ที่มา ประชาทรรศน์
คอลัมน์ : สามเหลี่ยมดินแดง
** สวัสดีท่านผู้อ่านหนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ รายวัน ประจำวันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม 2552 แทง แทนไท เข้าประจำฐานบังคับการ “สามเหลี่ยมดินแดง” แห่งนี้อีกคำรบหนึ่ง ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย และปั่นป่วนทางการเมือง ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และมากขึ้น ทั้งการเติมไฟลงในกองเพลิง และการเติมเพลิงลงในกองไฟของผู้มีอำนาจรัฐ ทุกวี่วัน ไม่รู้เมื่อไรบ้านเมืองจะปกติสุขเสียที นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกว่า “กฎแห่งกรรม” ... มีมือตบ มีเท้าตบ ...มีเสื้อเหลือง มีเสื้อแดง...
** ไล่เรียงมาตั้งแต่ เทพเทือก-สุเทพ เทือกสุบรรณ ไปโดนล้อมที่ จ.อุดรธานี ส่วน นายกฯ มาร์ค ม.7 ไปโดนล้อมที่ จ.ราชบุรี และล่าสุด นายหัวชวน หลีกภัย ไปโดนล้อมในจังหวัดภาคเหนือของประเทศไทย ทั้ง ลำปาง โดนปาไข่เน่า !!! เชียงใหม่ โดนล้อมด่า !!! และ ลำพูนเจอปาเลือดหมู !!! ที่เขียนมานี้ เพื่อที่จะบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ไม่ได้ต้องการหยามเหยียด แต่...ถ้าถามว่า แทง แทนไท เห็นด้วยหรือไม่กับวิธีการใช้การประท้วงแบบรุนแรง บอกตามตรงว่า “ไม่...” !!! เพราะเราไม่อยากเห็น การเคลื่อนไหวใดๆ ที่จะนำไปสู่ความรุนแรง ในเมื่อ เราเห็น เสื้อเหลือง เขาทำเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีแล้ว เราเห็นว่ามันไม่ถูกไม่ควร เราไม่เห็นด้วย ทำไมเราจะต้องไปเอาเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีเหล่านี้ด้วย
** ด้วยความเคารพ การเคลื่อนไหวใด สำหรับ คนเสื้อแดง ต้องระมัดระวัง เพราะหากการเคลื่อนไหวที่จะนำไปสู่ความรุนแรง !!! ท่านต้อง งด – ละ – เลิก เสียก่อน หันไปประท้วงตามแบบฉบับที่ถูกต้องตามหลัก “ประชาธิปไตย” นั่นคือ “สันติ อหิงสา อโหสิ” ไม่ไปล่วงละเมิด สิทธิ เสรีภาพ ของทุกคน ทุกฝ่าย ความเห็นทางการเมือง ไม่ตรงกันได้ แตกต่างกันได้ แต่แตกแยกไม่ได้ นั่นต่างหาก จะทำให้บ้านเมืองของเราเดินหน้าไปได้
** สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ แทง แทนไท คิดและเขียนเพียงคนเดียว แต่ หมอสันต์ หัตถีรัตน์ หมอเหวง โตจิราการ ท่านพร่ำสอน เตือนนักเตือนหนา ว่า การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง หากไปทำอะไรที่เป็น “ความรุนแรง” เราอาจจะปราชัย เราต้องเก็บพลังคนเสื้อแดง มาใช้ให้เกิดประโยชน์โพดผลมากที่สุด ในเวลาข้างหน้า เพราะการต่อสู้นี้ยังยาวนาน ผลผลิต อาจจะไม่ได้เกิดจากคนในรุ่นเราด้วยซ้ำไป ผลผลิตอาจจะไปตกอยู่กับลูกหลานเราในวันข้างหน้า การใช้ความรุนแรง จะไม่ก่อให้เกิดผลดี แต่จะเกิดผลย้อนกลับ และทำให้ “คนเสื้อแดง” พ่ายแพ้แบบอัปยศ!!!
