WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, January 4, 2009

คนเสื้อแดงไม่ได้ต่อสู้เพื่อทักษิณ เราสู้เพื่อประชาธิปไตย

ที่มา thaifreenews

บทความโดย..ลูกชาวนาไทย


จากการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พูดว่าจะหาทางเจรจากับ ท่านนายกฯทักษิณ เพื่อให้บ้านเมืองสงบและไม่มีการต่อต้านรัฐบาลพรรคประชาธิปปัตย์ ผมฟังดูแล้วให้รู้สึกขัดหูเป็นอย่างยิ่ง ด้วยสาเหตุหนึ่งคือ นายสุเทพและนายอภิสิทธิ์ ไม่ได้มีอำนาจอะไรที่จะไปเจรจากับทักษิณ ความขัดแย้งทางการเมืองครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์แม้จะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่มีอำนาจที่จะมีข้อเสนออะไรทั้งสิ้น เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่เหนืออำนาจรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นธรรม หรือเรื่องอื่นๆ เพราะคู่ขัดแย้งหลักคือ “อำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ”

ข้อที่สอง และเป็นข้อสำคัญคือ คนเสื้อแดงไม่ได้ต่อสู้เพื่อท่านนายกฯทักษิณ แม้ว่าการต่อสู้ของคนเสื้อแดงจะมีประโยชน์ต่อนายกฯทักษิณก็ตาม เพราะเมื่อประเทศเป็นประชาธิปไตย ความอยุติธรรมต่างๆ ที่ อดีตนายกฯทักษิณได้รับ ก็จะได้รับการแก้ไข และมีความเป็นธรรมขึ้น คนเสื้อแดงต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ไม่มีการแทรกแซงจากอำนาจนอกเหนือรัฐธรรมนูญ เราต่อสู้เพื่อตัวของพวกเราเอง เราต่อสู้เพื่อประชาชน ที่ถูกรังแก ถูกทรยศ และถูกแย่งชิงอำนาจไปจากพวกศักดินาอำมาตยาธิปไตย เราต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง



แต่เราเห็นว่า ท่านอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร คือ “สัญญลักษณ์ประชาธิปไตย” เป็นคนที่มีพลังในการทำให้ขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมีความเข็มแข็ง และท่านเป็นศูนย์รวมจิตใจในการต่อสู้

ดังนั้นการที่พรรคประชาธิปัตย์ ผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ และสื่อทั้งหลายพยายามที่จะคิดว่า ท่านายกฯทักษิณ เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการต่อสู้ของคนเสื้อแดง คือความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง การตกลงกับนายกฯทักษิณ ที่ไม่ส่งผลต่อประชาธิปไตย ไม่ทำให้อำนาจของปวงชนกลับคือมา ย่อมไม่มีทางนำความสงบกลับคืนมาอย่างแน่นอน ก็เหมือนกับที่คิดว่า คนเสื้อแดงหมดพลังไปแล้ว เพราะกลุ่มนายเนวิน ไม่ได้สนับสนุนแล้ว แล้วเกิดความตกใจว่าวันแถลงนโยบายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ คนเสื้อแดงมาจากไหนมากมาย ตอนนี้ตั้งใจป้ายความผิดทั้งหมดไปที่ทักษิณ อีกแล้วว่าอยู่เบื้องหลัง

ที่จริงความวุ่นวายทางการเมือง 3 ปีที่ผ่านมานี้ การที่กลุ่มอำมาตยาธิปไตย พยามทำลายทักษิณหลายครั้ง โดยตั้งข้อสมมุติฐานว่า ทักษิณยังไม่วางมือทางการเมือง แล้วทำทุกอย่างเพื่อทำลายทักษิณ แต่ผลของการกระทำมันไม่ได้ตกอยู่กับทักษิณ แต่มันเป็นการทำร้ายประชาชน จนคนจำนวนมากทนไม่ได้และลุกออกมาใส่เสื้อแดงและออกมาต่อสู้ เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา พวกอำมาตย์ทั้งหลายยังไม่สำนึกอีกว่า พวกเขากำลังต่อสู้กับประชาชน พวกเขาไม่ได้ต่อสู้กับทักษิณแต่อย่างใด พวกเขากำลังต่อสู้กับประชาชนที่ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริงต่างหาก

