ที่มา ประชาทรรศน์
คอลัมน์ : ละครชีวิต
โดย ลวดหนาม
กลับมาพบกันอีกครั้ง หลังจาก “ประชาทรรศน์” หยุดวางแผงไป 3 วัน มีเสียงบ่นคิดถึงจากท่านผู้อ่านมากมายว่า ทำไมจึงหายไป ?
บางท่านที่ไม่ได้อ่านติดต่อกันเป็นประจำจึงไม่ทราบ ซึ่งเราได้ลงหมายเหตุประชาทรรศน์ไว้ในฉบับวันอังคารที่ 30 ธันวาคม 2551 ไว้แล้ว
ดังนั้นต่อไปนี้ ประชาทรรศน์จะยังคงนำเสนอข่าวสารด้วยเจตนารมณ์และอุดมการณ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลง
วันหยุดยาวหลายวันติดต่อกันเช่นนี้ ผมมีโอกาสเดินทางไปหลายๆ จังหวัด ซึ่งก็ต้องตกใจอย่างยิ่งกับข้อมูลข่าวสารที่คนต่างจังหวัดรับรู้ รวดเร็ว และ “ลึก” กว่าคนในเมืองหลวงเสียอีก
ทุกวันนี้ผมติดตามข่าวสารทั้งจาก “แหล่งข่าววงใน” นอกนั้นก็มี “อินเตอร์เน็ต” ที่เข้าไปหาข้อมูลบางอย่างที่หนังสือพิมพ์ไม่กล้านำเสนอ
แต่ก่อนคิดไปเองว่า เราอยู่ในเมืองหลวง เป็นนักข่าว คลุกคลีอยู่กับข่าวสาร คงจะมีโอกาสรับรู้เหนือกว่าคนต่างจังหวัด
ที่ไหนได้ คนต่างจังหวัดนี่แหละ “รู้ลึก รู้เร็ว” กว่าคนในเมืองหลวงเสียอีก แถมยังกล้าวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องระแวงว่าจะมีพันธมิตรฯ เข้ามาปะปน เพราะส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายเสื้อแดงเสียมากกว่า
คนต่างจังหวัดรู้ดีว่าเบื้องหลังของ “ม็อบมีเส้น” มีความเป็นมา – เป็นไป อย่างไร ฟังแล้วก็ขนลุกซู่ นิสัยของนักข่าวที่ชอบถาม แต่เจอคำตอบแบบนี้ก็ “อึ้ง” และต้อง “หยุดถาม”
สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับกัน คนต่างจังหวัดกว่า 70% ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน ยังคง ปลาบปลื้มในผลงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ในขณะที่คนอีกจำนวนหนึ่งมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือ “สัญลักษณ์ของระบอบประชาธิปไตย” ที่โดนวงจรอุบาทว์ช่วงชิงอำนาจ ปล้นอำนาจไปจัดตั้งรัฐบาลอย่างหน้าด้านๆ
คนต่างจังหวัดจำนวนไม่น้อย ไม่เข้าใจผลโพลที่ชอบประโคมข่าวต่างๆ นานา เช่น สำนักวิจัยเอแบคโพล ที่ผลสำรวจมักจะขัดกับความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่
ผมอยู่กรุงเทพฯ มาตั้งนมนาน สอบถามจากบรรดาคนรู้จักต่างก็ไม่เคยได้รับการสำรวจจากโพลสำนักนี้แม้แต่ครั้งเดียว
ก็ไม่รู้ว่าไปแอบสำรวจกันที่ไหน อย่างล่าสุด ออกข่าวว่า โพลชี้ประชาชน 70.9% มองพรรคประชาธิปัตย์มีความชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตยในการจัดตั้งรัฐบาล
ผมอ่านข่าวนี้แล้วก็หงุดหงิด เพราะอ้างประชาชนตั้ง 70.9 % มองว่าประชาธิปัตย์ มีความชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่ามีแต่เสียงก่นด่าว่าไปปล้นอำนาจเข้ามาเป็นรัฐบาล
ผลโพลที่ออกมาเช่นนี้ แน่นอนว่าพรรคประชาธิปัตย์คงจะได้หน้าไปหลายขุม แม้จะเป็นเพียงแค่ “ความฝัน”
แต่ผมแนะนำว่า หากแน่จริง “ยุบสภา” คืนอำนาจให้ประชาชนแล้วจัดการเลือกตั้งใหม่ ดูสิว่าผลการเลือกตั้งจะออกมา เหมือนผลโพลหรือไม่
รู้ๆ กันอยู่ว่า อะไรคืออะไร หากประชาธิปัตย์อยากได้ใจประชาชน เหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องทำงานให้หนักกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ สัก 10 เท่า
หากประชาชนกินดี อยู่ดี บางครั้งเขาก็อาจเปลี่ยนใจหันมาสนับสนุนประชาธิปัตย์ ดังนั้นพวกท่าน อย่าท้อครับ ชาตินี้ยังมีโอกาส !