ที่มา ประชาทรรศน์
"เพื่อไทย"รับน้อง"อภิรักษ์" ตั้งโต๊ะแถลงไล่พ้นตำแหน่งที่ปรึกษา"มาร์ค" อ้างความสง่างามเหตุคดีรถดับเพลิงฉาวยังไม่เคลียร์ พร้อมจี้ "พีรพันธุ์"แจงดักฟังโทรศัพท์ รุกคืบเลื่อนประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เหตุเจ้ากระทรวงบัวแก้วเคยร่วมก่อการปิดสนามบิน
วันนี้ (7 ม.ค.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวเพื่อเรียกร้อง 5 ประเด็น โดยประเด็นที่ 1 ขอเรียกร้องให้ นายพีรพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ให้ความเป็นธรรม กรณีที่มีการดักฟังโทรศัพท์ตามที่เป็นข่าว เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 36 ที่ระบุว่าไว้ชัดเจนว่า การกระทำด้วยประการอื่นใด เพื่อให้ล่วงรู้ถึงข้อความในการสื่อสารทั้งหลาย ที่บุคคลต่อต่อสื่อสารถึงกัน จะกระทำไม่ได้ เพราะฉะนั้น ตามที่รมว.ยุติธรรม ออกมาให้ข่าว ตนไม่อยากให้สังคมมองว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสีกัน จึงขอเรียกร้องให้นายพีรพันธ์ออกมาให้ความกระจ่างต่อเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจน พร้อมหาผู้ที่กระทำผิดมาลงโทษตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
ประเด็นที่ 2 อยากให้รัฐบาลพิจารณาเลื่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนออกไป เพราะประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ยอมรับ เนื่องจาก นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เคยมีพฤติกรรมร่วมชุมนุมปิดสนามบินสุวรรณภูมิกับกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งต่างชาติมองว่าเป็นการกระทำของผู้ก่อการร้าย อย่างที่หลายๆประเทศได้ออกมาเรียกร้อง อีกทั้งรมว.ต่างประเทศยังได้เคยกล่าวหาผู้นำประเทศกัมพูชา อย่างเสียหาย โดยที่ไม่ได้มีการขอโทษแต่อย่างใด ตรงนี้เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่จะทำให้ประเทศกัมพูชาปฏิเสธการเข้าร่วมประชุมผู้นำอาเซียน นอกจากนี้ประเทศจีน และประเทศเวียดนาม ก็ปฏิเสธการเข้าร่วมประชุมด้วย โดยส่วนตัวคิดว่าประชาคมโลก ยอมรับไม่ได้กับขบวนการประชาธิปไตยที่รัฐบาลนี้ได้มา เพราะเป็นการได้มาด้วยวิธีการที่ไม่สง่างาม
ประเด็นที่ 3 การที่นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ออกมาตักเตือนการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน และลำปางว่าให้ระวังตัว ตนมองว่า รมช.มหาดไทย ควรคำนึงถึงกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 ที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจะกระทำการใดที่บัญญัติไว้ในมาตรา 266 ไม่ได้ ซึ่ง มาตรา 266 ระบุไว้ชัดเจนว่า การให้ข้าราชการซึ่งมีตำแหน่ง หรือเงินเดือนประจำ หรือไม่ใช่ราชการ เป็นพนักงานหรือลูกจ้างประจำของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ้นจากตำแหน่งถือเป็นความผิดตาม มาตรา 266 จึงอยากเรียกร้องให้ รมช.มหาดไทย คำนึงถึงกฎหมายดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ในขณะนี้ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐบาลชุดนี้ สามารถร้องเรียนมยังตนเอง ในฐานะที่เป็นพรรคฝ่ายค้านได้ ตนยินดีรับใช้ และจะนำความยุติธรรมมาสู่ท่าน
ประเด็นที่ 4 เรื่องการแต่งตั้งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งปรากฏชื่อนายอภิรักษ์ โกษโยธิน อดีตผู้ว่า กทม. ทั้งที่ยังไม่ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ กรณีรถและเรือดับเพลิง ตนเกรงว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะไม่ได้รับความเชื่อถือจากประชาชน จึงควรจะรอให้คดีความดังกล่าวสิ้นสุด หรือยุติเสียก่อน มิเช่นนั้นการให้คำปรึกษาของนายอภิรักษ์ อาจจะทำให้นายกฯเสียหายได้ เหมือนกรณีรถดับเพลิงก็เป็นได้
ประเด็นที่ 5 เรื่องการจัดงานวันเด็กของรัฐบาลที่จะมีการจัดขึ้นที่ทำเนีบยรัฐบาล โดยเปิดให้เด็กๆเข้าชมสถานที่ทำงานของนายกฯ และมีการให้เขียนข้อความที่อยากจะเป็นในอนาคต ตรงนี้อยากตั้งประเด็นคำถามต่อนายกฯว่า หากเด็กอยากเป็นนายกฯ แต่ไม่อยากเกณฑ์ทหาร นายกฯจะตอบอย่างไร เพราะในปัจจุบันนี้ เด็กมีพฤติกรรมเลียนแบบ
เมื่อถามถึงพฤติกรรมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ จ. เชียงใหม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่มีส่วนรู้เห็น แต่มองว่าเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 63 เหมือนกับพันธมิตรฯ ซึ่งตรงนี้นายกฯเองก็ยอมรับได้หากมีการประท้วงเกิดขึ้น โดยส่วนตัวมองว่าสังคมไทยชอบทำอะไรตามแฟชั่น เลียนแบบ ถ้าเสื้อเหลืองทำอะไร เสื้อแดงก็ทำตาม
นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ ยังได้เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ ยุบสภาหรือลาออก เพื่อความสมานฉันท์ ปรองดองของชาติ เหมือนที่ ผบ.ทบ. เคยเรียกร้องให้รัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยุบสภาและลาออกมาแล้ว