“จักรภพ เพ็ญแข” เป็นห่วงปัญหาสุนทรพจน์ ”อึมครึม” เร่งแปลเผยแพร่สื่อและเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เกินพฤหัสที่ 22 พ.ค.นี้ เผย บิ๊กจิ๋ว รับปากช่วยเคลียร์สังคม ทั้งหมดเป็นแผนจ้องทำลายทางการเมือง
ทั้งนี้ เมื่อเช้า (19 พ.ค.) ที่ผ่านมา นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมารอพบกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บริเวณจวนผู้ว่าหลังเก่า จ.นครพนม พร้อมด้วยบรรดา ส.ส.นครพนม ครบทีม เนื่องในพิธีเปิดงานออนซอน โดย พล.อ.ชวลิต จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิด
โดยดยภายหลังได้พบปะกับ พล.อ.ชวลิต แล้ว นายจักรภพ เปิดเผยว่า กรณีการกล่าวปราศรัยของตนนั้น จะทำเรื่องนี้ให้กระจ่างโดยเร็ว และพร้อมตอบทุกคำถาม ซึ่งเบื้องต้นจะต้องทำคำแปลให้กระจ่างชัดเป็นอันดับแรก โดยในวันอังคารนี้จะตรวจร่างสุดท้ายให้เรียบร้อย และคาดว่าไม่น่าเกินวันพฤหัสบดีที่ 22 พ.ค. จะสามารถนำเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนได้ รวมทั้งหากพนักงานสอบสวนต้องการก็จะจัดส่งให้โดยเร็วต่อไปด้วย ซึ่งขอให้ประชาชนอย่าหวั่นไหวกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะเป็นการมุ่งทำลายกันทางการเมือง
ส่วนกรณีที่จะถูกฝ่ายค้านยื่นถอดถอนนั้น ก็ให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ซึ่งใครมีหน้าที่อะไรก็ทำไป นอกจากนี้ ยังนับเป็นการโชคดีที่ได้มาพบกับ พล.อ.ชวลิต ซึ่งได้บอกกับตนว่า ตอนนี้มีคนเข้าใจผิดกันมาก โดยพล.อ.ชวลิต รับปากจะช่วยอธิบายให้สังคมได้เข้าใจว่า มีขบวนการจ้องทำลายกันทางการเมือง และเสี้ยมคนให้ชนกัน รวมทั้งการสร้างความแตกแยกในสังคมนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งต้องขอขอบคุณ พล.อ.ชวลิต เป็นอย่างมาก ที่ถือได้ว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง
ด้านนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะรองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน (พปช.) กล่าวถึงกรณีที่ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรค เสนอให้ นายจักรภพ พิจารณาตัวเองด้วยการลาออกเพื่อต่ออายุให้รัฐบาล หลังฝ่ายค้านยื่นข้อมูลคำบรรยายดังกล่าวให้กับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ว่า พปช.อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งโดยส่วนตัวยังไม่ได้ฟังหรือเห็นสิ่งที่นายจักรภพ พูดออกไป
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซง หรือชี้นำว่า บทสรุปจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งน่าจะเป็นวิธีที่ดีสุด เพื่อพิสูจน์เรื่องนี้ให้กระจ่างรองเลขาธิการ พปช. กล่าวว่า สำหรับความเห็นของ ร.ท.กุเทพ เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ได้เป็นความเห็นของพรรค ส่วนพรรคจะพิจารณาอย่างไรนั้น คงต้องให้นายสมัคร ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นผู้พิจารณา
“เห็นว่าผู้บริหารพรรคต้องพิจารณาและรับฟังความคิดเห็น รวมถึงให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายตามข้อเท็จจริง โดยจะไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน สำหรับการพิจารณาเรื่องดังกล่าว เราจะดูในแง่ของข้อเท็จจริงมากกว่า แต่ยังไม่ได้มีการเชื่อมโยงว่าเรื่องนี้จะทำให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี” นายนพดล กล่าว