ไม่เคยมีวิกฤติครั้งไหน ที่สร้างผลกระทบแก่สังคมโลกอย่างร้ายแรงเท่าที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
เป็นวิบากกรรมที่คนทั้งโลกกำลังเผชิญยกเว้นกลุ่มโอเปกที่เสวยสุขจากวิกฤติ น้ำมันแพงกันอย่างมโหฬาร
นอกจากรวมหัวไม่ผลิตน้ำมันเพิ่มเพื่อกดดันตลาดให้เกิดความขาดแคลน
ยังรวมหัวเอากำไรมหาศาลไปตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ปันราคาน้ำมันในตลาด ให้แพงหูฉี่เป็น ทวีคูณ
เรียกว่าใช้ความได้เปรียบฟันกำไรสองต่อฟรีๆ!!
ผลก็คือ แค่ปีเดียวราคาน้ำมันตลาดโลกแพงขึ้น 3 เท่าตัว
“แม่ลูกจันทร์” ขอสาปแช่งกลุ่มโอเปกที่ขูดรีดค้ากำไรจากราคาน้ำมันอย่างไร้มนุษย-ธรรม
สร้างความมั่งคั่งบนความเดือดร้อนของประชากรโลกที่ยากจน
ทำให้คนไทยทั้งประเทศต้องควักกระเป๋า ซื้อน้ำมันแพงเกินควร
ข้อสำคัญ...ยังคาดเดาไม่ได้ว่าราคาน้ำมันจะถูกปั่นให้แพงขึ้นอีกเท่าใดจึงจะ เป็นที่พอใจของกลุ่มปีศาจน้ำมัน??
“แม่ลูกจันทร์” หวั่นใจว่าราคาน้ำมันจะพุ่งทะลักเดือดทะลุ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในอีกไม่ช้าไม่นาน??
ถ้าราคาน้ำมันดีเซลขึ้นไปลิตรละ 40 บาทเมื่อไหร่ ก็ได้เวลาเผาจริง!!
“แม่ลูกจันทร์” ขอให้กำลังใจรัฐบาล โดยเฉพาะรองนายกฯ รมว.คลัง “สุรพงษ ์สืบวงศ์ลี” และรองนายกฯ รมว.พาณิชย์ “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” ให้แก้ปัญหาวิกฤติราคาน้ำมัน เพื่อ บรรเทาความเดือดร้อนของประ-ชาชนระดับรากหญ้า และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไทยให้ผ่าน โค้งอันตรายไปได้โดยเร็ว
ถึงจะยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหนก็ขอให้ทุ่มเททำหน้าที่ให้เต็มฝีมื
ถ้ามองอย่างเป็นธรรม ตั้งแต่รัฐบาลนี้เริ่มทำงานมาหนึ่งเดือน รัฐมนตรีคลังและรัฐมนตรี พาณิชย์ได้ทำงานอย่างขยันขันแข็งเป็นที่น่าประทับใจ
ฉะนั้น ถ้าในเร็วๆนี้ “หมอเลี้ยบ” ต้องหยุดทำงานเพราะผลจากคดีหวยบนดิน ก็นับว่าน่าเสียดาย
แต่จะทำยังไงได้ล่ะน้องเอ๊ยย์ กติกาก็ต้องเป็นกติกา
ย้อนกลับมาที่วิกฤติน้ำมันแพงบ้า เลือดที่กำลังสร้างความเดือดร้อน ให้คนไทย อย่างจั๋งหนับบุเรงนอง
ต้องยอมรับความจริงว่าเราไม่มีภูมิคุ้ม กันผลกระทบจากน้ำมันแพง
มีแต่มาตรการที่ลดผลกระทบระยะสั้นและระยะยาว
มาตรการระยะสั้นก็คือการประหยัดพลังงานและส่งเสริมพลังงานทางเลือกทดแทนน้ำมัน (ซึ่งก็ทำได้เพียงระดับเดียว)
มาตรการระยะยาวก็คือก่อสร้างระบบขนส่งมวลชน เพื่อทดแทนการใช้รถส่วนตัว
เพื่อลดการใช้น้ำมันโดยตรง
“แม่ลูกจันทร์” สนับสนุน นายกฯ สมัคร สุนทรเวช ที่จะเร่งก่อสร้างรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน 6 เส้นทางแรกโดยเร็ว
ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวม
รวมทั้งโครงการรถไฟรางคู่ ซึ่งประหยัดพลังงานในการขนส่งได้อีกบานตะเกียง
น่าเสียดาย...โครงการรถไฟรางคู่ที่คิดจะสร้างมากว่า 20 ปี ก็มัวแต่ยึกยักๆ ไม่กล้าตัดสินใจจนสายเกินเพล
น่าเสียดาย...โครงการเมกะโปรเจกต์รถไฟ-ฟ้าขนส่งมวลชนที่ควรเริ่มต้นก่อสร้างมาแล้ว 3 ปี
เพราะการเมืองวุ่นวายทำให้โครงการรถไฟฟ้าต้องหยุดชะงักกลางคัน
ถ้าเริ่มลงมือก่อสร้างตั้งแต่ 3 ปีที่ผ่านมา วันนี้เราจะมีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน สายใหม่ๆสร้างเสร็จเปิดใช้แน่นอน
กว่าจะเริ่มลงมือก่อสร้างรถไฟฟ้าได้ก็ไม่ทันรับมือกับวิกฤติน้ำมันแพง
แถมต้นทุนก่อสร้างที่ออกสตาร์ตช้าเกินไปก็บานทะโรคไปอีกไม่ต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์
เฉพาะราคาเหล็กอย่างเดียวก็สูงปรี๊ดน่าเกลียดน่าชัง
ก็ต้องถือเป็นวิบากกรรมร่วมกันของคนไทยทุกคน
เราเสียโอกาสมามากแล้ว จะเดินหน้าได้หรือยัง.
“แม่ลูกจันทร์”
คอลัมน์ สำนักข่าวหัวเขียว