เชื่อผมเถอะว่าในท้ายที่สุด ไม่ว่าจะทำอย่างไรพวกศักดินาอำมาตย์ฯ ก็จะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่ว่าจะดำเนินการอะไร ก็ไม่มีทางที่จะบรรลุเป้าหมายไปได้ ประเทศต้องการประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ไม่ต้องการคนที่ทรยศต่ออำนาจของประชาชน ประเทศได้ก้าวพ้นการเมืองก่อนยุคปี 2540 ไปแล้ว การที่จะดึงการเมืองกลับไปยุคก่อนปี 2540 ซึ่งเป็นการถอยหลังนั้นทำไม่ได้อย่างแน่นอน

และหากคิดว่ายิ่งปล่อยเวลานานไป ความนิยมทักษิณอาจลดลง และจะทำให้คนอีสาน และคนเหนือลืมทักษิณ หันไปเลือกพรรคเล็กพรรคน้อยอีกเหมือนที่เคยทำมา 70 ปี ผมว่าเพ้อฝันเกินไป ทักษิณเป็นรัฐบาลกว่า 5 ปี ทำโครงการทุกอย่างเพื่อคนใต้ แต่ผมก็ไม่เห็นคนใต้เปลี่ยนใจไปเลือกพรรคไทยรักไทยเลย

คนได้ก้าวพ้นการเลือกตัวบุคคลไปเลือกพรรคแล้ว ดังนั้นกลยุทธ์เดิมๆ มันไม่ได้ผลแล้ว คนภาคอีสาน ภาคเหนือต้องการพรรคการเมืองแบบเสรีนิยมโลกาภิวัฒน์ แบบพรรคไทยรักไทย ไม่ได้ต้องการพรรคอนุรักษ์นิยมแบบประชาธิปัตย์ ไม่ต้องการเศรษฐกิจพอเพียง แต่ต้องการรัฐสวัสดิการแบบทักษิโณมิกส์ ไม่ได้ต้องการถนนหนทางแบบสุพรรณบุรี แต่ต้องการระบบรัฐสวัสดิการที่ช่วยให้ประชาชนกินดีอยู่ดี มีชีวิตที่ดีและมีรายได้เพิ่มมากขึ้น สิ่งเหล่านี้พรรคประชาธิปัตย์ให้ไม่ได้อย่างแน่นอน

ปล.ผมอ่านข้อเสนอในการต่อสู้ของคนเสื้อแดงในปี 2552 โดย คุณ บก.ลายจุดที่คนเอามาลงในเว็บประชาไท ผมเห็นด้วยทั้งหมด เลยขอเอามาลงเพื่อเผยแพร่ให้ได้อ่านกันนะครับ เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจร่วมกัน รวมทั้งเคลียร์ยุทธศาสตร์ให้ชัดเจน เพื่อคนเสื้อแดงจะได้ไม่สับสน


----------------------

ข้อเสนอต่อการต่อสู้คนเสื้อแดง ปี 52 โดยคุณ บก.ลายจุด

ผมมี ความยินดีที่จะมีผู้อ่านแสดงความคิดเห็นทั้งในเชิงเห็นด้วยและแตกต่าง บนพื้นฐานของเหตุผล และ จุดยืนที่อาจแตกต่างกันในรายละเอียด

1.....สีแดง = ชูธงประชาธิปไตย
ต้อง ทำให้คนคิดถึงสีแดง แล้วคิดถึงประชาธิปไตย ไม่ใช่คิดถึงกลุ่มคนรักทักษิณ ดังนั้น เนื้อหาที่นำเสนอ ต้องเข็มข้น ผูกติดกับประชาธิปไตยเป็นเรื่องแรก ๆ และต้องอยู่ในทุกพื้นที่ของสีแดง

2....จัดวางบทบาททักษิณเป็นแนวร่วม
ให้ เสื้อแดงต่อสู้ไปโดยไม่ต้องพะวงกับทักษิณมากนัก เขาดูแลตัวเองได้ การที่ทักษิณจะร่วมต่อสู้ ขอให้จัดวางทักษิณอยู่ในฐานะของแนวร่วม เฉกเช่นแนวร่วมเสื้อแดงอีกหลาย ๆ คน

