ที่มา ไทยรัฐ
เพียงแค่นามสกุล “เอ่งฉ้วน” ที่คุ้นๆกับบิ๊กการเมืองสายสะตอพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังปักใจเชื่อไปเลยทีเดียวไม่ได้ว่า “มีใบสั่ง”
กับคิวร้อนๆที่ พล.ต.ต.ปัญญา เอ่งฉ้วน ผู้บังคับการกองวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินหน้าชงเรื่องถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุเข้าเงื่อนไของค์ประกอบตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการถอดยศ พ.ศ.2547
เนื่องจากถูกศาลพิพากษาจำคุกในคดีที่ดินรัชดาฯ เป็นเวลา 2 ปี และคดีถึงที่สุดแล้ว
ที่แน่ๆโดยสีหน้าแววตาของ “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกอาการแปลกใจ ไม่ทราบเรื่องมาก่อน
ยอมรับตรงๆ มีผลต่อการเจรจาสงบศึกกับอดีตนายกฯทักษิณ
ถ้าแกล้งไขสือ ก็ต้องยอมรับว่า “เนียนมาก”
แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรายการ “สอพลอ” เอาใจนายใหม่ เกมลึก “ปากว่า ตาขยิบ” ฝ่ายคุมอำนาจรัฐเล่นบทลูบหลัง สมานฉันท์ขอเจรจา แต่เผลอก็ตบหัว “ทักษิณ” หรือเป็นคิวยัดไส้ตอกลิ่มให้คนด่ารัฐบาล
โดยวิสัยคนไทยขี้สงสาร ชอบเชียร์มวยรอง
แรงสะท้อนมุมกลับต้องมีแน่
เอาเป็นว่า แค่นาทีแรกที่มีข่าวแพลมออกมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ต้องเจอกับคำถามสื่อมวลชน กังวลจะถูกโจมตีเป็นใบสั่งเล่นงานอดีตนายกฯทักษิณหรือไม่
ต้องรีบบอกปัดกันพัลวัน
โดยทางข่าว งานนี้ถือว่าลูกไหลเข้าทางผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ทั้งในสนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส. 26 เขต 22 จังหวัด ที่รอโกยแต้มเห็นอกเห็นใจ
เก็บคะแนนสงสาร “ทักษิณ” ที่โดนไล่ต้อนจากฝ่ายคุมอำนาจ
ที่แน่ๆจากคิวปล่อยโพลปริศนาออกมาชี้นำล่วงหน้า พรรคร่วมรัฐบาลโกยไป 20 กว่าที่นั่ง เหลือให้ฝ่ายค้านแค่ 8 เก้าอี้
แต่เจอมุกนี้ เกมบล็อก “เพื่อไทย” จะยิ่งเปลืองกระสุนเข้าไปอีก
รวมไปถึงคิวของ “หนุ่มแซม” ยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคเพื่อไทย ที่กำลังเร่งเครื่องไล่กวดคนของประชาธิปัตย์โค้งสุดท้าย ลุ้นเซอร์ไพรส์โพลภายในคะแนนแซงขึ้นมาจ่อที่สอง
งัดไม้ตายขึ้นโปสเตอร์ทั่วกรุงเทพฯ
รอแต้มจากกองเชียร์ที่อยู่ในอารมณ์สงสาร เจ็บแค้น เห็นใจ อึดอัดที่เห็นฝ่ายของอดีตนายกฯทักษิณโดนกระทำ แต่ไม่รู้จะช่วยยังไง
ได้คิวถอดยศ “ทักษิณ” ช่วยกระตุ้นแต้มเห็นใจ เข้าทางลูกอ้อนขอคะแนนสงสาร
“หนุ่มแซม” ได้แรงฮึดอีกเยอะก็แล้วกัน
ที่แน่ๆโดยอาการที่ไม่ชัวร์กับสารพัดโพลที่ให้คนของประชาธิปัตย์คะแนนนำหน้า อย่างที่มีเสียงโวยจากผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. แฉคำสั่ง “คนตัวเตี้ย” บิ๊กในรัฐบาลเบรกรายการดีเบตทางหน้าจอทีวี โดยเฉพาะสื่อของรัฐอย่างช่อง 9 อสมท.
เพราะกลัวมวยของตัวเองเสียท่า
นั่นก็น่าจะบ่งเป็นนัย แต้มยังสูสีทิ้งกันไม่ขาด โอกาสพลิกพลาดท่ายังมีอยู่
โดยเฉพาะแต้มที่เสียไปจากอาการย่ามใจ จากการรีบตั้งนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.เป็นกุนซือนายกรัฐมนตรี
ทั้งๆที่อยู่ในช่วงเคลียร์คดีทุจริตรถและเรือดับเพลิง กทม. หลังโดนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จับใส่บัญชีเชือด
เหมือนไม่ยี่หระกับมาตรฐานตรวจสอบขององค์กรอิสระ
ตอกย้ำภาพของ “อภิสิทธิ์ชน” ยี่ห้อประชาธิปัตย์ “เส้นใหญ่” ทำอะไรไม่ผิด
ที่สำคัญมันอาจจะไปกระตุ้นอาการหวาดระแวงของคนเมืองกรุงที่มักจะนิยมเลือกผู้ว่าฯ กทม.คนละพรรคกับรัฐบาล
เพื่อเป็นมาตรการคานอำนาจกันในเชิงบริหาร
ป้องกันไม่ให้เกิดรายการสุมหัว “ฮั้ว” กันระหว่างนายกฯน้อยกับนายกฯใหญ่
นี่แหละช่องที่คู่ต่อสู้จะพลิกเสียบ.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน