ที่มา ประชาทรรศน์
คอลัมน์ : โต๊ะข่าวประชาทรรศน์
โดย อัชฌาวดี
หลังจากได้อ่านข่าว กรณี นายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกมาตอบรับคำเชิญชวนของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว. ยุติธรรม ที่ทาบทามให้เป็นที่ปรึกษารมว.ยุติธรรมแล้วก็นึกถึงคำแถลงการณ์ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
คำแถลงการณ์ที่ พ.ต.ท. ทักษิณ เขียนด้วยลายมือตัวเอง แล้วส่งแฟกซ์กลับมาที่เมืองไทยในวันที่ 11 ส.ค.2551
วันนั้น เป็นวันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร จะต้องขึ้น ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.1/2550 ตามที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องในคดีจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ
พ.ต.ท. ทักษิณ ระบุว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมและครอบครัวพร้อมกับบุคคลใกล้ชิดเป็นผลพวงต่อเนื่องมาจากความต้องการ ขจัด ผมออกจากการเมือง ด้วย การพยายามลอบสังหาร ตามมาด้วย การปฏิวัติรัฐประหาร แต่งตั้งคณะบุคคลที่เป็น ปฏิปักษ์ มาสอบสวนดำเนินคดี เฉพาะตัวผมและครอบครัว
ร่างรัฐธรรมนูญที่ สืบทอด อำนาจเผด็จการ แต่งตั้งบุคคลที่สนับสนุน การปฏิวัติรัฐประหาร ทั้งทางตรงและทางอ้อม เข้าไปเป็นกรรมการในองค์กรต่างๆ เพื่อดำเนินการกับผม
...ผมคิดว่าสถานการณ์คงจะดีขึ้น ผมคงจะมีโอกาสได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์และได้รับความเป็นธรรม จึงเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 แต่เหตุการณ์กลับยิ่งเลวร้ายลง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวผมและครอบครัวเป็นเสมือน ผลไม้ ที่เกิดจาก ต้นไม้ที่เป็นพิษ ผลของมันก็ย่อมเป็นพิษ ตามไปด้วย
นั่นก็คือ ยังคงมีการสืบทอดระบอบเผด็จการ ในการจัดการการเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตย ตามมาด้วยการ แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยเอาผลลัพธ์ที่อยากจะได้เป็นตัวตั้ง เพื่อจัดการกับผมและครอบครัว”
นี้คือส่วนหนึ่งในแถลงการณ์ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ที่ระบุ “ต้นไม้ที่เป็นพิษ” และ “ผลไม้ที่เป็นพิษ” ซึ่งวันนี้ ผลพวงของ ต้นไม้พิษเหล่านั้นกำลังแผ่ขยายไปทุกส่วนของประเทศ
หลายคนไม่เข้าใจว่า “ผลไม้พิษ” เป็นอย่างไร คำว่า “ผลไม้พิษ” นั้นใช้เปรียบเปรยในทางกฎหมายที่ เกิดจากการได้พยานหลักฐานมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เช่น การจับกุมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย พยานหลักฐานที่ยึดมาจากการค้นโดยไม่มีหมายค้น ข้อความที่ได้มาจากการลอบดักฟังโทรศัพท์ การลอบเปิดซองจดหมาย หรือการใช้กำลังข่มขู่หรือบังคับให้ได้พยานหลักฐานนั้นมา เป็นต้น
สรุปได้ว่า พยานหลักฐานจะเป็นผลไม้พิษหรือไม่นั้น สำคัญอยู่ที่การได้มาของพยานหลักฐาน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ของรัฐในสหรัฐอเมริกาต้องให้ความสำคัญและเคร่งครัดกับการได้พยานหลักฐานเพื่อเลี่ยงพิษร้ายของผลไม้เป็นพิษ
สำหรับการพิจารณาคดีในสหรัฐอเมริกานั้น ผลไม้พิษถูกนำไปใช้ในทางที่เป็นคุณแก่ผู้ต้องหาหรือจำเลยให้ปลอดภัยจากการถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
อีกเหตุผลหนึ่งที่ศาลในสหรัฐอเมริกาไม่ยอมรับผลไม้พิษ คือ หากศาลรับฟังพยานหลักฐานดังกล่าว ก็เท่ากับยอมรับและสนับสนุนการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งอาจก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในสังคม
เมืองไทยเวลานี้ “ต้นไม้พิษ” ที่ออกลูกออกหลานเป็น "ผลไม้พิษ" กำลังเผาบ้านเผาเมือง ทำลายล้าง สังคม เศรษฐกิจ และ การเมืองอย่างบ้าคลั่ง
ดังนั้น อย่าปล่อยให้ “ผลไม้พิษ” งอกเงย ออกดอก ออกผล ออกลูก พวกเราต้องช่วยกันขจัดและขุดโค่นต้นไม้พิษเหล่านั้นออกไปจากสังคมไทย!