WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, May 22, 2008

สปิริต‘จักรภพ’เปิดทางตร.สอบเต็มที่

“จักรภพ” แสดงสปิริต สวนทางกระแสกดดัน ส่งหนังสือถึงนายกฯ ช่วยแจ้ง ตร.สอบสวนให้เต็มที่ เชื่อมั่นเมื่อคำแปลตัวจริงเผยแพร่สังคมจะตาสว่าง “ณัฐวุฒิ” เผย “ลาออก” แค่ข่าวลือ ขณะที่ “ทักษิณ” แนะเร่งสร้างความกระจ่างชัดให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เชื่อสามารถจัดการได้

จากกรณีปาฐกถาภาคภาษาอังกฤษของนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีผู้นำคำแปลเผยแพร่ โดยกล่าวหาว่าหมิ่นเหม่ต่อสถาบันเบื้องสูง ที่ถูกฝ่ายค้านยื่นถอดถอนและกลุ่มจ้องล้มรัฐบาล รุมถล่ม กดดันอย่างหนักในขณะนี้

มีรายงานว่า แจ้งว่า นายจักรภพ ได้ทำหนังสือชี้แจงต่อ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี โดยเนื้อหาระบุว่า ตามที่มีพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ได้นำเอากรณีที่ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปรามให้ดำเนินคดีแก่ตนเองในกรณีที่ได้ไปบรรยายพิเศษเป็นภาษาอังกฤษแก่สมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 ก่อนที่จะได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บัดนี้พรรคการเมืองฝ่ายค้านได้นำมาเป็นประเด็นกล่าวหาว่า การบรรยายดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมาย โดยได้พิจารณาพร้อมตระหนักแล้วเห็นว่า

เพื่อให้กรณีตามที่ได้ถูกกล่าวหาเป็นที่ยุติ ว่า ได้กระทำความผิดหรือไม่ประการใด ซึ่งพร้อมที่จะพิสูจน์ความจริงให้ประจักษ์ชัด จึงขอให้นายกรัฐมนตรี แจ้งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้พนักงานสอบสวนทำการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าวให้ยุติหมดสิ้นกระแส ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีมีหนังสือแจ้งไปยัง สตช.แล้วจะทำให้พนักงานสอบสวนไม่ลำบากใจ และหากทำผิดจริงตามข้อกล่าวหาก็พร้อมที่จะให้ดำเนินคดี และพร้อมที่จะรับโทษทัณฑ์ตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายจักรภพ ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีดังกล่าวมีปัญหาเนื่องจากมีภรรยานายทหารคนหนึ่งนำคำแปลปาฐกถาดังกล่าวที่ผิดๆ ไปแจกจ่ายในหมู่ทหาร เมื่อความจริงปรากฏเชื่อว่าทุกฝ่ายจะเข้าใจ

อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนี้ ได้มีข่าวลือว่า นายจักรภพ กำลังเตรียมถอดใจลาออกนั้น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เท่าที่ตนได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับนายจักรภพ ทำให้ทราบว่า นายจักรภพ ติดภารกิจอยู่นอกทำเนียบรัฐบาลตลอดทั้งวัน จึงไม่ได้เข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาล แต่คงไม่เหมาะที่ตนจะบอกว่าเป็นภารกิจอะไร อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่านายจักรภพ ไม่ได้หนีหายไปไหน และจากการพูดคุยนายจักรภพก็มีน้ำเสียงเป็นปกติ ไม่ได้มีน้ำเสียงที่เคร่งเครียดแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ในวันที่ 22-23 พฤษภาคม นายจักรภพ มีภารกิจที่จะต้องร่วมเดินทางไปกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในการเยือนประเทศฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการ ส่วนเรื่องการแปลเอกสารคำบรรยาย นายจักรภพ แจ้งว่า ดำเนินการเสร็จแล้ว และจะทำเป็นเอกสารแจกจ่ายต่อไป ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า การแปลคำบรรยายนั้น ต้องมีคนกลางที่เป็นผู้เชี่ยวชาญมาร่วมแปลด้วย เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหา นายณัฐวุฒิ กล่าว

"เพราะเมื่อเรื่องนี้ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะต้องตัดสินว่า ผิดจริงหรือไม่ แต่ระหว่างนี้ ผมไม่อยากให้ใครใช้เป็นประเด็นเคลื่อนไหว หรือขยายผลใดๆ ก่อนที่จะมีผลการตัดสินออกมา"

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าว เปิดเผยด้วยว่า ในช่วงเช้า (21 พ.ค.) นายจักรภพ ได้เดินทางขอเข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพักซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ด้วย

โดยใช้เวลาหารือไม่นานนัก เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีภารกิจที่ จ.สุพรรณบุรี โดยจะได้เดินทางไปยังหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย อ.ศรีประจันต์ ชมการสาธิตการทำนา การแสดงของควายแสนรู้ และการจำลองวิถีชีวิต สภาพความเป็นอยู่ ของชาวนาไทยภาคกลางที่เคียงคู่กับควายมาอย่างยาวนาน เพื่อส่งเสริมคุณค่าและวัฒนธรรมในอาชีพหลักของคนไทย ไปยังต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศซาอุดิอาระเบีย ที่สนใจโครงการนี้เป็นพิเศษ ที่จะว่าจ้างบริษัทคนไทยเพื่อไปให้ความรู้เกี่ยวกับการทำนา

