WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, January 18, 2009

ปชป.เย้ย “ทักษิณ” สิ้นมนต์ขลัง

ที่มา ไทยรัฐ

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. นายอิสสระ สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่รู้สึกหวาดหวั่นกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในการดึง ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินกลับไปร่วมรัฐบาลในขั้วของพรรคเพื่อไทย เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณขณะนี้ก็เหมือนหมอที่ไม่ได้อยู่ใกล้คนไข้ จึงไม่รู้ว่าอาการคนไข้เป็นอย่างไร และสถานการณ์เปลี่ยนไปเช่นใดแล้ว นายเนวิน ชิดชอบ เคยพูดกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ไปเจรจาร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า ถ้าประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านเพื่อนเนวินก็จะขออยู่ด้วย เพราะนายเนวินทราบว่าอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณต่อไปก็ไม่มีอนาคต เนื่องจากคนอื่นๆต่างเดินกันไปไกลแล้ว แต่ พ.ต.ท.ทักษิณยังจมอยู่กับอดีต ไม่เดินหน้าไปไหน

ไล่ พท.จัดการภายในพรรคก่อน

นายอิสระ กล่าวว่า การที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาเป็นที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ก็เป็น เพียงแค่การหลอก พ.ต.ท.ทักษิณให้มาช่วยเรื่องทุนกับคนเหล่านั้นเท่านั้น จะเห็นได้ว่าวันนี้สภาพภายในพรรคเพื่อไทยเละขนาดไหน แม้แต่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเองยังขอลาออก 3-4 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าภายในพรรคเพื่อไทยตอนนี้แทบไม่เป็นกระบวน เพราะที่ผ่านมาเวลามีปัญหาอะไร ส.ส.ก็มักวิ่งไปหา พ.ต.ท. ทักษิณอย่างเดียว ส่วนกรณีที่นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า ถึงอย่างไรพรรคประชาธิปัตย์ก็แตะต้องพื้นที่ภาคอีสานไม่ได้นั้น ไม่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณพูด หรือนายกิติศักดิ์พูดเอง แต่อยากให้ตื่นจากฝัน กลับไปดูภายในพรรคตัวเองก่อน ให้หาตัวหัวหน้าและเลขาธิการพรรคตัวจริงให้ได้ก่อน ถึงมาปรามาสคนอื่น พรรคเพื่อไทยจะอยู่ถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือเปล่ายังไม่รู้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า ในภาคอีสาน ปชป.น่าจะได้ ส.ส.มากขึ้น ถ้านโยบายของรัฐบาลเริ่มส่งผล

“ยงยุทธ” พร้อมสละเก้าอี้หัวหน้า พท.

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าว ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางคน มีแนวคิดที่จะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทยว่า ไม่ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลของ ส.ส. บอกได้เพียงว่าถ้า ส.ส.จะย้ายพรรคต้องดูในแง่กฎหมายให้รอบคอบว่าเปิดโอกาสให้ทำได้หรือไม่ ถ้าทำได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางคนเรียกร้องให้ เปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค เพื่อให้หัวหน้าคนใหม่มาทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯพร้อมกับปรับโครงสร้างผู้บริหารพรรค นายยงยุทธตอบว่า ไม่มีความเห็น แต่ถ้าสมาชิกพรรคเห็นว่ามีบุคคลที่เหมาะสม ตนก็พร้อมที่จะไปทำงานด้านอื่น เช่น ด้านธุรการ หรือด้านยุทธศาสตร์ ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตาม หากจะมีใครมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าคงไม่ใช่บุคคลภายนอก สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรคว่าจะมีความเห็นอย่างไร

พท.เล็งดัน ส.ส.ขึ้นแทน “ยงยุทธ”

นายวิทยา บูรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะปรับโครงสร้างว่า ในเร็วๆนี้จะสัมมนา ส.ส.ที่พัทยา จ.ชลบุรี โดยจะมีการปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมด รวมถึงตัวหัวหน้าพรรค เพราะผู้นำฝ่ายค้านจะต้องมาจากหัวหน้าพรรคที่เป็น ส.ส. จึงจะต้องเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า ใครที่จะมาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาบุคคลสำคัญในพรรค มักจะปฏิเสธการเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าหรือกรรมการบริหารพรรค เพราะกลัวการถูกตัดสิทธิทางการเมืองหลังจากถูกยุบพรรค นายวิทยาตอบว่า ถ้าครั้งนี้ไม่มีใครรับตนจะรับตำแหน่งนี้เอง ส่วนกรณีที่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทยนั้น ขณะนี้ไม่สามารถทำได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ส.ส.อาจขัดต่อ มติพรรคโดยใช้เอกสิทธิ์สนับสนุนรัฐบาล ส่วนกรณีที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แกนนำกลุ่มเพื่อน เนวิน พรรคภูมิใจไทย ระบุว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยปล่อยข่าวเพื่อเพิ่มราคาตัวเองนั้น เป็นสิ่งที่นายบุญจงรู้สึก แต่ไม่เป็นความจริง เพราะ ส.ส.ในพรรคไม่มีใครมาเรียกร้องอะไร

