ที่มา thaifreenews
บทความโดย..ลูกชาวนาไทย
จากการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พูดว่าจะหาทางเจรจากับ ท่านนายกฯทักษิณ เพื่อให้บ้านเมืองสงบและไม่มีการต่อต้านรัฐบาลพรรคประชาธิปปัตย์ ผมฟังดูแล้วให้รู้สึกขัดหูเป็นอย่างยิ่ง ด้วยสาเหตุหนึ่งคือ นายสุเทพและนายอภิสิทธิ์ ไม่ได้มีอำนาจอะไรที่จะไปเจรจากับทักษิณ ความขัดแย้งทางการเมืองครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์แม้จะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่มีอำนาจที่จะมีข้อเสนออะไรทั้งสิ้น เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่เหนืออำนาจรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นธรรม หรือเรื่องอื่นๆ เพราะคู่ขัดแย้งหลักคือ “อำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ”
ข้อที่สอง และเป็นข้อสำคัญคือ คนเสื้อแดงไม่ได้ต่อสู้เพื่อท่านนายกฯทักษิณ แม้ว่าการต่อสู้ของคนเสื้อแดงจะมีประโยชน์ต่อนายกฯทักษิณก็ตาม เพราะเมื่อประเทศเป็นประชาธิปไตย ความอยุติธรรมต่างๆ ที่ อดีตนายกฯทักษิณได้รับ ก็จะได้รับการแก้ไข และมีความเป็นธรรมขึ้น คนเสื้อแดงต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ไม่มีการแทรกแซงจากอำนาจนอกเหนือรัฐธรรมนูญ เราต่อสู้เพื่อตัวของพวกเราเอง เราต่อสู้เพื่อประชาชน ที่ถูกรังแก ถูกทรยศ และถูกแย่งชิงอำนาจไปจากพวกศักดินาอำมาตยาธิปไตย เราต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง
แต่เราเห็นว่า ท่านอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร คือ “สัญญลักษณ์ประชาธิปไตย” เป็นคนที่มีพลังในการทำให้ขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมีความเข็มแข็ง และท่านเป็นศูนย์รวมจิตใจในการต่อสู้
ดังนั้นการที่พรรคประชาธิปัตย์ ผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ และสื่อทั้งหลายพยายามที่จะคิดว่า ท่านายกฯทักษิณ เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการต่อสู้ของคนเสื้อแดง คือความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง การตกลงกับนายกฯทักษิณ ที่ไม่ส่งผลต่อประชาธิปไตย ไม่ทำให้อำนาจของปวงชนกลับคือมา ย่อมไม่มีทางนำความสงบกลับคืนมาอย่างแน่นอน ก็เหมือนกับที่คิดว่า คนเสื้อแดงหมดพลังไปแล้ว เพราะกลุ่มนายเนวิน ไม่ได้สนับสนุนแล้ว แล้วเกิดความตกใจว่าวันแถลงนโยบายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ คนเสื้อแดงมาจากไหนมากมาย ตอนนี้ตั้งใจป้ายความผิดทั้งหมดไปที่ทักษิณ อีกแล้วว่าอยู่เบื้องหลัง
