโอกาสถูกเกินกว่า 60% ระบบออนไลน์จะจำกัดการซื้อชั่วคราว จนกว่าสัดส่วนที่เป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินรางวัลจะลดลง เนื่องจากมีคนแทงหรือซื้อหมายเลขอื่นเข้ามาเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ร.บ.สำนักงานสลากมี 2 ฉบับคือ พ.ร.บ.ปี 2517 กับ พ.ร.บ.ปี 2550 ที่กำลังอยู่ระหว่างการตีความของศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีลักษณะการจ่ายเงินรางวัลยืดหยุ่นมากกว่า เพราะไม่ได้มีการกำหนดสัดส่วนการจ่ายเงินรางวัลที่ตายตัว เหมือนกับ พ.ร.บ.ปี 2517 นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า ในขั้นตอนของการจำหน่ายหวยบนดินจะจำหน่ายตามข้อกฎหมายของ พ.ร.บ.สำนักงานสลากปี 17 ตามมาตรา 22 เพื่อไม่ให้ขัดต่อกฎหมาย และหาก พ.ร.บ.ปี 50 มีผลบังคับใช้เมื่อใด การกำหนดการจ่ายเงินรางวัลก็จะปรับปรุงให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ฉบับใหม่ที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า ส่วนกรณีที่มีคนเป็นห่วงว่าคนเดินโพยจะส่งโพยหวยให้กับเจ้ามือหวยใต้ดินแทนที่จะนำมาส่งให้จุดจำหน่าย ไม่น่าเป็นห่วง เพราะจะมีระบบป้องกันและปราบปรามเจ้ามือหวยบนดินออกมารองรับ ที่สำคัญคนเดินโพยเมื่อจำหน่ายหวยบนดินแล้ว ต้องรีบนำป้อนลงเครื่องออนไลน์ เพื่อป้องกันการถูกจำกัดซื้อชั่วคราว ในกรณีที่เป็นเลขดัง หรือเลขเด็ด รมว.คลังกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ กระทรวงการคลังจะรับเรื่องร้องทุกข์จากบรรดาเอเย่นต์เดิมที่ต้องหยุดการจำหน่ายหวยบนดินนาน 18 เดือน จนมีปัญหาเรื่องฐานะ การเงิน อาจจะมีเข้าไปดูแล แต่การช่วยเหลือก็ต้องเป็น ธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่าการจำหน่ายหวยบนดิน เป็นอีกหนทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการจำหน่าย สลากเกินราคาได้ เพราะในช่วงที่มีหวยบนดินนั้น ราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ในระดับที่ไม่แพงมาก บางงวดถึงขั้นขาดทุนด้วยซ้ำไป ที่สำคัญเงินจากหวยใต้ดินที่ตกอยู่ในมือของผู้มีอิทธิพลได้ถูกนำมาอยู่บนดิน รัฐบาลจะนำไปใช้ประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงาน ก่อนหน้าที่ นพ.สุรพงษ์จะเดินทาง มาที่สำนักงานสลากฯ ในช่วงเช้าของวันที่ 22 พ.ค. สำนักงานสลากฯ จัดงานสัมมนา เรื่องการปรับปรุงการออกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการรวมชุดสลากฯ และปัญหาสลากเกินราคา โดยแนวทางในการปรับปรุงการออกรางวัลที่ 1 แบบใหม่ โดยใช้เครื่องออกรางวัลอัตโนมัติ Multipick แบ่งออกเป็น 2 แนวทาง ประกอบด้วย แนวทางที่ 1 การออกรางวัลที่ 1 จำนวน 46 รางวัล เงินรางวัล รางวัลละ 3,000,000 บาท และแนวทางที่ 2 การออกรางวัลที่ 1 เป็น 5 กลุ่ม จะได้รับเงินรางวัลทั้งเงินรางวัล รางวัลละ 3,000,000 บาท ได้แก่ชุดที่ 01-30 และชุดที่ 51-66 โดยกลุ่ม 1-4 มีจำนวนสลากกลุ่มละ 9 ล้านฉบับ ได้รับเงินรางวัลทั้งสิ้นกลุ่มละ 27 ล้านบาท และกลุ่มที่ 5 มีจำนวนสลาก 10 ล้านฉบับ จะได้เงินรางวัล 30 ล้านบาท โดยจะคัดเลือกชุดโดยใช้เครื่องออกรางวัลอัตโนมัติ Saturn อย่างไรก็ตาม ในการสัมมนายังไม่มีข้อสรุปว่าจะเลือกดำเนินการในแนวทางใด เนื่องจากทั้ง 2 แนว ทางก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน เช่น หากดำเนินการตามแนวทางที่ 1 คือการกระจายรางวัล ข้อดีคือ เป็นการเพิ่มจำนวนผู้ถูกรางวัลที่ 1 ให้มากขึ้น และลดปัญหาสลากเกินราคาเฉพาะประชาชนผู้บริโภคสลากชุดได้อย่างชัดเจน ส่วนข้อเสีย คือ อาจเกิดข้อสงสัยผลการออกรางวัล เพราะเป็นอุปกรณ์ทำจากอิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์หากใช้เป็นจำนวนมากอาจเกิดความเสียหายได้ เป็นต้น ส่วนแนวทางที่ 2 ข้อดี คือ จะมีผู้ถูกรางวัลที่ 1 อย่างน้อย 5 คน ใช้เวลาในการออกรางวัลน้อย เพียง 3 นาที ส่วนข้อเสีย คือ ประชาชนจะเกิดความสับสนและอาจไม่สามารถลดปัญหาการรวมชุดของสลากได้ นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ นักวิชาการ กล่าวว่า การออกรางวัลที่ 1 แบบใหม่ทั้งแนวทางที่ 1 และแนวทางที่ 2 น่าจะสามารถแก้ไขปัญหาการรวมชุดสลากฯ เพื่อจำหน่ายและแก้ไขปัญหาสลากราคาแพงได้ แต่ก็เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น อีกทั้ง หากจะมีการปรับเปลี่ยนในการออกรางวัล จะต้องดำเนินการอยู่บนหลัก 3 ประการ คือ 1. จะต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้ง่าย 2. เมื่อดำเนินการแล้วจะต้องไม่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าเสียเปรียบ 3. หากมีการปรับเปลี่ยนแล้วจะต้องทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในเรื่องของอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ทั้งนี้เห็นว่าการจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับสำนักงานสลากฯ ในระยะยาว คือจะต้องดำเนินการแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 และปรับปรุงองค์กรให้มีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