ที่มา ประชาทรรศน์
คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ
การแต่งตั้งบุคลากรของฝ่ายรัฐบาล ในตำแหน่งสำคัญๆ ทั้ง เลขานุการรัฐมนตรี หรือ ที่ปรึกษารัฐมนตรี กำลังเป็นที่ฮือฮากันในยามนี้ เนื่องเพราะมีหลายกระทรวงที่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันในพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ มีหลายกระทรวงที่ผลักดันให้บุคคลที่สังคมประชาธิปไตย ไม่ต้องการให้มีบทบาท กลับมามีบทบาทอีกครั้งหนึ่ง
ไม่น่าเชื่อว่า นอกจากกระทรวงต่างๆ ที่จับจ้องกันตาเป็นมันแล้ว ในทำเนียบรัฐบาล มีการกระทำในพฤติกรรมดังว่าเหมือนกัน
แต่งตั้งใครไม่แต่งตั้ง ดันไปแต่งตั้ง อดีตผู้ว่าฯ กทม. ที่ถูก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. ตัดสินคดีความ จนต้องออกจากตำแหน่ง และ ทำให้ประเทศชาติต้องเสียงบประมาณในการเลือกตั้งใหม่
ทั้งที่นโยบายรัฐบาล เขียนไว้ชัดเจนในเรื่อง คุณธรรม จริยธรรม และ การไม่สนับสนุนการทุจริตคอรัปชั่น
แม้กระทั่งในวันเดียวกันกับที่มีการลงนามแต่งตั้ง ได้มีการเรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการ พูดจาเป็นหมั่นเหมาะ หากนักการเมืองคนใดไปบอกให้ทุจริต ให้มาบอกกับผู้นำรัฐบาลทันที ...!!!
แต่เมื่อมีการแต่งตั้ง คนที่มีส่วนพัวพันถึงขนาด ปปช.ได้ชี้มูลความผิด ให้เป็นตำแหน่งใหญ่โต คือ ตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เทียบชั้น ซี 11 มีเงินเดือน และ ค่าตอบแทน พร้อมรถและคนขับรถประจำตำแหน่ง ซึ่งทั้งหมดทั้งสิ้นล้วนเป็นเงินจากภาษีอากรของประชาชนตาดำ ๆ
ไม่รู้ว่านายกรัฐมนตรี แต่งตั้งอดีต ผู้ว่าฯ กทม.ท่านนี้มาปรึกษาเรื่องอะไร?
ปรึกษาเรื่องในลักษณะเดียวกับ รถและเรือดับเพลิง หรือไม่?
ปรึกษา วิธีการล็อบบี้องค์กรนอกรีตให้ฝ่ายตัวเองไม่โดนลงโทษ หรือไม่?
ปรึกษา วิธีการอนุญาตให้ม็อบบางม็อบปิดล้อมทำเนียบ สนามบิน หรือไม่?
เป็นเรื่องที่ค้างคาใจ เพราะการเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ถือเป็นตำแหน่งใหญ่ ที่ข้าราชการทั่วประเทศจะให้ความเกรงอกเกรงใจ
ไหนว่าคนในพรรคประชาธิปัตย์ วิเศษวิโส เป็นเทวดา เก่งกันทั้งพรรค เพราะคัดเลือกบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถเยอะแยะ ทำไมจึงเลือกคนมีตำหนิ สันหลังหวะ เข้ามาร่วมก๊กร่วมก๊วน กันแบบนี้
ไม่เกรงใจประชาชน 63 ล้านคน กันบ้างเลยหรือไง
ไม่เกรงใจประชาชน คนกทม. ที่เขาต้องเสียสละเวลาไปเลือกตั้งใหม่ กันบ้างเลยหรือไง
รัฐบาลชุดนี้ ไม่ได้มีที่มาตามความนิยมศรัทธาของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง เป็นรัฐบาลที่พรรคแกนนำ ไม่ได้ถือเสียงข้างมากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร จึงสมควรจะอยู่ในอำนาจอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว การกระทำใดที่ก่อให้เกิดความคลางแคลงใจ หรือ การกระทำที่ขัดกับนโยบายและคำพูดที่พร่ำบ่นมาตลอดในเรื่อง จริยธรรม คุณธรรม และ ธรรมาภิบาล จะยิ่งทำให้รัฐบาลอยู่ยาก
หากไม่เลิกพฤติกรรม ท้าทาย อำนาจประชาชน 63 ล้านคน กระทำการอันเป็นการ ตระบัดสัตย์ ต่อคำพูดแห่งตนแล้ว รัฐบาลคงจะนับถอยหลังไวกว่าที่ควรจะเป็น