ที่มา ประชาทรรศน์
โหมโรงซักฟอกนอกสภา "เพื่อไทย"เดินเครื่องต่อสาย'นายกฯมาร์ค'ซึมซับกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลไม่ชอบธรรม "เฉลิม" รับบทหัวหมู่ทะลวงฟัน ระบุการอภิปรายคงเป็นไปอย่างระมัดระวังเหตุไร้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ฉะ รัฐบาลไฮแจ็ค ก๊อปปี้ นโยบายพลังประชาชน ด้าน 'จตุพร' ไล่บี้ ไฮแจ๊ค จัดการ สาวกพันธมิตร
นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าในวันนี้เวลา 09.30 น.จะมีการเปิดอภิปรายนอกสภา โดยใช้โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เป็นสถานที่อภิปรายแทนรัฐสภา โดยจะต่อสายโทรศัพท์ไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อชวนมาร่วมฟังการอภิปรายในครั้งนี้ด้วย
ส่วนกรณีที่นายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุถึงการอภิปรายนอกสภาว่า ยังไม่ถึงเวลา เนื่องจากรัฐบาลเพียงแค่แถลงนโยบายแต่ยังไม่ได้ทำงานจึงยังไม่รู้จุดบกพร่อง หากอภิปรายตอนนี้จะดูเป็นการเล่นเกมการเมืองมากเกินไป นายวิทยา กล่าวว่า ในเมื่อฝ่ายรัฐบาลไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายค้าน ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิและแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ การที่นายอภิสิทธิ์ แถลงนโยบายที่กระทรวงต่างประเทศก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเพราะจริงๆ แล้วต้องแถลงนโยบายต้องแถลงที่รัฐสภาเท่านั้น และวันที่แถลงก็แถลงแบบรวกๆ การแถลงก็ไม่ครบและไม่ตรงกับที่เขียนไว้
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้การเปิดอภิปรายนอกสภาจะเป็นการพูดในเชิงวิเคราะห์ โดยจะเปิดให้คนนอกเข้าร่วมฟังและแสดงความคิดเห็น ส่วนพรรคร่วมนั้นทางเพื่อไทยก็ได้แสดงเจตจำนงค์ไปแล้วซึ่งคาดว่า คงจะมาร่วมด้วย ส่วนเรื่องที่จะวิเคราะห์กันในเบิ้องต้น ก็จะมีการพูดถึงความชอบธรรมของการจัดตั้งรัฐบาล และการเอื้อประโยชน์ต่างๆ ของทหาร ส่วนในเรื่องการแถลงนโยบายของนายอภิสิทธิ์จะเก็บไว้อภิปรายไม่ไว้วางใจ
นอกจากนี้ นายวิทยา ยังกล่าวอีกว่า พรรคได้เตรียมข้อมูลสำหรับอภิปรายตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.51 แต่ต้องผิดหวังเพราะไม่มีโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้ ทั้งนี้ การอภิปรายในวันนี้ ขึ้นอยู่กับสื่อมวลชนด้วยว่าจะนำเสนออย่างไร จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างใดหรือไม่ โดยการอภิปรายนโยบายของรัฐบาลนอกสภาวันนี้ จะมีผู้ร่วมอภิปราย 10 คน นำโดยบรรดาแกนนำพรรค ได้แก่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายสุนัย จุลพงศธร ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ รวมทั้งแกนนำของพรรคประชาราช ที่นำโดยนายเสนาะ เทียนทอง และหลังการจัดสัมมนาครั้งนี้แล้ว พรรคเพื่อไทยจะบันทึกลงแผ่นซีดีแจกจ่ายให้ผู้ที่สนใจ พร้อมทั้งให้ ส.ส.ของพรรคฝ่ายค้านแต่ละพื้นที่นำไปแจกจ่ายให้ประชาชนที่สนใจ รวมทั้งจะเปิดเวทีปราศรัยของพรรคแต่ละพื้นที่และการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของพรรค
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคได้มอบหมายให้ตนเป็นผู้นำการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของรัฐบาลอภิสิทธิ์ 1 ซึ่งคาดว่า จะใช้เวลาอภิปรายประมาณ 1 ช.ม.และจะระมัดระวังการถูกฟ้องร้องหมิ่นประมาทเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง
นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อมว่า หากพรรคเพื่อไทยได้ประมาณ 10 ที่นั่ง จะเกิดการเปลี่ยนขั้วอย่างแน่นอน แม้จะไม่มั่นใจ แต่ก็หวังไว้ที่ 8-10 ที่นั่ง
ขณะที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า การอภิปรายนอกสภาของพรรคเพื่อไทย ตนจะไม่เข้าร่วม เพราะต้องการทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรตามระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น
'เหลิม'ฉะ'มาร์ค'คิดไม่เป็นลอกการบ้านนโยบายพปช.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ถ.วิภาวดีรังสิต ทางพรรคเพื่อไทยในฐานะฝ่ายค้านได้เปิดเวทีอภิปรายรัฐบาลนอกรัฐสภา ภายใต้หัวข้อ “เวทีประชาธิปไตยอภิปรายนโยบายรัฐบาลนอกรัฐสภา” ซึ่งบรรยากาศก่อนการอภิปรายยังเป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยมี สส.หรือแกนนำของพรรคเพิ่งเริ่มทยอยเดินทางมาในช่วงเวลา 09.00 น. ขณะที่มีประชาชนสวมเสื้อแดงมาร่วมรับฟังการอภิปราย ท่ามกลางการติดตามของสื่อมวลชนทุกแขนง ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมที่นั่งไว้ประมาณ 300 ที่นั่ง และ 5 ที่นั่งสำหรับผู้อภิปรายบนเวที ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทยได้เปิดเวทีอภิปรายนโยบายรัฐบาลเป็นคนแรก โดยกล่าวถึงนโยบายที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ แถลงนั้นเป็นนโยบายที่ลอกเลียนไปจากรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณเดิมถึงร้อยละ 99 อีกทั้งยังมีมาตราการ 6 เดือน 6 มาตราการของนาย สมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี จึง เห็นได้ว่า เวลา 8-9 ปีที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั้น “คิดไม่เป็น” ดีแต่ด่าชาวบ้าน ส่วนที่บอกว่าเศรษฐกิจแย่อยากให้กลับไปทบทวน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะสมาชิกใน ปชป. ได้ไปร่วมปิดสนามบิน พร้อมกันนี้ นายเฉลิมยังกล่าวท้าเชิญ นายอภิสิทธิ์ ดีเบตโดยอยู่คนละมุม
ด้านนาย อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานรัฐสภา กล่าวว่า พวกเราฝ่ายค้านทุกคนพร้อมรับฟังคำแถลงนโยบายของรัฐบาล พร้อมอภิปรายซักฟอกรัฐบาลรวมถึงให้คำปรึกษาและแนะนำเพราะหลายนโยบายก็เป็นนโยบายเดิมของพรรคพลังประชาชน แต่เมื่อรัฐบาลได้แถลงนโยบายอย่างกะทันหันและย้ายสถานที่ทำให้ฝ่ายค้านไม่สามารถเข้าร่วมฟังได้ เพราะเราในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติไม่สามารถเข้าร่วมฟังรายละเอียดในการแถลงได้ จึงถือว่าการแถลงเป็นโมฆะ
'ตู่'จี้รัฐบาลจัดการ'กษิต'ข้อหาก่อการร้าย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ สส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้หากรัฐบาลไม่จัดการสิ่งใดกับ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ในฐานะผู้ก่อการร้ายที่ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯปิดสนามบิน จะไม่ยอมให้การประชุมอาเซียนเกิดขึ้นได้ โดยในสัปดาห์หน้า นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อเอกอัครราชทูตทั้ง 9 ประเทศที่เป็นสมาชิกในกลุ่มประเทศอาเซียน ว่าประชาชนไทยไม่ต้องการให้ผู้ก่อการร้ายเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ หากรัฐบาลไม่จัดการกับกลุ่มที่ยึดทำเนียบรัฐบาลและสนามบินสุวรรณภูมิ ก็อย่าหวังว่าจะได้ทำงานในทำเนียบรัฐบาล
นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้นายอภิสิทธิ์ในฐานะนายกฯ เหมือนคนอุปทาน คิดว่าจะมีคนมาทำร้าย เป็นธรรมดาของคนที่แย่งเขามา เกิดอาการหวาดผวา หากถามคนไทยจะเห็นว่านายอภิสิทธืไม่มีความสำคัญอะไร นายอภิสิทธิ์ วันนี้เป็นยิ่งกว่านายกฯหุ่นกระบอกเชิด และวันนี้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯที่มีต้นทุนสูงมากที่สุด เพราะเกิดจากการปิดล้อมสนามบินของพันธมิตร ทำให้ประเทศเกิดความเสียหายหลายแสนล้าน