ที่จริงความวุ่นวายทางการเมือง 3 ปีที่ผ่านมานี้ การที่กลุ่มอำมาตยาธิปไตย พยามทำลายทักษิณหลายครั้ง โดยตั้งข้อสมมุติฐานว่า ทักษิณยังไม่วางมือทางการเมือง แล้วทำทุกอย่างเพื่อทำลายทักษิณ แต่ผลของการกระทำมันไม่ได้ตกอยู่กับทักษิณ แต่มันเป็นการทำร้ายประชาชน จนคนจำนวนมากทนไม่ได้และลุกออกมาใส่เสื้อแดงและออกมาต่อสู้ เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา พวกอำมาตย์ทั้งหลายยังไม่สำนึกอีกว่า พวกเขากำลังต่อสู้กับประชาชน พวกเขาไม่ได้ต่อสู้กับทักษิณแต่อย่างใด พวกเขากำลังต่อสู้กับประชาชนที่ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริงต่างหาก
เชื่อผมเถอะว่าในท้ายที่สุด ไม่ว่าจะทำอย่างไรพวกศักดินาอำมาตย์ฯ ก็จะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่ว่าจะดำเนินการอะไร ก็ไม่มีทางที่จะบรรลุเป้าหมายไปได้ ประเทศต้องการประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ไม่ต้องการคนที่ทรยศต่ออำนาจของประชาชน ประเทศได้ก้าวพ้นการเมืองก่อนยุคปี 2540 ไปแล้ว การที่จะดึงการเมืองกลับไปยุคก่อนปี 2540 ซึ่งเป็นการถอยหลังนั้นทำไม่ได้อย่างแน่นอน
และหากคิดว่ายิ่งปล่อยเวลานานไป ความนิยมทักษิณอาจลดลง และจะทำให้คนอีสาน และคนเหนือลืมทักษิณ หันไปเลือกพรรคเล็กพรรคน้อยอีกเหมือนที่เคยทำมา 70 ปี ผมว่าเพ้อฝันเกินไป ทักษิณเป็นรัฐบาลกว่า 5 ปี ทำโครงการทุกอย่างเพื่อคนใต้ แต่ผมก็ไม่เห็นคนใต้เปลี่ยนใจไปเลือกพรรคไทยรักไทยเลย
คนได้ก้าวพ้นการเลือกตัวบุคคลไปเลือกพรรคแล้ว ดังนั้นกลยุทธ์เดิมๆ มันไม่ได้ผลแล้ว คนภาคอีสาน ภาคเหนือต้องการพรรคการเมืองแบบเสรีนิยมโลกาภิวัฒน์ แบบพรรคไทยรักไทย ไม่ได้ต้องการพรรคอนุรักษ์นิยมแบบประชาธิปัตย์ ไม่ต้องการเศรษฐกิจพอเพียง แต่ต้องการรัฐสวัสดิการแบบทักษิโณมิกส์ ไม่ได้ต้องการถนนหนทางแบบสุพรรณบุรี แต่ต้องการระบบรัฐสวัสดิการที่ช่วยให้ประชาชนกินดีอยู่ดี มีชีวิตที่ดีและมีรายได้เพิ่มมากขึ้น สิ่งเหล่านี้พรรคประชาธิปัตย์ให้ไม่ได้อย่างแน่นอน
ปล.ผมอ่านข้อเสนอในการต่อสู้ของคนเสื้อแดงในปี 2552 โดย คุณ บก.ลายจุดที่คนเอามาลงในเว็บประชาไท ผมเห็นด้วยทั้งหมด เลยขอเอามาลงเพื่อเผยแพร่ให้ได้อ่านกันนะครับ เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจร่วมกัน รวมทั้งเคลียร์ยุทธศาสตร์ให้ชัดเจน เพื่อคนเสื้อแดงจะได้ไม่สับสน
----------------------
ข้อเสนอต่อการต่อสู้คนเสื้อแดง ปี 52 โดยคุณ บก.ลายจุด
ผมมี ความยินดีที่จะมีผู้อ่านแสดงความคิดเห็นทั้งในเชิงเห็นด้วยและแตกต่าง บนพื้นฐานของเหตุผล และ จุดยืนที่อาจแตกต่างกันในรายละเอียด
1.....สีแดง = ชูธงประชาธิปไตย
ต้อง ทำให้คนคิดถึงสีแดง แล้วคิดถึงประชาธิปไตย ไม่ใช่คิดถึงกลุ่มคนรักทักษิณ ดังนั้น เนื้อหาที่นำเสนอ ต้องเข็มข้น ผูกติดกับประชาธิปไตยเป็นเรื่องแรก ๆ และต้องอยู่ในทุกพื้นที่ของสีแดง
2....จัดวางบทบาททักษิณเป็นแนวร่วม