** ฝากไปถึง นายหัวชวน หลีกภัย ด้วยความเคารพท่านอีกคน ท่านออกมาพูดผ่านรายการของช่อง 3 ที่มีพิธีกร 4 ตาเหมือนกัน ช่วยกัน...เติมเชื้อไฟ ให้มันลุกโหมกระพือ ... ไม่ทราบว่าท่านเข้าใจจิตใจของราษฎร ที่เขาไม่เข้าใจพวกท่าน เพราะพวกท่านไม่สามารถอธิบายให้เขาเข้าใจได้เลย ไล่ตั้งแต่ กรณี เสนอนายกรัฐมนตรีพระราชทานตามมาตรา 7 กรณีการเข้าด้วยช่วยเหลือ พันธมารธิปไตย และกรณีการเข้าไปสมยอมร่วมเคียงข้างทหาร ทำลายประชาธิปไตย ท่านจะติดบ่วงอยู่อย่างนี้ หากยังไม่พัฒนาความคิดให้ออกจากกงล้อเดิมๆ
** แทง แทนไท ไม่เห็นด้วยที่ท่านบอกในลักษณะว่า “หากคนภาคใต้จะทำแบบนี้จะทำได้รุนแรงกว่า” คือการสะท้อน “ภาคนิยม” อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นจุดบอด จุดอ่อนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นคนภาคไหน? หากจะสร้างความรุนแรง ไม่ว่าใครภาคไหน มันทำได้ยิ่งกว่าทั้งนั้น “ล้อมรถด่า – ปาไข่เน่า – ยิงหนังสติ๊ก – ยิงปืน – ขว้างระเบิดขวด – ขว้างระเบิดมือ” การพูดจาของท่านฟังดูแล้ว มันอาจจะไป ยั่วยุ ส่งเสริม เติมเชื้อเพลิง สุมใส่กองไฟ และจะเป็นการเพิ่ม “ความรุนแรง” เพิ่มมากขึ้น เพราะคำพูดในลักษณะท้าทายแบบนี้ มันมองกันออก โยงเรื่อง ถูกปาไข่เน่า ไปร่วมกับข่าวโคมลอย ขู่ฆ่า มีคนปองร้าย ที่เอามาบอกกล่าวทั้งที่ยังสืบหาแหล่งที่มาไม่ชัดเจน และถูกกล่าวหาว่าเป็นการสร้างภาพให้น่าสงสาร ...โถ...คนไทยไม่ได้กินแกลบกินหญ้า ที่จะมาบิดเบือนข่าวกันแบบนี้ ... เอากรณี “ไข่เน่า” มาสร้างความชอบธรรม เรื่อง “ถูกขู่ฆ่า” อ้าปากเห็นลิ้นไก่
** ทำเนียบ - งานเข้า!!! ... แต่งตั้งใครไม่แต่งตั้ง ดันไปแต่งตั้งคนมีตำหนิ แบบ อภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำแบบนี้ รัฐบาล ... บรรลัย ในไม่ช้า เพราะไปยอมรับคนซึ่งขัดกับนโยบายรัฐบาลหลายด้าน ทั้งด้าน จริยธรรม คุณธรรม ธรรมาภิบาล และที่สำคัญคือการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะเรื่องรถและเรือดับเพลิง 6.3 พันล้านบาท นี้มันติดตราตรึงใจ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ชี้มูลออกมาแล้ว ซื้อรถที่ผลิตในไทย วนออกไป ออสเตรีย แล้วส่งกลับเข้ามาเมืองไทย ผิด ผิด และ ผิด !!! เอารถไปเลี่ยมทองยังไม่แพงแบบนี้เลย
** เชื่อมโยงกรณี กระทรวงยุติธรรม จะแต่งตั้งบุคลากร ที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินคดีรถและเรือดับเพลิง ..เกือบจะหลุดคดี ไม่ผิด และดึงเรื่อง ให้เนิ่นช้าออกมากว่า 1 ปี นั้น มันทำให้ แทง แทนไท อดสงสัยไม่ได้ ที่เขาว่ากันว่า งานนี้ มีคนเอี่ยวกันเยอะ ค่าคอมมิชชั่น 1,000 ล้านบาท เข้าไปสู่กระเป๋าใครต่อใครกันบ้าง อิ่มหมีพีมัน กันถ้วนหน้า เลยต้อง ต่างตอบแทน กันด้วย ตำแหน่งแห่งหน เป็น เงาคุ้มกะลาหัว แบบนี้หรืออย่างไร? ทั้งที่เขาลือ สนั่น...ลั่น...พรรค...งานนี้ “วัดครึ่งหนึ่ง กรรมการครึ่งหนึ่ง” เชื่อไม่เชื่อ ... ไปเข้าทรงถาม “แม่พระธรณีบีบมวยผม” ดีไหมล่ะ..???
** กลิ่น ตุ...ตุ... !!! ที่กรมประชาสัมพันธ์ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าควบคุม กรมประชาสัมพันธ์ เบ็ดเสร็จ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยพูดนักหนาว่า เรียกร้องรัฐบาลก่อนหน้านี้ ให้เป็นสื่อทั้งสองทาง ปฏิรูปสื่อ ไม่ใช่สื่อของรัฐบาลฝ่ายเดียว วันนี้ทำได้ตามปากที่พูดเอาไว้หรือไม่ พอมาเป็นรัฐบาลก็เข้าอีหรอบเดิม แถมยังจัดรายการให้ “มาร์ค ม.7 จ้อผ่านจอ” ย่ำรอยเดิม... ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ด่านายกรัฐมนตรี ทุกคนที่มาจ้อผ่านสถานีโทรทัศน์ ที่เป็นสื่อของรัฐแบบนี้