นายจตุพร กล่าวว่า สถานการณ์จากนี้ไปช่องทางของนายอภิสิทธิ์ จะเหลือน้อยลง การที่นายอภิสิทธิ์เคยบอกว่าขอให้นายสมัคร และนายสมชาย ยุบสภา แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะอยู่ในภาวะที่เสียเปรียบก็ตามวันนี้หากเจอนายอภิสิทธิ์ในสภาจะขอชี้หน้าถามนายอภิสิทธิ์ว่าขอให้ยุบสภา พวกเราก็จะยอมเสียเปรียบ เพราะนายอภิสิทธิ์มีอำนาจแต่ไม่สามารถบริหารงานได้
“หากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่ดำเนินการกับผู้ก่อการร้ายสากล แน่นอนที่สุดเราจะไม่ให้นายอภิสิทธิ์บริหารงานโดยใช้ทำเนียบรัฐบาลแต่ขอให้สบายใจได้ว่า จะไม่มีใครเข้าไปในทำเนียบฯ ซึ่งเป็นการแลกกับการที่รัฐบาลไม่ดำเนินการกับพันธมิตร ซึ่งประชาชนก็รับไม่ได้ และถ้าไม่ใชกฎหมายกับคนกลุ่มนี้ ท่านจะไม่มีโอกาสจะได้ใช้มันอีก ดังนั้นถ้ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ดำเนินการใน 3 เรื่องทุกอย่างก็จะยุติ คือ 1.ยุบสภา 2.จัดการกับนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และ 3.ดำเนินคดีกับพันธมิตรทุกคดีอย่างเด็ดขาด”นายจตุพร กล่าวและว่า ตนขอทำนายไว้เลยว่าอายุรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์จะไม่เกินอายุรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และถ้าอภิปรายครั้งหน้าก็จะขออภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ และรัฐมนตรีทั้งคณะที่มีโดยไม่มีความชอบธรรมและไม่สง่างาม
'สุนัย'สับคุณธรรมปชป.ย้ำผู้นำมีปัญหาหนีเกณท์ทหาร
นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อภิปรายนอกสภาโดยนำรายงานของนสพ.คมชัดลึกเรื่อง "ทหารแก่ไม่มีวันตาย ผู้จัดการรัฐบาลตัวจริง" ว่า การอภิปรายของตนนั้นต้องใช้จินตนาการประกอบด้วยเพราะขาดข้อเท็จจริงบางอย่าง ข้อบังคับการประชุมและเอกสิทธิ ส.ส.นั้นไม่ใช่สิทธิพิเศษเพียงแต่ให้ส.ส.สอบถามรัฐบาลได้เท่านั้น การแถลงนโยบายรัฐบาลแบบรวบรัดตัดความนั้น คนเสื้อแดงที่ล้อมรัฐสภาไม่มีคาร์บอมบ์ ระเบิดปิงปองและอาวุธ รวมทั้งไม่ขัดขวางการเข้าสภาเพื่อ เเต่ต้องแสดงความรู้สึกที่นายอภิสิทธิ์เข้ามาโดยไม่ถูกต้อง การนัดประชุมครั้งนั้นเตรียมพร้อมไว้แล้วและส่งเอสเอ็มเอสมาล่วงหน้าหนึ่งชั่วโมง เท่ากับละเมิดผลประโยชน์ของประชาชน และสิ่งที่นายอภิสิทธิ์ไม่คิดเลยคือละเมิดพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ในการอ่านพระบรมราชโองการฯในรัฐสภาและเรื่องนี้ส่งผลแล้วคือเพลิงไหม้ ณ ซานติกาผับและเสือป่าพลาซ่า
นายสุนัยกล่าวว่า ข้อจำกัดในการอภิปรายที่ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองนั้น ตนจะพยายามอภิปรายในวันที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ เพราะคนสำคัญบางคนในบ้านเมืองออกมาชมนายอภิสิทธิ์ ที่ผ่านมามีการพูดเรื่องคุณธรรมกันเยอะ แต่มันคือคุณธรรมหลอกลวง แต่จุดเริ่มต้นของนายอภิสิทธิ์ก็มีปัญหาเรื่องคุณธรรมแล้วคือการไม่เข้ารับการเกณฑ์ทหาร หลักฐานที่ตนพบแม้จะเอาผิดกับนายอภิสิทธิ์ไม่ได้ก็ตาม แต่ถ้าเป็นจริงก็จะรู้ว่านายอภิสิทธิ์มีพฤติกรรมคดในข้องอในกระดูกมานานแล้วคือ นายอภิสิทธิ์เป็นส.ส.ครั้งแรกในเดือนมี.ค.2535รัฐธรรมนุญ2534กำหนดว่าผู้สมัครส.ส.ต้องสังกัดพรรค แต่นายอภิสิทธิ์เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 15มิ.ย.2535 คือเป็นสมาชิกพรรคหลังเป็นส.ส.