ให้ เสื้อแดงต่อสู้ไปโดยไม่ต้องพะวงกับทักษิณมากนัก เขาดูแลตัวเองได้ การที่ทักษิณจะร่วมต่อสู้ ขอให้จัดวางทักษิณอยู่ในฐานะของแนวร่วม เฉกเช่นแนวร่วมเสื้อแดงอีกหลาย ๆ คน
3.....ผู้นำการต่อสู้คือ วีระ
ต้อง ยกคุณวีระขึ้นอย่างโดดเด่นที่สุด ด้วยเหตุผลเรื่องวุฒภาวะ หัวใจการต่อสู้ และได้พิสูจน์หลายครั้งแล้วว่า เขามีความรับผิดชอบเพียงพอต่อภาระกิจและชีวิตของมวลชน
4.......สถาบันคนเสื้อแดง = องค์กรนำ
ให้จัดวางแกนนำกลุ่มต่าง ๆ เข้าไปเป็นสมาชิกในองค์กรนำแห่งใหม่ ซึ่งเข้าใจว่า อีกหน่อยจะใช้ชื่อ สถาบันคนเสื้อแดงแทน นปช
5.....หยุดแย่งชิงการนำ
พื้นที่ สนามหลวง มีปัญหาบ่อยครั้ง หลายครั้งที่มีเวทีขึ้นพร้อม ๆ กัน จากกลุ่มหลาย ๆ กลุ่ม ซึ่งจริง ๆ แล้ว เป็นสมาชิกในแนวร่วมนั้นแหละ คนที่เป็นแกนนำของแต่ละกลุ่ม ต้องยกระดับการเป็นนักต่อสู้ เพื่อไม่ให้มีภาพการแย่งการนำอีกต่อไป ประเภทมี 3 เวที ในสนามหลวงนี่ต้องเลิก
6......หยุดใช้คำหยาบ และ เรื่องส่วนตัวเกินเลย
ประเภท กู ๆ Mung ๆ หลุดออกมาได้บ้าง แต่สัตว์เลื้อยครานนี้ต้องหยุด เรื่องใต้สะดื้ออย่าเอามาเล่น ความแตกต่างทางเพศอย่าเอามาล้อเลียน หากใครเขาว่าเสื้อแดงเป็นม็อบรากหญ้า ก็ต้องแสดงให้เขาเห็นว่า รากหญ้าก็มีวุฒิภาวะทางสังคม ศิลปะในการพูดผสมกับการทำการบ้าน ทำงานข้อมูล หยิบจับแง่คิดคม ๆ มาแบ่งปัน เป็นภาระกิจของนักพูดบนเวที
7......การชุมนุมอย่างเปิดเผย
ความจริงแล้วเห็นไม่มากนัก แต่ยังมีบางคน ปิดหน้าปิดตา เหมือนกับการ์ด พธม ไม่รู้จะปิดไปทำไม มันดูไม่ดี
8.....ป้ายยกจากผู้ชุมนุม
อัน นี้ถือเป็นสีสันที่ดี การที่ผู้ชุมนุมจากที่ต่าง ๆ นำป้ายยก เขียนข้อความที่ต้องการสื่อสาร ถือว่าเป็นสีสัน และขยายผลทำให้ Message ถูกส่งตรงจากผู้เข้าร่วมการชุมนุม ซึ่งไม่มีโอกาสพูดบนเวที ตรงนี้ต้องส่งเสริมกันให้มาก ๆ
9......ขยายฐานมวลชนเสื้อแดง
ให้ เชื่อมโยงคนที่เป็นเสื้อแดงไว้ด้วยกัน เกาะกันให้ได้ อาจเป็นกลุ่มเล็ก ๆ 3-5 คน จะมีประโยชน์มากกว่า ปล่อยให้สีแดงอยู่กันเป็นปัจเจกคนเดียว เพราะจะได้มีการแบ่งปันข่าวสาร ถกเถียงพูดคุย และคิดอ่านในการทำกิจกรรม
10......อย่าผลักสีขาว เป็นสีเหลือง
เวลา เจอพวกสีขาว หรือ พวกกลาง ๆ อย่าไปด่าเขาเสีย ๆ หาย ๆ หรือไปป้ายเขาว่าเป็นพวกนิยมเหลือง หรือ พวกพันธมิตร แม้แต่เหลืองอ่อน ๆ ก็ต้องพยายามไม่ผลักให้เขาเป็นฝ่ายตรงข้าม แต่ต้องพยายามให้ข้อมูลแบบไม่ยัดเยียด ไม่เร่งรีบ หรือคาดหวังมากนัก ค่อย ๆ ชวนคุยให้เกิดประกายความคิดว่า ประชาธิปไตยดีกว่าสิ่งที่ พธม เสนออย่างไร
11.......อย่าคิดเปลี่ยนสีเหลืองเป็นสีแดง
