ที่มา ประชาทรรศน์
เผด็จการหางโผล่! 'เหวง'ฟันธง 'ปชป.'ดึง'นาม'นั่งกุนซือก.ยุติธรรม เป็นการปูนบำเหน็จทีมรัฐประหาร หวั่นเตรียมผุดขบวนการเขมือบประชาธิปไตยให้สิ้นซาก ดันระบอบอำมาตยาธิปไตยเป็นใหญ่ในแผ่นดิน 'เทพเทือก'อิหลั่กอิเหลื่อบอกไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนทำเนียนสะบัดตูดหนีสื่อ 'เหลิม' ฮึ่ม! ตั้ง 'นาม'จริง ปชป.งานเข้าแน่ ล่าสุด 'นาม'ยอมเปิดปากแล้ว ยอมรับปูนบำเหน็จ ปชป. อ้างทำเพื่อชาติ
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์เตรียมเสนอรายชื่อ นายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 6 มกราคม นี้ ซึ่ง นายนาม เคยถูกพรรคไทยรักไทยโจมตีว่ามีความสนิทสนมกับพรรคประชาธิปัตย์ และเคยเป็นประธานคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการจ้างพรรคการเมืองให้ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ของพรรคไทยรักไทย จนสุดท้าย ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคไทยรักไทย
ล่าสุดวันนี้(5 ม.ค.) ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวนี้ โดยให้สัมภาษณ์เพียงว่ารัฐบาลยังไม่มีการเทียบเชิญนายนามเข้ามาเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการยุติธรรม หรือตำแหน่งอื่นๆภายในกระทรวงแต่อย่างใด พร้อมกับเดินหนีผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในอาคารที่ทำการพรรคทันที
ด้าน นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ระบุถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำการเชิญนายนามเข้ามาทำงานไม่ว่าตำแหน่งใดก็ตามของรัฐบาลชุดนี้ เป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องการที่จะสนับสนุนระบอบอำมาตยาธิปไตยให้กลืนกินระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากนายนามได้รับตำแหน่งเป็นประธาน คตส.เมื่อครั้งสมัยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ซึ่งได้อำนาจมาจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์มีความพยายามที่จะให้ระบบอำมาตยาธิปไตยเป็นใหญ่ในประเทศ เพื่อแทรกซึมการเมืองให้ระบบดังกล่าวเป็นใหญ่ในที่สุด ไม่ใช่ประชาชน เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า คตส.มีที่มาอย่างไร ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย และเป็นองค์กรที่เป็นเครื่องมือของคณะรัฐประหารอย่างแท้จริงและเต็มรูปแบบ และที่สำคัญที่สุดหากมีการนำนายนามเข้ามาเป็นที่ปรึกษาภายในกระทรวงยุติธรรมจริง จะเป็นที่สงสัยได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์มีส่วนร่วมในระดับที่แน่นอนกับคณะรัฐประหาร และอาจจะเป็นการพยายามปูมบำเหน็จให้กับคนที่ทำงานให้การสนับสนุน
"เป็นการเปิดเผยอย่างล่อนจ้อนว่าพรรคประชาธิปัตย์หนุนผู้ที่ได้รับการสนับสนุนกับกลุ่มที่มีส่วนร่วมในการัฐประหาร เมื่อ19 ก.ย. คตส.เป็นเครื่องมือ ที่มาไม่มีความเป็นประชาธิปไตย อยู่ดีๆคุณไปเรียกเขามาทำไม ทั้งๆที่มีคนที่ดี มีจริยธรรม และมีคุณสมบัติพร้อมอีกตั้งมากมาย อย่างนี้ทำให้สงสัยได้ว่าเป็นการปูมบำเหน็จกับคนที่ทำงานให้ เคยสนับสนุนให้ และก็ชี้ให้เห็นอีกว่าประชาธิปัตย์ต้องการนำเอาความเป็นอำมาตยาธิปไตยเข้ามาครองการเมืองให้มันบั่นทอนจนหมดความเป็นประชาธิปไตยไปในที่สุด"แกนนำ นปช.กล่าว
เมื่อถามว่า การตั้งนายนามเข้ามาเป็นที่ปรึกษาในกระทรวงยุติธรรมจะเกี่ยวพันกับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แกนนำ นปช.กล่าวว่า คดีความต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณได้ผ่านกระบวนการต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงให้ศาลเป็นผู้ตัดสินพิพากษาความผิด ดังนั้น ตนมองว่าไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรในการตั้งนายนามเข้ามาอยู่ในกระทรวงยุติธรรม
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กล่าวถึงกรณี พรรคประชาธิปัตย์เตรียมแต่งตั้ง นายนาม ยิ้มแย้ม เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่าขอให้แต่งตั้งจริงแล้วจะทราบว่า งานเข้าเป็นอย่างไร และขอให้ผู้สื่อข่าววางใจได้
อย่างไรก็ตามนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ออกมายอมรับว่า ได้โทรศัพท์ทาบทาม นายนามมาเป็นคณะทำงาน แต่ไม่ใช่ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีตามที่เป็นข่าว และยังไม่ได้มีการหารือเรื่องดังกล่าวกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี
'นาม'ยอมเปิดปากรับบรรณาการปชป.
ล่าสุด นายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)ได้ออกมายอมรับว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทาบทามให้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจริง โดยตนเองได้รับปากไปแล้วว่าไม่ขัดข้องและพร้อมจะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา
"ตำแหน่งดังกล่าวเป็นตำแหน่งที่สำคัญในการทำงานเพื่อชาติ และพร้อมที่จะทำหน้าที่ตราบที่ยังคงมีเรี่ยวแรงอยู่ ส่วนการเข้ารับตำแหน่งยังไม่ทราบว่าจะเป็นวันไหนเพราะนายพีระพันธุ์ยังไม่ได้ติดต่อประสานมา แต่ยืนยันว่าการเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ" นายนาม กล่าว