ที่มา ไทยรัฐ
วันเดียวกัน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ได้ส่งจดหมายลงทะเบียนถึงอัยการสูงสุด (อสส.) ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เรื่องการได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ มิได้เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย และยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมีคำสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องมาจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงต่อสาธารณะให้เข้าใจว่า ได้ร่วมกับบุคคลที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจัดตั้งรัฐบาล เพราะจากภาพข่าวปรากฏชัดว่า นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้าพบนายบรรหาร ศิลปอาชา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายสมศักดิ์ เทพสุทินและนายเนวิน ชิดชอบ เพื่อขอเสียงสนับสนุนในการ จัดตั้งรัฐบาล ถือได้ว่าเป็นการกระทำการให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการที่มิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า มั่นใจแค่ไหนจะเอาผิดได้ นายเรืองไกรตอบว่า การดำเนินการครั้งนี้ ได้ยึดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่เคยยุบ พรรคการเมืองไปก่อนหน้านี้ แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ อสส. เรื่องนี้เป็นหน้าที่หลักของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่ กกต.บางคนกลับออกมาพูดก่อนว่า ไม่ใช่หน้าที่ ทั้งๆที่ควรพิจารณาให้รอบคอบก่อน จึงอยากให้ กกต.มีมาตรฐานเดียว ไม่ใช่สองมาตรฐาน