ประธานประชาสัมพันธ์แก้ไขรธน. เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ไม่เกี่ยวแก้ร่างรธน. แฉอีกมือที่มองไม่เห็นหนุน “พันธมิตร-ฝ่ายค้าน-บิ๊กจิ๋ว” จ้องล้มรัฐบาล วันนี้ (18 พ.ค.) นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประชาสัมพันธ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ขณะนี้สังคมกำลังเข้าใจผิดว่าจะมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญฯเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ความจริงเป้าหมายหลักของการเปิดประชุมสมัยวิสามัญฯคือการพิจารณางบประมาณปี2552 และมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่จะต้องออกให้ครบตามที่รัฐธรรมนูญปี50กำหนดไว้ เมื่อมีเวลาเหลือเราจึงจะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญปี50พ่วงเข้าไปเท่านั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเทียบเคียงกับร่างที่ประชาชนเสนอมาให้มากที่สุด และเวลาก็ไกลเกินกว่าจะแก้ไขให้ทันเรื่องของการยุบพรรคและช่วยพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว จึงพิสูจน์ได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะเชื่อว่าอย่างไรเสียการแก้ไขรัฐธรรมนูญคงไม่สามารถทำให้เสร็จได้อย่างรวดเร็วเพราะมีตัวแปรอีกมาก
เมื่อถามว่ากรณีคำให้สัมภาษณ์ของนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับสถาบันจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีอุปสรรคหรือไม่ นายสุนัยกล่าวว่า เป็นเพียงการนำเรื่องของบุคคลมาอ้างเพื่อต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นสะพานไปถึงรัฐบาลให้ได้ ไม่ว่าอย่างไรพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ตั้งใจจะล้มรัฐบาลนี้ทุกวิถีทางอยู่แล้ว แต่ที่น่าแปลกใจคือขณะนี้กระบวนการที่พันธมิตรฯเคลื่อน กระบวนการที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคประชาธิปัตย์กำลังเคลื่อนไหวมันคล้ายกันเหมือนนัดกันไว้ล่วงหน้า
“คนที่ออกมาแหลมมากช่วงหลังคือพล.อ.ชวลิต อยากให้ไปดูว่าพล.อ.ชวลิตกับพล.ต.จำลอง ศรีเมืองนั้นเคยเป็นมือไม้ให้ใคร ตอนนี้มือที่มองไม่เห็นดูเหมือนทำงานอยู่และเหมือนเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปตย์ตัวจริงเสียด้วย” นายสุนัย กล่าว
ถามว่าดูเหมือนพรรคพลังประชาชนจะโดดเดี่ยวนายจักรภพ เพ็ญแข นายสุนัยกล่าวว่า วันนี้ส.ส.ในพรรครู้สึกอึดอัดกับการวางตัวของร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชนอย่างมาก เพราะร.ท.กุเทพเป็นบุคคลที่มีลักษณะพิเศษทางการเมือง ดังนั้นคำพูดของร.ท.กุเทพจึงไม่ใช่ความเห็นของพรรคและไม่ใช่ตัวแทนของพรรคพลังประชาชน เพราะส.ส.ในพรรคไม่ได้เป็นห่วงอย่างที่ร.ท.กุเทพวิตก เนื่องจากรู้ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นแผนทางการเมืองพยายามโจมตีทุกวิถีทาง คนที่อ้างว่าจงรักภักดีกำลังทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่ดึงสถาบันมาแอบอ้างเพื่อทำลายศัตรูทางการเมืองของตัวเอง
“เวลานี้ทุกคนเห็นแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทำงานประสานกันทั้งในและนอกสภาฯ อยากขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวล เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่จะทำได้ เพราะพรรคพลังประชาชนมีภาระที่เคยให้สัญญากับประชาชนไว้ช่วงเลือกตั้งว่าจะเข้ามาแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชาชนยึดถือสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันสูงสุด จะไม่มีการแตะต้องอย่างแน่นอน ขอให้ประชาชนพิจารณาเองว่าใครกันแน่ที่กำลังทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง” นายสุนัย กล่าว