3.....ผู้นำการต่อสู้คือ วีระ
ต้อง ยกคุณวีระขึ้นอย่างโดดเด่นที่สุด ด้วยเหตุผลเรื่องวุฒภาวะ หัวใจการต่อสู้ และได้พิสูจน์หลายครั้งแล้วว่า เขามีความรับผิดชอบเพียงพอต่อภาระกิจและชีวิตของมวลชน

4.......สถาบันคนเสื้อแดง = องค์กรนำ
ให้จัดวางแกนนำกลุ่มต่าง ๆ เข้าไปเป็นสมาชิกในองค์กรนำแห่งใหม่ ซึ่งเข้าใจว่า อีกหน่อยจะใช้ชื่อ สถาบันคนเสื้อแดงแทน นปช

5.....หยุดแย่งชิงการนำ
พื้นที่ สนามหลวง มีปัญหาบ่อยครั้ง หลายครั้งที่มีเวทีขึ้นพร้อม ๆ กัน จากกลุ่มหลาย ๆ กลุ่ม ซึ่งจริง ๆ แล้ว เป็นสมาชิกในแนวร่วมนั้นแหละ คนที่เป็นแกนนำของแต่ละกลุ่ม ต้องยกระดับการเป็นนักต่อสู้ เพื่อไม่ให้มีภาพการแย่งการนำอีกต่อไป ประเภทมี 3 เวที ในสนามหลวงนี่ต้องเลิก

6......หยุดใช้คำหยาบ และ เรื่องส่วนตัวเกินเลย
ประเภท กู ๆ Mung ๆ หลุดออกมาได้บ้าง แต่สัตว์เลื้อยครานนี้ต้องหยุด เรื่องใต้สะดื้ออย่าเอามาเล่น ความแตกต่างทางเพศอย่าเอามาล้อเลียน หากใครเขาว่าเสื้อแดงเป็นม็อบรากหญ้า ก็ต้องแสดงให้เขาเห็นว่า รากหญ้าก็มีวุฒิภาวะทางสังคม ศิลปะในการพูดผสมกับการทำการบ้าน ทำงานข้อมูล หยิบจับแง่คิดคม ๆ มาแบ่งปัน เป็นภาระกิจของนักพูดบนเวที

7......การชุมนุมอย่างเปิดเผย
ความจริงแล้วเห็นไม่มากนัก แต่ยังมีบางคน ปิดหน้าปิดตา เหมือนกับการ์ด พธม ไม่รู้จะปิดไปทำไม มันดูไม่ดี

8.....ป้ายยกจากผู้ชุมนุม
อัน นี้ถือเป็นสีสันที่ดี การที่ผู้ชุมนุมจากที่ต่าง ๆ นำป้ายยก เขียนข้อความที่ต้องการสื่อสาร ถือว่าเป็นสีสัน และขยายผลทำให้ Message ถูกส่งตรงจากผู้เข้าร่วมการชุมนุม ซึ่งไม่มีโอกาสพูดบนเวที ตรงนี้ต้องส่งเสริมกันให้มาก ๆ

9......ขยายฐานมวลชนเสื้อแดง
ให้ เชื่อมโยงคนที่เป็นเสื้อแดงไว้ด้วยกัน เกาะกันให้ได้ อาจเป็นกลุ่มเล็ก ๆ 3-5 คน จะมีประโยชน์มากกว่า ปล่อยให้สีแดงอยู่กันเป็นปัจเจกคนเดียว เพราะจะได้มีการแบ่งปันข่าวสาร ถกเถียงพูดคุย และคิดอ่านในการทำกิจกรรม

10......อย่าผลักสีขาว เป็นสีเหลือง
เวลา เจอพวกสีขาว หรือ พวกกลาง ๆ อย่าไปด่าเขาเสีย ๆ หาย ๆ หรือไปป้ายเขาว่าเป็นพวกนิยมเหลือง หรือ พวกพันธมิตร แม้แต่เหลืองอ่อน ๆ ก็ต้องพยายามไม่ผลักให้เขาเป็นฝ่ายตรงข้าม แต่ต้องพยายามให้ข้อมูลแบบไม่ยัดเยียด ไม่เร่งรีบ หรือคาดหวังมากนัก ค่อย ๆ ชวนคุยให้เกิดประกายความคิดว่า ประชาธิปไตยดีกว่าสิ่งที่ พธม เสนออย่างไร