ส.ส.เหนือฮึ่มตะเพิดผู้บริหารพรรค

นายอิทธิเดช แก้วหลวง ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับโครงสร้างพรรคว่า ถ้ามีการยุบสภาและเลือกตั้งตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์คงชนะอย่างแน่นอน ดังนั้นจะต้องรีบปรับโครงสร้างพรรค วางกลยุทธ์เร็วเท่าไหร่ยิ่งดีต่อพรรคมากขึ้นเท่านั้น เมื่อถามว่า มีการเคลื่อนไหวจากกลุ่มนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค และนางสุณีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรค ลาออกจากตำแหน่ง โดยกำหนดให้มีการปรับโครงสร้างพรรคดังกล่าวในวันที่ 30-31 ม.ค. ที่จะมีการสัมมนา ส.ส. นายอิทธิเดชตอบว่า ยังไม่ทราบว่าจะนำใครมาเป็นหัวหน้าพรรคแทน แต่ความสำคัญอันดับแรก คือ ต้องปรับโครงสร้างพรรค และตำแหน่งหัวหน้าพรรคมีความสำคัญ ต้องมีการคัดเลือกหัวหน้าพรรคขึ้นมาใหม่ เมื่อถามว่า ส.ส.ภาคเหนือ พรรคเพื่อไทย มีการเตรียมย้ายพรรคบ้างหรือไม่ หลังจากกลุ่มเพื่อนเนวินควบรวมพรรคภูมิใจไทย นายอิทธิเดชตอบว่า เราจะพยายามจับมือกันให้แน่นกว่านี้ แต่ยังไม่ได้วางหลักการให้ชัดเจน

กลุ่ม กทม.ไม่ยอมให้ปรับโครงสร้าง

นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมปรับโครงสร้างและคณะกรรมการบริหารพรรคว่า ขณะนี้ภายในพรรคไม่มีปัญหาในการบริหาร โดยฝ่ายบริหารพรรค ก็มีคณะผู้บริหารรับผิดชอบ และฝ่ายบริหารการเมือง ก็มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน เป็นประธาน ส.ส. ทำหน้าที่หัวหน้าอภิปรายในสภาฯ มีการตั้งประธานภาคและกรรมการภาคต่างๆ 5 ภาคไปแล้ว นอกจากนี้คณะกรรมการบริหารพรรคกับ ส.ส. มีการเชื่อมโยงทำงานโดยผ่านที่ประชุม ส.ส. ดังนั้นขอยืนยันไม่มีแผนปรับโครงสร้างพรรค และไม่เปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรค การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคจะเกิดขึ้นได้ เมื่อไม่สามารถบริหารพรรคหรือตอบโจทย์การเมืองได้

สวน “ยงยุทธ” แค่ความเห็นส่วนตัว

เมื่อถามว่ากลุ่มอีสานพัฒนาและกลุ่มนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ประสานเสียงว่าจะเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคภายในเร็ววันนี้ ทำให้ปัญหาภายในพรรคเหมือนมีความขัดแย้งกันระหว่างกลุ่มนายยงยุทธกับนางเยาวภา ภริยานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ที่คุมการบริหารพรรคอยู่ในตอนนี้ นายคณวัฒน์ตอบว่า ไม่ทราบความต้องการของกลุ่มนายยงยุทธ เข้าใจว่าเป็นความเห็นส่วนตัว เพราะคณะบริหารพรรคไม่มีความคิดที่จะปรับโครงสร้างพรรค ในช่วงปลายเดือน ม.ค.นี้จะมีการสัมมนา ส.ส. เพื่อจัดกระบวนทัพกำหนดทิศทางของพรรค ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาล รวมถึงการเก็บข้อมูลที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เชื่อว่าถ้าอภิปรายเมื่อไหร่รัฐบาลอยู่ไม่ได้แน่ นอกจากนี้จะหารือการทำงานในพื้นที่ เพื่อเตรียมการเลือกตั้งที่ประเมินกันว่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เพราะดูจากการจัดทำงบประมาณกลางปี งบ 70%ไปอยู่ในกระทรวงภายใต้รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการหว่านเงินเพื่อฟื้นฟูคะแนนนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ เท่าที่คุยกับพรรคร่วมรัฐบาลในฐานะที่เคยทำงานร่วมกัน ก็ไม่ค่อยพอใจพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นพรรคได้วิเคราะห์แล้วเห็นว่า การจัดงบครั้งนี้หวังผลในช่วงสั้นๆ และยุบสภาในเร็วๆนี้