นายสุนัย กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์แต่งตั้งนายกรณ์เป็นรมว.คลังเพราะมีความสามารถแต่จริงๆแล้วนายกรณ์เป็นคู่เขยกับนายอภิสิทธิ์ ขอถามว่าคุณธรรมของนายกรณ์นั้น นายไกรสีห์ จาติกวณิช อดีตอธิบดีกรมศุลกากรและบิดาของนายกรณ์ที่โดนให้ออกจากราชการกรณีการนำรถยนต์โดยไม่เสียภาษี ที่ผ่านมานายกรณ์วิจารณ์อดีตนายกฯประจำในเรื่องคุณธรรมและการเสียภาษี แต่กรณีที่ตนพูดขึ้นมานั้นตนรู้แล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่เกี่ยวกันระหว่างพ่อกับลูก แต่คำพังเพยไทยบอกว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
นายสุนัย กล่าวว่า มือหนึ่งการแก้ไขเศรษฐกิจนั้น แต่นายกรณ์มีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับนายปิ่น จักกะพาก ผู้ต้องหาคดีบีบีซี ที่ชวนนายกรณ์เข้าสู่วงการการเงิน ต้องสอบสวนว่านายกรณ์พูดเรื่องคุณธรรมเสมอ ๆแต่วันนี้นายกรณ์จะนำนายปิ่นซึ่งเป็นญาติ แต่เป็นอาชญากรทางเศรษฐกิจกลับมาลงโทษหรือไม่ พราะนายปิ่นวิ จารณ์การทำงานของศาลไทยที่น่าจะละเมิดอำนาจศาลและปฏิเสธอำนาจของพระมหากษัตริย์ ถามว่านายปิ่น นายกรณ์และนายอภิสิทธิ์มีสายสัมพันธ์และเป็นญาติกันนั้น จะจัดการอย่างไร
นายสุนัยกล่าวว่า ตนยังพบหลักฐานที่นายอภิสิทธิ์แต่งตั้งรัฐมนตรีที่สะสมคู่สมรสอยู่หนึ่งคน และร้ายที่สุดคือการขึ้นเป็นนายกฯของนายอภิสิทธิ์ในวันที่15ธ.ค.2551นั้น มันแยกไม่ออกกับการที่นายอภิสิทธิ์เรียกร้องนายกรัฐมนตรีมาตรา 7 ที่สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯในช่วงก่อนและหลังวันที่ 2 เม.ย.2549 การชุมนุมในตอนนั้นพรรคประชาธิปัตย์ระดมมวลชนมาชุมนุมจนเกิดการรัฐประหาร เพราะตนพูดเรื่องนี้ในสภาก็โดนประท้วงจนรู้ว่ามันเกี่ยวพันกัน และความกระสันต์ที่อยากเป็นนายกฯที่น่าจะเก็บอาการไว้ไม่ได้อย่างกระเหี้ยนกระหือรือนั้น ความเสียหายของบ้านเมืองและสิ่งที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมานั้นมันสอดรับกับความอยากเป็นนายกรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์
“ตนขอตั้งฉายารัฐบาลชุดนี้ว่ารัฐบาลคาหนังคาเขาที่ไปปล้นอำนาจประชาธิปไตยมาอย่างชัดเจน”นายสุนัยกล่าว