จากนั้น พ.ต.ทักษิณ จะได้เดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านพักทรงไทยริมแม่น้ำท่าจีนของนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวให้สัมภาษณ์ ภายหลังรับประทานอาหารเสร็จ ว่า อยากให้ทุกฝ่ายมีความสามัคคีปรองดอง โดยยึดกฎกติกาของบ้านเมือง เป็นหลักการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด มิเช่นนั้น จะไม่มีทางออกและเกิดความขัดแย้งกันตลอดไป ส่วนกรณีของ นายจักรภพ ที่ถูกกล่าวหาหมิ่นเหม่ต่อสถาบันชั้นสูงนั้น นายจักรภพ จะต้องอธิบายเพื่อสร้างความกระจ่างให้กับสังคมอย่างชัดเจน เพราะทราบกันดีว่า เรื่องลักษณะเช่นนี้สร้างความอ่อนไหวสำหรับคนไทย โดยจะต้องให้ยกสูงไว้กว่าเรื่องทางการเมือง เพราะหากมีใครนำไปพาดพิงเพื่อใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง จึงเป็นเรื่องมิบังควรอย่างยิ่ง และเรื่องนี้หากนายจักรภพ ไม่ให้ความกระจ่างก็ต้องถอยออกไป

ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวภายหลังการกระชุมร่วมผู้นำเหล่าทัพว่า อยากเรียนสังคมว่า สิ่งที่ควรกระทำและหลักเทิดพระเกียรติง่ายๆ คือต้องไม่ทำอะไรไปเข้าใกล้แม้แต่นิดเดียว โดยทุกคนไม่ควรนำสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องและไม่ควรพูด

“อยากให้ทุกคนรู้ว่า สิ่งที่ควรกระทำคืออะไร ไม่ควรเข้าไปให้เกิดระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าเรื่องอะไรทั้งสิ้น โดยสภาพสังคมปัจจุบันควรปล่อยเป็นแนวทางที่มีอยู่ ซึ่งจะทำให้สังคมสงบเรียบร้อย เช่น การที่สื่อพูดถึงสถาบันก็ไม่ใช่ ทุกคนไม่ควรพูดถึง ไม่ควรอ้างอิงท่าน สื่อก็ไม่ควรกระพือให้เป็นข่าว ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งสังคมไม่ทำกัน ทุกคนเป็นใต้ผงธุลีไม่พูดเลยก็ได้ และผมก็ไม่อยากชี้นำว่าใครต้องทำอะไร เอาเป็นว่าทุกคนควรจะรู้ว่าต้องทำอย่างไร” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

ส่วนที่นายจักรภพ ออกมาระบุว่า ภรรยานายทหารเป็นผู้เผยแพร่คำแปลที่ผิดๆ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบทั้งคู่ว่านายจักรภพพูดอย่างไร แล้วคนที่แปลเป็นใคร แต่ไม่ขอวิจารณ์ แต่ได้อ่านเอกสารคำแปลแล้ว ควรปล่อยให้เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ ซึ่งไม่มีหน้าที่ไปทำอะไร หากทำไปคงไม่ได้รับความเชื่อถือ ทั้งนี้ ไม่ทราบว่าใครแจกจ่ายเอกสาร เพราะตนไม่ได้เป็นผู้แจกจ่าย อย่างไรก็ตาม ตนติดตามอ่านทางเว็บไซด์แต่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องไปวิจารณ์ เพราะไม่มีหน้าที่ไปบอกว่าใครผิดใครถูก

ขณะที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีของนายจักรภพ จะนำไปสู่การปรับ ครม.หรือไม่นั้น คงถามตนไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี และตัวนายจักรภพ เอง ก็ออกมายืนยันว่า สิ่งที่ทำไปเป็นเรื่องความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวหา และกำลังจะแปลสิ่งที่เขาได้พูดออกมา ซึ่งคงต้องฟังทุกฝ่าย สุดท้ายความจริงเป็นอย่างไรคงหลีกเลี่ยงไม่พ้น

“ช่วงนี้ท่านจะพิสูจน์ในความจริงใจ หรือสิ่งที่ท่านได้ทำไป ผมก็คิดว่าควรจะให้โอกาสในการพิสูจน์ เพราะเราเองเราก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ หากถามว่า วิตกกังวลมั้ย ก็เป็นไปตามวัฏจักรความเป็นจริง ถ้าหากท่านทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ควร ก็ต้องพิจารณากันไป หากทำแล้วไม่มีอะไรเสียหาย ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” นายสมชายกล่าว

ส่วนด้านการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกตร. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวนี้ว่า ขณะนี้กองการต่างประเทศ ตร.ยังแปลคำกล่าวของนายจักรภพไม่เรียบร้อย ซึ่งหากแปลเสร็จและพบเข้าข่ายความผิดตามข้อกล่าวหา จะเชิญนายจักรภพ มาให้ปากคำหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักสอบสวนกองบังคับการปราบปราม

ขณะที่ พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ กล่าวว่า วันนี้ (21 พ.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของ บช.ก.ยังไม่มีการประชุมเรื่องนายจักรภพ เนื่องจากทางกองการต่างประเทศยังแปลเอกสารไม่เสร็จ แต่อย่างก็ตามได้เร่งรัดไปแล้วว่าให้รีบแปลให้เสร็จ รวมทั้งทางนายจักรภพ เองแจ้งมาว่า จะนำเอกสารที่แปลเองมาให้ด้วยภายในสัปดาห์นี้ ซึ่ง บช.ก.จะได้นำเอกสารการแปลทั้ง 2 ฉบับมาเทียบเคียงกัน ซึ่งทั้งคดีกล่าวหานายจักรภพ และกล่าวหานักข่าวสำนักข่าวบีบีซี ได้ให้กองบังคับการปราบปรามดำเนินการไปตามขั้นตอน