ที่มา ไทยรัฐ พท.ตั้งกระทู้ถามเรื่องถอดยศ “ทักษิณ” เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ม.ค. ที่รัฐสภา ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงว่า ทันทีที่เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญทั่วไปในวันที่ 21 ม.ค.นี้ จะยื่นกระทู้สดถามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอถอดยศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากต้องคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีที่ดินรัชดาฯ เพราะอยากทราบว่า 1. นายกฯเคยอ่านคำพิพากษาขององค์คณะผู้พิพากษาในคดีดังกล่าวหรือไม่ 2. รัฐบาลมีส่วนรู้เห็นกับการออกข่าวของหน่วยงานของรัฐที่มักออกข่าวในทำนองว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีความผิดในคดีทุจริตซื้อที่ดิน ซึ่งเป็นการกล่าวที่ไม่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง เนื่องจากคำพิพากษาคดีดังกล่าวปรากฏชัดเจนในหน้า 37 ว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 142 และ 157 ทั้งนี้ หากรัฐบาลมีส่วนรู้เห็นย่อมเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยหลักความยุติธรรม ที่หยิบยกมาเป็นข้ออ้างในคำแถลงนโยบายรัฐบาล 3. รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาอย่างไร หากกรณีดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนที่ยังรักและศรัทธาต่อผลงาน พ.ต.ท.ทักษิณออกมาประท้วงหรือแสดงความไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของ สตช. งัดเรื่องเก่าเล่นงาน “พัชรวาท” ภายหลังการแถลงข่าว ร.ต.ท.เชาวรินนำเอกสารประทับตราลับมาก โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ทำถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 23 ก.ย. 2551 เพื่อขอทราบความคืบหน้ากรณีที่มีการตรวจสอบพบว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กับพวกรวม 3 คน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรงมาแจกกับสื่อมวลชน เอกสารดังกล่าวระบุว่าตามที่บริษัทผู้ผลิตรายการรายหนึ่งถูกกีดกันไม่ให้เสนอราคาการจัดจ้างโฆษณาและเผยแพร่รายการของ สตช.จำนวน 3 รายการ ได้ร้องเรียนกล่าวหา พล.ต.อ.พัชรวาทขณะดำรงตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. กับพวกรวม 3 คน กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ไม่ปฏิบัติตามประกาศของกระทรวงการคลัง ได้จัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์โดยมีเจตนากระทำการเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอ็น เอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด จึงได้แต่งตั้ง พล.ต.ท.ทวีพร นามเสถียร ผบช.ประจำ ตร. ให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง บีบ “อภิสิทธิ์” ฟันฐานผิดวินัยร้ายแรง ร.ต.ท.เชาวรินกล่าวว่า ภายหลังการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว คณะกรรมการตรวจสอบเห็นว่า พล.ต.อ.พัชรวาท กับพวกรวม 3 คน กระทำความผิดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ ข้อ 18 (6) และข้อ 21 ประกาศกระทรวงการคลังเรื่องหลักเกณฑ์การซื้อและการจ้างโดยการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 6, 12, 13 และ 16 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ มาตรา 10 และ 12 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147, 152, 157 ประกอบมาตรา 83, 84, 86, 90 และ 91 รวมถึง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 86 และ 79 (1) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังระบุว่าความผิดดังกล่าวถือเป็นการผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงเสนอนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ทำการตรวจสอบ แต่ยังไม่ ทราบความคืบหน้า จึงทำหนังสือถึงนายสมชายเพื่อขอความคืบหน้าในเรื่องนี้ ดังนั้น ถ้าตอนนี้ สตช.ว่างมากก็ขอฝากติดตามเรื่องนี้ และขอฝากถึงนายอภิสิทธิ์ให้ติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้ด้วย เพราะเป็นเรื่องผิดวินัยร้ายแรง หากนายอภิสิทธิ์ไม่สามารถให้ความชัดเจนได้ ตนในฐานะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาเพื่อตรวจสอบ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณถึง 114 ล้านบาท “พงศ์เทพ” คาใจถอดยศไม่เสมอภาค นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี สตช. เตรียมทำเรื่องถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณว่า หากเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นการปฏิบัติตามระเบียบของ สตช. และมีการบังคับใช้ระเบียบดังกล่าวอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันว่า หากใคร ทำผิดลักษณะเช่นนี้ต้องถูกถอดยศทุกคน ก็ถือเป็นการ บังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค พ.ต.ท.ทักษิณก็ยอมรับได้ แต่ปัญหาคือระเบียบของ สตช.ในเรื่องนี้มีการบังคับ ใช้อย่างเสมอภาคหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาไม่เห็นเคยมีข่าวการถอดยศตำรวจ ทั้งที่บางคนกระทำผิดร้ายแรงกว่า พ.ต.ท.