WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, January 7, 2009

นปช.ฟันกกต.'องค์รักษ์พิทักษ์มาร์ค'ชี้โละเรืองไกร'หมัก'มีเฮคดีเป็นโมฆะ

ที่มา ประชาทรรศน์

นปช. ผนึกแรงซัดกกต. โดดรับลูก สร้างเกราะปชป.เกินงาม สั่งโละ'เรืองไกร' คาสำนวนยุบพรรค ตบซ้ำทำงาน 2 มาตรฐาน ที่ผ่านมาทำอะไรอยู่ จี้ต่อมถามจุดยืนเป็นองค์รักษ์พิทักษ์มาร์ค? 'เหวง' ชี้ถ้าเรืองไกรพ้นคดี'ลุงหมัก'มีเฮเป็นโมฆะ ฟันธงบ้านเมืองป่วนไม่เลิก

ผศ.ดร.เมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง พิจารณาที่มาของการเสนอชื่อนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา นั้นไม่น่าจะเป็นองค์กรที่มีสิทธิ์เสนอชื่อส.ว.ได้ตามรัฐธรรมนูญ 2550 ตนมองว่าที่ผ่านมานายเรืองไกร ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยการเดินหน้ายื่นให้ทางกกต.ตรวจสอบในชุดรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์อย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่เห็นกกต.จะดำเนินการอะไร แต่เมื่อล่าสุดที่นายเรืองไกรยื่นให้มีการยื่นเรื่องให้อัยการสูงสุดยุบพรรคประชาธิปัตย์ กกต.กลับรับลูกเต็มที่โดยการมีมติดังกล่าว

ทั้งนี้แม้พิจารณาอย่างผิวเผินอาจดูว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ตนมองว่าต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล อีกทั้งสิ่งนี้จะแสดงให้เห็นว่ากกต.กับพรรคประชาธิปัตย์ ลับลมคมในอย่างแน่นอน ซึ่งหากย้อนไปที่คดีของนายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ครั้งลงสมัครส.ส.อุบลราชธานี แม้จะมีพฤติกรรมเข้าข่ายทุจริตการเลือกตั้งอย่างชัดเจน แต่กกต.กลางได้ตรวจสอบพยานหลักฐานอย่างยืดเยื้อ จนสุดท้ายก็รอดพ้นจากความผิดไปได้

'เหวง'ชี้คดีหมักอาจเป็นโมฆะ

ขณะที่นพ.เหวง โตจิราการ หนึ่งในแกนนำนปช. และ แกนนำสมาพันธ์ประชาธิปไตย ได้กล่าวเช่นเดียวกันว่า การที่กกต.ต้องการส่งเรื่องให้ศาสลรัฐธรรมนูญ หรือศาลฎีกาทำการพิจารณาคุณสมบัติของนายเรืองไกร ตนไม่ทราบว่ากกต. เพิ่งตื่นจากการหลับไหลทางการเมืองหรืออย่างไร เนื่องจากก่อนหน้านี้นายเรืองไกรได้ยื่นตรวจสอบรัฐบาลนายสมัคร และรัฐบาลชุดนายสมชายอย่างต่อเนื่องจนเป็รสาเหตุให้นายสมัครต้องถูกศาลพิพากษาพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปเพียงเพราะสาเหตุจัดทำอาหารทางรายการโทรทัศน์ แต่เมื่อนายเรืองไกรได้เตรียมยื่นฟ้องกกต.ให้พิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์ กลับมีปฏิกิริยาทันทีจึงทำให้เป็นข้อกังขา ตนจึงอยากให้สังคมจับตาพฤติกรรมการปฏิบัติ 2 มาตรฐานหรือไม่