11.......อย่าคิดเปลี่ยนสีเหลืองเป็นสีแดง
เป็น เรื่องไม่มีประโยชน์ที่จะทำเช่นนั้น เพราะในทางกลับกัน เหลืองคนไหนก็เปลี่ยนแดงเป็นเหลืองไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่เสื้อแดง ควรมีท่าทีกับสีเหลืองคือ การเคารพในตัวตนเสื้อเหลือง สิ่งเดียวที่ทำให้เสื้อเหลืองเปลี่ยนได้ คือ ตัวของเขาเอง ให้เวลาเป็นข้อพิสูจน์และจงเชื่อมั่นว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเหตุผล ที่สำคัญ เสื้อเหลืองที่คุณพยายามไปเปลี่ยนเขา(ซึ่งยากทีจะสำเร็จ) อาจเป็นคนในครอบครัว เพื่อนสนิท เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนบ้านที่คนเคยคบหากันมาก่อน อย่าให้ความคิดเรื่องการเมือง ทำลายโครงสร้างความสัมพันธ์ที่คุณเคยมีกับเขา โดยเฉพาะคนที่มีผลต่อชีวิตคุณมาก ๆ เช่น คนในครอบครัว จงเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่กับความหลากหลาย และ แตกต่าง แบบสุด ๆ

12.....ทีวีสีแดง และ วิทยุชุมชน
จง เชื่อมโยงตนเองเข้ากับเครือข่ายการสื่อสารของฝ่ายเสื้อแดง ใครพอมีกำลังก็ติดจานดาวเทียม และแบ่งปันให้กับเพื่อนบ้าน ใช้โทรศัพท์ที่สามารถรับฟังวิทยุได้ เมื่อมีเวลา ก็รับฟังทางวิทยุชุมชน และโทรศัพท์ เขียนข้อความไปแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สื่อสีแดง เป็นช่องทาง 2 ทาง และมีแง่มุมของคนเล็กคนน้อยอยู่ในพื้นที่สื่อเหล่านั้น หมดยุคข้อมูลจากบนลงล่างแล้ว

13.....นักรบไซเบอร์
นอกจากช่วยกัน นำข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ มาทำซ้ำแล้ว จะต้องยกระดับในแง่การเปลี่ยนข้อมูล ให้มีแง่มุมในเชิงหลักการ คือ ต้องชี้ให้ชัดว่า ข้อมูลนั้นอยู่บนพื้นฐานทางหลักการอะไร โดยจะต้องเชื่อมโยงทั้งในประเด็นทางสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ไม่ใช่แค่หยิบจับข่าวการเมืองที่ผ่านปากนักการเมืองมาคุยกันเท่านั้น นอกจากนั้น จะต้องขยายฐานไปยังเวบอื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นเวบการเมือง สอดแทรกแง่มุมข่าวสารให้กว้างขวาง (ขยายฐานการรับรู้ และการทำงานการเมืองในโลกไซเบอร์)

14.....เปลี่ยนมวลชน เป็น ผู้ปฏิบัติงาน
สำหรับ คนที่ไปร่วมเวทีการชุมนุมมาระดับหนึ่งแล้ว จะต้องหาที่ยืนใหม่ที่มีความสำคัญมากขึ้น กล่าวคือ ต้องมองว่า ตนเองสามารถมีส่วนร่วมในการขยายผลได้อย่างไร โดยเริ่มจากการสมัครเป็นสมาชิกสถาบันเสื้อแดงในพื้นที่ของตนเอง และเสนอตัวเป็นแกนนำหรือผู้ปฏิบัติงานในการขยายฐานสมาชิก หรือช่วยยกระดับการศึกษาความเข้าใจทางการเมืองให้กับสมาชิกในพื้นที่ใกล้ บ้านที่คุณเป็นสมาชิกอยู่

15.....จงมุ่งมั่นที่จะชนะ แต่อย่าเร่งรีบที่จะชนะ
รักษา ความมุ่งมั่นในการต่อสู้ และต้องปรับความคิดในการที่จะชนะในระยะเวลาสั้น ๆ เพราะจะทำให้การต่อสู้พลาดพลั้งได้ง่าย คิดไปเลย 10 ปี