นายสุนัยกล่าวว่า นโยบายสี่ข้อของรัฐบาล ตนมองว่าไม่น่าจะสำเร็จ รัฐบาลนี้บอกขอเวลาทำงานแต่ที่ผ่านมาไม่เคยให้เวลารัฐบาลพรรคพลังประชาชนเลย การเจอตีนตบนั้นคือวิบากกรรม การฟื้นฟูเศรษฐกิจนั้นประชาชนจะไม่ได้รับประโยชน์ในการบริหารประเทศแน่นอน เพราะนายอภิสิทธิ์ต้องใช้หนี้สี่กลุ่มคือ 1 พันธมิตรฯในการแต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ เป็นรมว.ต่างประเทศที่น่าจะเป็นจุดบอดและพังของรัฐบาล และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์ฯ เมื่อเทียบกับคนอื่นๆแล้วเชื่อว่าหลายคนเก่งกว่าแต่เพราะนามสกุลและความรวย และที่สำคัญคุณหญิงกัลยาไปเดินอยู่กับกลุ่มพันธมิตรด้วย ดังนั้นคนพวกนี้ที่ได้เป็นรัฐมนตรีน่าจะเป็นโควตาพันธมิตรไม่ใช่โควตาพรรคประชาธิปัตย์
นายสุนัยกล่าวว่า 2 อีกกลุ่มที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องใช้หนี้คือกลุ่มทุน คนแรกคือ นายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เพราะเส้นทางการเมืองของนายวีระชัยนั้นแปลก ถ้าไม่ให้สงสัยเรื่องเงินแล้วจะให้สงสัยเรื่องอะไร แต่ที่ตั้งคำถามด้วยความเป็นห่วงที่สุด นายวีระชัยเป็นเขยซีพี เจ้าของเซเว่น อีเลฟเวน และเทสโก้ โลตัส ที่กลุ่มพันธมิตรไปปลุกระดมว่าพวกนี้จะมาบีบโชว์ห่วย ตกลงการเมืองใหม่มีเท่านี้หรือ คือการให้พวกนี้มาบีบโชว์ห่วยเหมือนเดิม ใช่ทุจริตเชิงนโยบายหรือไม่ ถามใครก็ได้ นักวิชาการก็ได้ว่าใช่ทุจริตเชิงนโยบายหรือไม่ รัฐบาลจะอยู่ในร่มทุนของนายนายทุนแล้วจะกลายเป็นอันตราย
นายสุนัยกล่าวว่า 3 รัฐมนตรีบางคนนั้นก็แต่งตั้งเพื่อตอบแทนเช่นให้นางพรทิวา นาคาศัย ซึ่งเป็นส.ส.สมัยแร กแต่ได้เป็นรมว.พาณิชย์ ทั้งๆที่ไม่มีความสามารถ ฟังแต่พวกพ่อค้า สุดท้ายก็ต้องเจ๊งแน่นอน แบบนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเงินแล้วเป็นเพราะอะไร ที่สำคัญ จำเป็นต้องตั้งรัฐมนตรีที่สับสนคู่สมรสมาเป็นรัฐมนตรี แสดงว่ารักษาคุณธรรมไม่ได้ และอีกคนที่ชัดเจนคือการตั้งนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ดูแล้วไม่เหมาะสม 4 คือกลุ่มทหาร กลุ่มนี้เป็นหนี้เพราะไปตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร จึงได้ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ มาเป็นรมว.กลาโหม แล้วจะบอกว่าทหารไม่กลัวนายอภิสิทธิ์ นั้น คงไม่ใช่ เพราะนายอภิสิทธิ์ เคยหนีทหาร ไม่มีบารมีพอที่จะให้ทหารเชื่อฟัง และดูถูก และต้องมีการตอบแทนทหารคือตั้งกองพลทหารมากเพิ่มและซื้ออาวุธเพิ่ม
'เชาวริน'แฉตำนานความซื่อสัตย์ปชป.
จากนั้นร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน อภิปรายว่า ตนเริ่มเป็นส.ส.ครั้งแรกในนามพรรคประชาธิปัตย์และลาออกมาเพราะรู้ว่าร่วมงานด้วยไม่ได้ นายกฯคนที่ 27นี้นั้น คุณธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตมีความสำคัญที่สุดและพรรคประชาธิปัตย์นำเรื่องนี้มาเป็นจุดขาย แต่ที่ผ่านมาอดีตรัฐมนตรีคนหนึ่งได้รับเงิน72ล้านบาทมาและไปฝากไว้กับเลขานุการส่วนตัว ต่อมาคนนั้นๆเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ อดีตรัฐมนตรีคนนั้นก็ไปร่วมงานศพแต่ไปถามน้องชายผู้ตายว่าเงินที่ฝากไว้นั้นขอคืน และยังถามถึงดอกเบี้ยด้วย ตำนานนี้กล่าวขานมาหลายทอด และพระรูปหนึ่งยังเล่าให้ตนฟังว่า มีการวิ่งเต้นของข้าราชการกรมป่าไม้และส.ส.เรียกเงินสี่แสนบาทในการเป็นป่าไม้จังหวัด ตนขอเรียนไปยังนายกฯว่าบังเอิญว่าส.ส.คนนั้นเป็นรัฐมนตรีในครม.ชุดนี้ที่เรียกเงินจากข้าราชการกรมป่าไม้แบบผ่อนส่ง
ครม.ชุดนี้เข้ามาแบบไม่ถูกต้อง และนายกฯยังติดเครื่องราชอิสริยภรณ์ที่ผิดด้วย นายกฯชอบพูดเรื่องความซื่อสัตย์และจงรักภักดีเสมอนั้น ตนใช้ยศร.ต.ท.ตั้งแต่ปี2518มาจนถึงวันนี้แต่นายกฯมียศทางทหารทำไมไม่ใส่ยศเพราะคนที่ไม่ใช่ยศคือ โดนถอดยศเพราะประพฤติผิดอย่างร้ายแรง นายกฯจะตอบคำถามนี้อย่างไรและการที่มีส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมเวทีพันธมิตรฯโดยด่าว่าสภาเลวนั้น ทำไมยังให้คนแบบนี้อยู่ในพรรคและไม่จัดการ
เมื่อนายกฯพูดถึงการจัดการกับอดีตนายกฯนั้น คดีการซื้อที่ดินรัชดานั้นฯผลการตัดสินออกมา5ต่อ4 โดยไม่เป็นเอกฉันท์ แสดงว่าเสียงข้างน้อยมองว่าอดีตนายกฯไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย และไม่มีความผิดในการปฏิบัติหน้าที่ตามคำฟ้องของคตส. ตนเสนอให้อดีตนายกฯหนีคดี เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะรู้ว่ามีธงล่วงหน้ามาจัดการกับอดีตนายกฯ วันที่11ก.ค.2551 รู้มาว่าผู้พิพากษาคนหนึ่งไปพูดกับพันธมิตรฯอ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรีว่าจะจัดการอดีตนายกฯในคดีความต่างๆโดยไม่มีการรอลงอาญา คดีใดเสร็จก่อนก็ต้องจัดการเลย และช่วงที่อดีตนายกฯไปชมพิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์นั้น จะกลับมาทำไม เพราะกลับมาก็โดนกุญแจมือสับ ฉะนั้นสิ่งที่อดีตนายกฯทำไปนั้นถูกต้อง
การใส่ร้ายอดีตนายกฯว่าไม่จงรักภักดีนั้น ตนจะล่ารายชื่อส.ส.เพื่อยื่นให้ประธานวุฒิสภาเสนอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยที่มาของนายกฯและครม.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะรัฐบาลนี้มีที่มาและเป็นการร่วมมือของอมาตยาธิปไตยและกลุ่มทุนบางกลุ่ม ตนมีหลักฐานการให้เงินพรรคประชาธิปัตย์ ขอถามศาลรัฐธรรมนูญว่าคิดอย่างไรกับการยุบสามพรรคแล้วต้องการให้มันเป็นแบบนี้หรือ
คนที่โดนตัดสิทธิทางการเมืองนั้นมีสิทธิร่วมตั้งรัฐบาลหรือ จะถามเรื่องนี้ต่อศาลด้วย เพราะภาพถ่ายของแกนนำพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มเพื่อนเนวินนั้น มันคือแฝดอินจัน ตนเป็นลูกคนจีนและมีภาษิตจีนที่แปลเป็นไทยว่า พรรคการเมืองไทยปัจจุบันก้าวหน้าเพราะความสามารถของพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากมีอะไรก็แบ่งกันกินกันใช้ สมบัติผลัดกันชม สร้างเวรกรรมไว้เยอะ ระวังกฎแห่งกรรมจะตามมา