เป็น เรื่องไม่มีประโยชน์ที่จะทำเช่นนั้น เพราะในทางกลับกัน เหลืองคนไหนก็เปลี่ยนแดงเป็นเหลืองไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่เสื้อแดง ควรมีท่าทีกับสีเหลืองคือ การเคารพในตัวตนเสื้อเหลือง สิ่งเดียวที่ทำให้เสื้อเหลืองเปลี่ยนได้ คือ ตัวของเขาเอง ให้เวลาเป็นข้อพิสูจน์และจงเชื่อมั่นว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเหตุผล ที่สำคัญ เสื้อเหลืองที่คุณพยายามไปเปลี่ยนเขา(ซึ่งยากทีจะสำเร็จ) อาจเป็นคนในครอบครัว เพื่อนสนิท เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนบ้านที่คนเคยคบหากันมาก่อน อย่าให้ความคิดเรื่องการเมือง ทำลายโครงสร้างความสัมพันธ์ที่คุณเคยมีกับเขา โดยเฉพาะคนที่มีผลต่อชีวิตคุณมาก ๆ เช่น คนในครอบครัว จงเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่กับความหลากหลาย และ แตกต่าง แบบสุด ๆ
12.....ทีวีสีแดง และ วิทยุชุมชน
จง เชื่อมโยงตนเองเข้ากับเครือข่ายการสื่อสารของฝ่ายเสื้อแดง ใครพอมีกำลังก็ติดจานดาวเทียม และแบ่งปันให้กับเพื่อนบ้าน ใช้โทรศัพท์ที่สามารถรับฟังวิทยุได้ เมื่อมีเวลา ก็รับฟังทางวิทยุชุมชน และโทรศัพท์ เขียนข้อความไปแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สื่อสีแดง เป็นช่องทาง 2 ทาง และมีแง่มุมของคนเล็กคนน้อยอยู่ในพื้นที่สื่อเหล่านั้น หมดยุคข้อมูลจากบนลงล่างแล้ว
13.....นักรบไซเบอร์
นอกจากช่วยกัน นำข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ มาทำซ้ำแล้ว จะต้องยกระดับในแง่การเปลี่ยนข้อมูล ให้มีแง่มุมในเชิงหลักการ คือ ต้องชี้ให้ชัดว่า ข้อมูลนั้นอยู่บนพื้นฐานทางหลักการอะไร โดยจะต้องเชื่อมโยงทั้งในประเด็นทางสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ไม่ใช่แค่หยิบจับข่าวการเมืองที่ผ่านปากนักการเมืองมาคุยกันเท่านั้น นอกจากนั้น จะต้องขยายฐานไปยังเวบอื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นเวบการเมือง สอดแทรกแง่มุมข่าวสารให้กว้างขวาง (ขยายฐานการรับรู้ และการทำงานการเมืองในโลกไซเบอร์)
14.....เปลี่ยนมวลชน เป็น ผู้ปฏิบัติงาน
สำหรับ คนที่ไปร่วมเวทีการชุมนุมมาระดับหนึ่งแล้ว จะต้องหาที่ยืนใหม่ที่มีความสำคัญมากขึ้น กล่าวคือ ต้องมองว่า ตนเองสามารถมีส่วนร่วมในการขยายผลได้อย่างไร โดยเริ่มจากการสมัครเป็นสมาชิกสถาบันเสื้อแดงในพื้นที่ของตนเอง และเสนอตัวเป็นแกนนำหรือผู้ปฏิบัติงานในการขยายฐานสมาชิก หรือช่วยยกระดับการศึกษาความเข้าใจทางการเมืองให้กับสมาชิกในพื้นที่ใกล้ บ้านที่คุณเป็นสมาชิกอยู่
15.....จงมุ่งมั่นที่จะชนะ แต่อย่าเร่งรีบที่จะชนะ
รักษา ความมุ่งมั่นในการต่อสู้ และต้องปรับความคิดในการที่จะชนะในระยะเวลาสั้น ๆ เพราะจะทำให้การต่อสู้พลาดพลั้งได้ง่าย คิดไปเลย 10 ปี
16....จัดการศึกษาให้นักการเมือง
หาก พรรคเพื่อไทย จะเป็นผู้แทนของคนเสื้อแดง พวกเขาต้องปรากฎตัวและออกมารับฟังความคิดเห็นของประชาชนเสื้อแดง และต้องร่วมต่อสู้ ไม่ใช่หดหัว Play Safe ปล่อยให้เสื้อแดงต่อสู้กับแกนนำบางคนเท่านั้น ต้องมีการปรึกษาหารือระหว่างประชาชนกับนักการเมือง ในการวิเคราะห์ปัญหาบ้านเมืองที่ไม่ใช่เฉพาะเรื่องทางการเมือง แต่ต้องไปถึงเรื่องนโยบาย และ สถานการณ์ทางสังคม ถ้านักการเมืองยังคงทำตัวเป็นคนที่มีอาชีพเป็นนักการเมือง แต่ไม่ได้เป็นผู้แทน(จิตวิญญาณ)ประชาชน ก็อย่าไปเลือกมัน และถ้านักการเมืองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เอาแต่เล่นเกมอำนาจและผลประโยชน์ ขอให้คนเสื้อแดงตัดใจ ให้บทเรียนกับนักการเมืองเหล่านี้ พรรคการเมืองต้องจัดเวที เปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็นประชาชนอย่างต่อเนื่อง เน้นการไปนั่งฟัง อย่าไปเน้นการสั่งสอน หรือ โฆษณาหาเสียงกับชาวบ้าน แล้วนำสิ่งที่ชาวบ้านเสนอปัญหาและแนวทางมาพิจารณาในการออกแบบนโยบายพรรค ทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชนให้ได้ เลือกเสียที พรรคการเมืองของนายทุน หรือ พรรคของนักการเมือง
17......ศึกษา ค้นคว้า แลกเปลี่ยน
อย่า มัวแต่ตอบกระทู้ด่ากันไปด่ากันมา แต่หาเวลาไปค้นใน wiki ทั้งข้อมูลประวัติศาสตร์ หรือ ข้อมูลต่าง ๆ ตามเวบไซด์ หรือ หยิบจับหนังสือดี ๆ มาอ่าน หรือเข้าร่วมการประชุมเสวนาทางวิชาการ หรือ จะฟังจาก Clip ที่มีคนเอามาเผยแพร่ก็ได้ จากนั้นนำข้อมูลและแง่มุมมาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยน
18.....เสนอตัว เป็นอาสาสมัคร
ดู ว่าตนเองมีต้นทุนอะไรบ้าง สามารถช่วยเหลือผู้อื่น หรือ การต่อสู้ในด้านใด เช่น ถ่ายภาพ ออกแบบกราฟฟิค จัดฝึกอบรม งานเขียน กระจายสื่อ ฯลฯ แล้วเชื่อมโยงตนเองเข้าไปกับการเคลื่อนไหวและกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
19.......บริหารเวลา
การ ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แบ่งปัน และบริหารชีวิตในด้านอื่น ๆ ให้ดี อย่าให้เกิดผลกระทบในระดับวิกฤติ ไม่ใช่เคลื่อนไหวจนบ้านแตก ถูกไล่ออกจากงาน หรือ เรียนหนังสือไม่จบ จงหลอมรวมภารกิจเพื่อประชาธิปไตยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ไมใช่ทั้งหมดของชีวิต ยกเว้นแกนนำหรือผู้มีความพร้อมบางคนเท่านั้น อย่าลืมว่า การต่อสู้นั้นยาวนาน ชีวิตต้องดำรงอยู่ หากเกิดปัญหาในมิติอื่น ๆ ของชีวิต ย่อมส่งผลต่อการต่อสู้ด้วยเช่นกัน
20.....จงต่อสู้ด้วยจิตใจที่เบิกบาน
ขอ นำคำของหมอเหวง มาแบ่งปัน แม้ว่าเราจะต้องต่อสู้อย่างเข็มข้น เกิดอารมณ์เครียด ท้อถอย หรือ โกรธแค้น แต่ต้องขจัดสิ่งเหล่านั้นออกๆไป จงต่อสู้ด้วยจิตใจที่เบิกบาน ยกระดับจิตวิญญาณให้สูงขึ้น ไม่ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์การต่อสู้ที่ทำลายจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ ให้กลายเป็นสัตว์ร้าย
(จบ)
------------------------------------