16....จัดการศึกษาให้นักการเมือง
หาก พรรคเพื่อไทย จะเป็นผู้แทนของคนเสื้อแดง พวกเขาต้องปรากฎตัวและออกมารับฟังความคิดเห็นของประชาชนเสื้อแดง และต้องร่วมต่อสู้ ไม่ใช่หดหัว Play Safe ปล่อยให้เสื้อแดงต่อสู้กับแกนนำบางคนเท่านั้น ต้องมีการปรึกษาหารือระหว่างประชาชนกับนักการเมือง ในการวิเคราะห์ปัญหาบ้านเมืองที่ไม่ใช่เฉพาะเรื่องทางการเมือง แต่ต้องไปถึงเรื่องนโยบาย และ สถานการณ์ทางสังคม ถ้านักการเมืองยังคงทำตัวเป็นคนที่มีอาชีพเป็นนักการเมือง แต่ไม่ได้เป็นผู้แทน(จิตวิญญาณ)ประชาชน ก็อย่าไปเลือกมัน และถ้านักการเมืองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เอาแต่เล่นเกมอำนาจและผลประโยชน์ ขอให้คนเสื้อแดงตัดใจ ให้บทเรียนกับนักการเมืองเหล่านี้ พรรคการเมืองต้องจัดเวที เปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็นประชาชนอย่างต่อเนื่อง เน้นการไปนั่งฟัง อย่าไปเน้นการสั่งสอน หรือ โฆษณาหาเสียงกับชาวบ้าน แล้วนำสิ่งที่ชาวบ้านเสนอปัญหาและแนวทางมาพิจารณาในการออกแบบนโยบายพรรค ทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชนให้ได้ เลือกเสียที พรรคการเมืองของนายทุน หรือ พรรคของนักการเมือง

17......ศึกษา ค้นคว้า แลกเปลี่ยน
อย่า มัวแต่ตอบกระทู้ด่ากันไปด่ากันมา แต่หาเวลาไปค้นใน wiki ทั้งข้อมูลประวัติศาสตร์ หรือ ข้อมูลต่าง ๆ ตามเวบไซด์ หรือ หยิบจับหนังสือดี ๆ มาอ่าน หรือเข้าร่วมการประชุมเสวนาทางวิชาการ หรือ จะฟังจาก Clip ที่มีคนเอามาเผยแพร่ก็ได้ จากนั้นนำข้อมูลและแง่มุมมาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยน

18.....เสนอตัว เป็นอาสาสมัคร
ดู ว่าตนเองมีต้นทุนอะไรบ้าง สามารถช่วยเหลือผู้อื่น หรือ การต่อสู้ในด้านใด เช่น ถ่ายภาพ ออกแบบกราฟฟิค จัดฝึกอบรม งานเขียน กระจายสื่อ ฯลฯ แล้วเชื่อมโยงตนเองเข้าไปกับการเคลื่อนไหวและกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น


19.......บริหารเวลา
การ ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แบ่งปัน และบริหารชีวิตในด้านอื่น ๆ ให้ดี อย่าให้เกิดผลกระทบในระดับวิกฤติ ไม่ใช่เคลื่อนไหวจนบ้านแตก ถูกไล่ออกจากงาน หรือ เรียนหนังสือไม่จบ จงหลอมรวมภารกิจเพื่อประชาธิปไตยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ไมใช่ทั้งหมดของชีวิต ยกเว้นแกนนำหรือผู้มีความพร้อมบางคนเท่านั้น อย่าลืมว่า การต่อสู้นั้นยาวนาน ชีวิตต้องดำรงอยู่ หากเกิดปัญหาในมิติอื่น ๆ ของชีวิต ย่อมส่งผลต่อการต่อสู้ด้วยเช่นกัน

20.....จงต่อสู้ด้วยจิตใจที่เบิกบาน
ขอ นำคำของหมอเหวง มาแบ่งปัน แม้ว่าเราจะต้องต่อสู้อย่างเข็มข้น เกิดอารมณ์เครียด ท้อถอย หรือ โกรธแค้น แต่ต้องขจัดสิ่งเหล่านั้นออกๆไป จงต่อสู้ด้วยจิตใจที่เบิกบาน ยกระดับจิตวิญญาณให้สูงขึ้น ไม่ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์การต่อสู้ที่ทำลายจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ ให้กลายเป็นสัตว์ร้าย

(จบ)

------------------------------------