ทักษิณอีก จึงเป็นคำถามคาใจ หลายคนอาจเข้าใจว่าเป็นประเด็นการเมือง เพราะขณะนี้มีปัญหาเร่งด่วนที่ต้องทำมากมาย โดยเฉพาะการเอาผิดกับเหตุการณ์ยึดสนามบินสุวรรณภูมิที่สร้างผลกระทบกับประชาชนมากมาย แต่คดีเหล่านี้กลับไม่มีความคืบหน้าเลย ทั้งนี้ ไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณทราบเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะไม่ได้ติดต่อกันในช่วงนี้ “นพดล” โวยคนล้มอย่าข้าม นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ และอดีตที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ว่า อยากถาม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และ สตช.ว่า การเสนอถอดยศเป็นเรื่องเร่งด่วนหรือไม่ เพราะขณะที่บ้านเมืองและประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนมากมาย แต่ตำรวจกลับมีข้อเสนอเช่นนี้ออกมา เห็นชัดเจนว่าต้องการไล่บดขยี้ พ.ต.ท.ทักษิณให้หมดหนทางต่อสู้ ไม่ทราบว่าในเชิงกฎหมายที่เป็นกฎระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นอย่างไร แต่เรื่องนี้ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี เคยทำคุณประโยชน์มากมายให้บ้านเมือง “การกระทำของตำรวจและผู้มีอิทธิพลทางการเมืองในขณะนี้ ผมขอฝากคำโบราณไว้ว่าคนล้มอย่าข้าม การถอดยศตำรวจของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความยุติธรรมหรือไม่ ก็ต้องพิจารณาว่าตำรวจที่กระทำความผิดต้องติดคุกในขณะนี้ จะมีการดำเนินการถอดยศเช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่” ผบ.ตร.บอกยังไม่เห็นเรื่องถอดยศ ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวถึงการพิจารณาถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ขออนุญาตตอบอย่างนี้ว่าขณะนี้ยังไม่เห็นเรื่องเลย ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องให้เจ้าหน้าที่ไปพิจารณาทุกแง่ทุกมุมให้เกิดความชัดเจน เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ต้องพิจารณาทุกเรื่องในรายละเอียดของระเบียบ เจตนาของระเบียบ อยากให้เจ้าหน้าที่ไปพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบ ผู้สื่อข่าวถามว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ ปรากฏว่า พล.ต.อ.พัชรวาทปฏิเสธตอบคำถาม พร้อมเดินเลี่ยงจากไปทันที ปชป.ปัดส่งซิกให้ตำรวจเล่นงาน นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ต.ปัญญา เอ่งฉ้วน ผบก.วน. เสนอเรื่องไปยังกองกำลังพล สตช. เพื่อประมวลเรื่องให้ ผบ.ตร.พิจารณาถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนทำให้คนมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองว่า ยอมรับว่าเป็นญาติกับ พล.ต.ต.ปัญญา แต่ยืนยันว่าไม่เคยสั่งหรือขอร้องให้กระทำการดังกล่าว อีกทั้ง พล.ต.ต.ปัญญาไม่เคยมาปรึกษาในเรื่องนี้ จึงไม่ใช่เรื่องกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะประวัติการทำงานของ พล.ต.ต.ปัญญาถือว่าเป็นคนตรงไปตรงมา ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณมีฐานความผิดด้านคดีอาญาและการหนีคดี จึงต้องถูกถอดยศอยู่แล้ว แต่การที่ต้องใช้เวลาพิจารณานานจนล่วงเลยมาถึงรัฐบาลชุดนี้เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นถึงอดีตนายกฯ การดำเนินการต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ ต้องรอให้ถอนพาสปอร์ตแดงก่อน จึงจะดำเนินการได้ และหากรีบพิจารณาตัดสิน ก็จะหาว่ากลั่นแกล้งอีก โบ้ย สตช.ทำเรื่องตั้งแต่มีคำพิพากษา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีกฎระเบียบอยู่แล้ว ในกรณีที่ข้าราชการตำรวจหากถูกศาลพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญา ส่วนตัวเข้าใจว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการพิจารณากรณีนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ที่มีคำพิพากษาของศาลออกมา แต่บังเอิญขั้นตอนเพิ่งจะแล้วเสร็จ และมีการเสนอเรื่องขึ้นมาในช่วงนี้ หลายฝ่ายจึงมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เข้าไปสั่งการหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แต่อย่างใด “เทือก” ทำใจเจรจายากขึ้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า แปลกใจมากที่ สตช.พิจารณาเรื่องถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ เพิ่งทราบคืนวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยอมรับเมื่อมีเรื่องนี้เกิดขึ้นคงจะทำให้การเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณมีปัญหาบ้าง แต่ขอยืนยันว่างานนี้ไม่ใช่งานนโยบาย ถ้าจะมีการดำเนินการอะไรก็เป็นไปตามกฎระเบียบของ สตช. รัฐบาลไม่มีเจตนาบีบคั้นพ.ต.ท.ทักษิณในเรื่องใดทั้งสิ้น ผู้สื่อข่าวถามว่าเกรงหรือไม่ว่าจะยิ่งไปเพิ่มความเห็นใจจากกลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณยิ่งขึ้นอีก จนทำให้การแก้ปัญหาความแตกแยกยากขึ้น นายสุเทพตอบว่า รัฐบาลยังจะเดินหน้าในแนวทางสมานฉันท์ต่อไป แต่อะไรที่ต้องเกิดขึ้นตามตัวบทกฎหมายก็ต้องว่าไป เป็นต้นว่ากรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องคำพิพากษา ก็ต้องว่าไปตามคำพิพากษาและกระบวน การยุติธรรม
กรณีที่กองวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอเรื่องให้กองกำลังพลประมวลเรื่องถอดยศตำรวจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอ ผบ.ตร.พิจารณาดำเนินการ โดยให้เหตุผลว่าเข้าเงื่อนไของค์ประกอบของระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการถอดยศตำรวจ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณถูกศาลพิพากษาจำคุก และคดีถึงที่สุดแล้วนั้น