"กกต.เพิ่งจะรู้สึกตัวหรืออย่างไร การที่ตรวจสอบที่มาของส.ว.สรรหานั้น ผมเห็นด้วยว่าทุกคนหรือคุณเรืองไกรมีที่มาชอบด้วยกฎหมาย และมีคุณสมบัติหรือไม่ แต่นี่เป็นการรู้สึกตัวช้ามากจนทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าจะการปฏิบัติหน้าที่ของกกต. ว่าแท้จริงแล้วเป็นองค์รักษ์พิทักษ์พรรคประชาธิปัตย์หรือเปล่า หรือว่ามีการเลือกปฏิบัติหรืออย่างไร เพราะส.ว.ก็ทำงานมาเกือบปี ตรวจสอบคนนั้นคนนี้จนล้มไปแล้ว สร้างผลกระทบอย่างมากมายไปแล้ว แต่คราวนี้เพิ่งตื่นจากการหลับไหลทางการเมือง สิ่งนี้ผมอยากให้สังคมช่วยกันจับตาดูที เพราะตอนนี้ผมเองก็ไม่เข้าใจว่ากกต.ทำหน้าที่อะไรกันแน่" แกนนำนปช.กล่าว

แกนนำนปช.ยังกล่าวเสริมในประเด็นที่สำคัญว่า ท้ายที่สุดแล้วหากศาลรัฐธรรมนูญ หรือ ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาว่านิติบุคคลอาคารชุดเป็นผู้เสนอชื่อนายเรืองไกร ไม่เข้าข่ายตามรัฐธรรมนูญ เรื่องต่างๆก็น่าจะเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น และจะมีปัญหาทางกฎหมายในกรณีการตรวจสอบคุณสมบัติของนายสมัครว่าจะมีผลบังคับใช้ได้หรือไม่ ซึ่งจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและวุ่นวายขึ้นมาในทันที

ปชป.เผยไม่ขอก้าวก่ายกกต.

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ทำการสอบถามไปยังฟากพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวว่า ในกรณีดังกล่าว ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกกต.ทำการตรวจสอบจัดการเพียงผู้เดียว และตนคิดว่าพรรคหรือองค์กรใดๆไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายในการพิจารณามติกกต. ควรให้องค์กรอิสระมีความอิสระอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตามในกรณีดังกล่าว นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)มีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง พิจารณาที่มาของการเสนอชื่อนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เป็น สว.สรรหา หลังมีผู้ยื่นคำร้องต่อ กกต.กรณีนิติบุคคลอาคารชุดเป็นผู้เสนอชื่อนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เป็น ส.ว.สรรหา ไม่น่าจะเข้าข่ายเป็นองค์กรที่มีสิทธิ์เสนอชื่อสมาชิกวุฒิสภาได้ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งที่ประชุม กกต.เสียงข้างมากวันนี้ มีมติจะพิจารณาส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิจารณา

ทั้งนี้ หากกระบวนการสรรหาไม่ถูกต้องก็จะทำให้นายเรืองไกรฯ ถูกตัดสิทธิ์การเป็นสมาชิกวุฒิสภาทันที แต่หากองค์กรตามรัฐธรรมนูญ เสนอชื่อนายเรืองไกรเข้ารับการสรรหาอีกครั้งก็สามารถทำได้ เพราะนายเรืองไกรมีคุณสมบัติครบถ้วนไม่ได้ขาดคุณสมบัติ เพียงแต่มีที่มาไม่ถูกต้องเท่านั้น

ด้านนายเรืองไกร ได้กล่าวภายหลังที่ กกต. มีมติว่าไม่รู้สึกหนักใจ เพราะเมื่อดูจากข้อกล่าวหาและประกอบกับศึกษารัฐธรรมนูญแล้ว ก็ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าองค์กรที่เสนอ ส.ว. สรรหา ต้องเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ตั้งมาเกิน 3 ปี และผู้ถูกสรรหาต้องเคยสังกัดอยู่ในองค์กรนั้น ซึ่งตนก็มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่มีผลต่อกรณีที่ตนยื่นเรื่องให้อัยการสูงสุดเพื่อยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวตนยื่นในนามบุคคล ไม่ได้ยื่นในฐานะวุฒิสมาชิก