รับ “ทักษิณ” ให้คำปรึกษาเป็นระยะ

นายคณวัฒน์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นที่ปรึกษาพรรคนั้น พรรคไม่เคยมีการหารือในเรื่องนี้ เพราะไม่มีความจำเป็นที่จะตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาเลย เนื่องจากที่ผ่านมาถ้าจำเป็นอดีตนายกฯให้คำปรึกษาอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ระบุว่าถ้าพรรคเพื่อไทยตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาพรรค จะถูกยุบพรรคนั้น อยากถามกลับว่าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลมีบุคคลที่ถูกตัดสิทธิ์ 5 ปี ไปร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลด้วย ทั้งนายเนวิน ชิดชอบ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ทุกคนมีภาพเป็นหลักฐานชัดเจน ดังนั้นต้องถาม กกต.ว่าเรื่องนี้จะดำเนินการอย่างไร

พท.ตอกกลับ “สดศรี” เลือกปฏิบัติ

นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรค มองว่าการตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาพรรค ได้พิจารณาข้อกฎหมายอย่างรอบคอบแล้ว จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และไม่มีกฎหมายระบุว่าต้องส่งรายชื่อที่ปรึกษาต่อ กกต. จึงขอยืนยันว่าพรรคจะไม่ถอดชื่อ พ.ต.ท. ทักษิณออกจากตำแหน่งที่ปรึกษา ทั้งนี้ต้องถามกลับไปที่นางสดศรีว่า เหตุใดจึงไม่แสดงความคิดเห็น หรือจับผิดกรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจและนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตกรรมการบริหารไทยรักไทย ไปมีส่วนร่วมในการเปิดตัวพรรคภูมิใจไทย สะท้อนให้เห็นว่าการที่นางสดศรีมุ่งประเด็นมาที่พรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียว เป็นการเลือกปฏิบัติ จึงขอฝากไปถึงนางสดศรีให้ระวังการให้สัมภาษณ์ในลักษณะนี้ เพราะจะทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรอิสระยิ่งเสื่อมโทรม และจะทำให้สังคมแตกแยกมากขึ้น

รัฐบาลกำลังทำบ้านเมืองแตกแยก

นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลกำลังจงใจทำให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง เพราะนำเอาฝ่ายตรงข้ามเข้ามาบริหารประเทศ คนที่เคยปิดล้อมสภาฯ ยึดสนามบิน รวมทั้งคนที่อยู่บ้านเลขที่ 111 ก็ไปร่วมใช้อำนาจกับพรรคประชาธิปัตย์หมดแล้ว ซึ่งน่ากลัวมาก หากมีการใช้อำนาจไม่เป็นธรรม ประเทศไทยก็จะแตกเป็นเสี่ยงๆเหมือนสหภาพโซเวียต การเปิดตัวพรรคภูมิใจไทยก็ชัดเจนว่า วันนี้รัฐมนตรีที่เคยถูก คตส.กล่าวหา ได้ไปร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์หมดแล้ว

“มันไม่ใช่การต่อสู้เชิงนโยบาย เหมือนเมื่อการเลือกตั้ง 2544 ที่พรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้ง เพราะวันนี้ใช้นโยบายเดียวกันแล้ว แต่มาต่อสู้ในเชิงแนวทาง หากอยากเลือกแดงก็ให้มาทางนี้ที่มีจุดยืนชัดเจนไม่เอาทหาร ต่อต้านเผด็จการ ส่วนฝ่ายเหลืองจะอย่างไรก็ได้ขอแค่ได้มีอำนาจ การต่อสู้แนวทางมันใหญ่กว่านโยบาย การต่อสู้ด้วยนโยบายนั้นประเทศจะไม่แตกแยก แต่ถ้าต่อสู้ในเชิงแนวทางแล้วมันจะทำให้ประเทศแตกแยก” นายสงวนกล่าว

“อดิศร” ขู่แฉทหารแทรกแซงการเมือง

นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ในฐานะประธานกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์ ดีทีวี กล่าวถึงความพร้อมในการออกอากาศว่า ในวันที่ 19 ม.ค.นี้ ทีมงานจะทดลองออกอากาศตั้งแต่ 06.00 น. ผ่านสัญญาณดาวเทียมไทยคม 5 โดยตนจะจัดรายการ “คุยกับอดิศร” ในช่วงเวลา 14.00-15.00 น. โดยเนื้อหาจะพูดถึงหลักการประชาธิปไตย ตลอดจนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองขณะนี้ เช่น เรื่องการตั้งรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่ไม่ชอบธรรม และในอนาคตจะเปิดเผยข้อมูล ที่ทหารเข้ามาแทรกแซงการเมืองในเชิงลึก เพราะขณะนี้มีข้อมูลจากข้าราชการประจำ และคณะกรรมาธิการการทหาร ส่งมาเรียบร้อยแล้ว