ที่มา thaifreenews
คอลัมน์ เพื่อนพ้องน้องพี่
ในความเป็นจริงนั้น หน่วยทหารในกองทัพมีอยู่มากมายหลายหน่วยหลายกรม แต่ในบรรดาทหารจากกรมทหารอื่น ๆ ทั้งหลายและแม่ทัพนายกองต่าง ๆ นั้น ทำไมในวันนี้ต้องกลายเป็นลูกน้องของพวกอดีตนายทหารจากกรมทหารเสือราชินีหรือกรมทหารราบที่ 21 เท่านั้น วันนี้อดีตนายทหารจากกรมทหารเสือราชินีต่างเข้ากุมอำนาจสำคัญทั้งด้านระเบียบปฏิบัติและการดำเนินการเอาไว้ด้วยตำแหน่ง รมว.กลาโหม และ ผบ.ทบ. แล้วยังมีการวางตำแหน่งรุ่นน้องจากกรมนี้เพื่อให้ขึ้นต่อจากรุ่นพี่ในตำแหน่งอื่น ๆ ในเวลาอันใกล้นี้อีก คำถามคือกองทัพไทยมีทหารที่มีความสามารถอยู่เพียงกรมเดียวเท่านั้นหรือ แล้วพวกคนเรียนเก่งแบบสอบได้ที่หนึ่งโรงเรียนเสนาธิการทหารบก พวกได้รับทุนไปเรียนต่อที่โรงเรียนนายร้อยในต่างประเทศ อย่างเวสปอยต์ แซนด์เฮิร์สต์ ดันทรูน ฯลฯ หรือพวกได้รับทุนไปเรียนต่อจนจบปริญญาเอกจากทั่วโลกซึ่งมีอยู่มากมายในกองทัพแต่ไม่เคยอยู่กรมนี้ไม่เหมาะสมที่จะบริหารกองทัพเลยหรือ
กรมทหารราบที่ 21 ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2493 ตามคำขอขององค์การสหประชาชาติ ในการจัดตั้งกำลังเข้าช่วยเหลือรัฐบาลของสาธารณรัฐเกาหลี โดยใช้นามหน่วยครั้งนั้นว่า “กรมผสมที่ 21” ต่อมาจึงแปรสภาพหน่วยมาเป็นชื่อในปัจจุบันเมื่อ พ.ศ. 2502 ประวัติการรบคือ สงครามเกาหลี สงครามเวียดนามปีแรก เคยเข้าร่วมสงครามที่บ้านห้วยโก๋น จ.น่าน และที่อำเภอตาพระยา จ.ปราจีณบุรี ร่วมกับหน่วยกำลังอื่นจากทุกเหล่าทัพ ซึ่งถ้าไม่นับการรบในเกาหลีและเวียดนาม(ที่จริงก็เป็นเพียงหน่วยขนาดเล็กภายใต้กองกำลังมหึมาของสหประชาชาติและพันธมิตร ไม่ใช่กำลังหลัก) ในปฏิบัติการอื่น ๆ กรมทหารเสือราชินีนี้ก็ไม่ได้มีฐานะเหนือกว่าใคร เป็นเพียงหน่วยหนึ่งของกองทัพเหมือนกับหน่วยอื่นอีกมากมายที่ต่างก็มีส่วนร่วมรบกับ พคท. ในสงครามกลางเมืองที่ยุติลงด้วยการเปลี่ยนนโยบายมาเป็นการสมานฉันท์ครั้งนั้นเช่นกัน ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่กลับมีสิทธิพิเศษมากกว่าหน่วยอื่นที่จะได้ขึ้นเป็นใหญ่ในกองทัพได้ แม้จะมีการฝึกหลักสูตรพิเศษเรียกว่าหลักสูตรทหารเสือ แต่ทุกกองทัพก็มีหลักสูตรพัฒนาอีกมากมายที่เข้มข้นยิ่งกว่าเสียด้วยซ้ำ เช่น รีคอน คอมมานโด พลร่ม ยูดีที ซีล ฯลฯ ที่ทหารทุกหน่วยทุกกองทัพแม้แต่ตำรวจและพลเรือนจำนวนมากก็เคยผ่านการฝึกตามหลักสูตรเหล่านี้และพิสูจน์ความแข็งแกร่ง เป็นที่ยอมรับทั่วไปของคนในเครื่องแบบเช่นกัน
ตัวพลเอกอนุพงษ์นั้นมีหลักฐานประวัติการศึกษาที่แสดงไว้ในเวบไซท์ http://www.rta.mi.th/data/command/command2550/anupong_history.htm คือ
พ.ศ.2508 โรงเรียนพันธะศึกษา แผนกมัธยม
พ.ศ.2509 โรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร
พ.ศ.2510 โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ ๑๐
พ.ศ.2515 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ ๒๑
ขอให้สังเกตปี 2509 และ 2510 ที่แสดงอย่างคลุมเครือให้เข้าใจว่าเป็นปีที่จบการศึกษาจากโรงเรียนเหล่านี้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เพราะเตรียมทหารต้องเรียนสองปี ไม่ใช่ปีเดียว ฉะนั้น เฉพาะปีที่แสดงโรงเรียนเตรียมทหารจะต้องเป็นปีที่เข้าไม่ใช่ปีที่จบ เรียนอีกสองปีก็จะจบในปี พ.ศ.2512 แล้วไปต่อ จปร.จนจบในปี 2515 แสดงว่าจบ จปร.ปีสาม ไม่มีสิทธิเรียนต่อปีห้าจนจบ วทบ.ทบ. แต่ไปจบรัฐศาสตร์ที่ราม โทที่นิด้า เมื่อจบปีสามจึงต้องออกมารับราชการ โดยบรรจุเป็นร้อยตรีเริ่มที่กรมทหารราบที่ 21 เมื่อปี 2515 และอยู่ที่กรมนี้มาตลอดจนออกมาเป็นเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 เมื่อปี 2541 หรืออยู่ที่กรมนี้ที่เดียว 25 ปี ไม่เคยย้ายไปไหนจนยศตันแล้วจึงออกจากกรมนี้
ส่วน รมว.กลาโหม พลเอกประวิทย์ วงษ์สุวรรณ ก็เคยรับราชการที่ราบ 21 เกือบสิบปี (2514 – 2523) http://www.mod.go.th/minister/pravit.html วันนี้เข้ามามีอำนาจร่วมกันแบบเบ็ดเสร็จทางระเบียบปฏิบัติ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า อำนาจที่ยึดเมืองไทยอยู่นั้นต้องการกดหัวประชาชนอย่างเต็มที่
นายทหารระดับสูงในสายงานและการบังคับบัญชาอื่นมากมายหลายคนที่มีสิทธิโดยชอบธรรมและมีความเพียบพร้อมทั้งด้านคุณวุฒิ ด้านการศึกษา ความอาวุโสและผลงาน ต่างก็อึดอัดไม่พอใจกันอย่างถ้วนทั่วกับการแทรกแซงของผู้มีอำนาจที่เข้ามาสั่งแบบข้ามหัวข้ามหูคนทำงานให้กระทำการที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนความเป็นธรรมถูกต้องอย่างมากมายตั้งแต่การยึดอำนาจของ คมช. ทุกคนต่างก็ปลงอนิจจังที่อดีตนักเรียนนายร้อยที่ไม่เคยได้เป็นหัวหน้าตอน หัวหน้าหมวด หัวหน้าชั้น แต่วันนี้กลับได้รับการจัดการให้มาเป็นนายคุมพวกคนมีความสามารถและมันสมองในกองทัพ ปรากฏการณ์แบบนี้เคยหายไปในช่วงรัฐบาลประชาธิปไตย แต่วันนี้ไม่ใช่อีกแล้ว
ระบบด้อยคุณธรรมเช่นนี้ ทำไมทหารจะต้องอดทน ยุคสมัยนี้อุ้งตีนมารกำลังกระทืบลงมาเหยียบย่ำความถูกต้องเป็นธรรมในกองทัพ ทางเดียวที่จะแก้ไขก็คือการปฏิเสธอำนาจไม่เป็นธรรมและเข้าร่วมกับประชาชนที่รักประชาธิปไตยเท่านั้น กองทัพจึงจะเอาความถูกต้อง ความดีงาม อาวุโสและผลงาน กลับมาสู่การพิทักษ์ชาติได้ ไม่จำเป็นต้องลงมาร่วมเคลื่อนไหว แค่ใช้การเฉื่อยงานปฏิเสธคำสั่งที่ผิดศีลธรรม มุ่งพิทักษ์ประชาชน ไม่ใช่คนชั้นสูงไม่กี่ตระกูล กองทัพไทยก็จะเป็นที่หนึ่งในภูมิภาคได้ ไม่ใช่เป็นแค่กองกำลังพิทักษ์คนส่วนน้อยและถูกประชาชนทั้งประเทศหยามหยัน บ้วนน้ำลายไล่หลังอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้