กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญของมนุษย์ แม้แต่คนเจ็บป่วยที่กำลังนอนพะงาบๆถ้ามีกำลังใจดี มีลูกฮึดที่จะต่อสู้ยื้อชีวิต
ก็ยังสามารถเอาชนะโรคภัย ฟื้นตัวหายป่วยลุกขึ้นมาเดินปร๋อได้เหมือนกัน
ฉันใดก็ฉันนั้น จากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ กำลังคุโชนขึ้นมาอีกระลอก
หลังจากเครือข่ายก่อการร้ายเปิดปฏิบัติ การ “ลองของ” รัฐบาลชุดใหม่ ใช้คาร์บอมบ์ ถล่มโรงแรมซีเอส ปัตตานี
พร้อมๆกับเหตุการณ์ใช้แผนคาร์บอมบ์ ถล่มเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดยะลา แต่เดชะบุญ เวรกรรมมันติดจรวด โจรร้ายโดนระเบิดตายเองระหว่างทาง
ตามมาด้วยการใช้แผนอุบาทว์เผาโรง-เรียน วางระเบิดเล่นงานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ดักยิงรถลำเลียงคนเจ็บส่งโรงพยาบาล
รวมไปถึงเปิดยุทธการหมาลอบกัด บึมบอมบ์ถล่ม ล่าสังหารตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ไม่เว้นแต่ละวัน
ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนผู้ บริสุทธิ์เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บสาหัสนับไม่ถ้วน
โหดร้าย อำมหิต ผิดมนุษย์มนา!!!
แม้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ จะมีแผนกดดัน ตรวจค้นเป้าหมาย ยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ของขบวนการโจรใต้อย่างต่อเนื่อง
แต่ปฏิบัติการเหี้ยม (ม้าเผ่น) ของเครือข่ายโจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน ก็เพิ่มดีกรี ทวีความรุนแรงมากขึ้น
ในสถานการณ์เช่นนี้ เรื่องขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ รวมไปถึงขวัญกำลังใจของประชาชนที่อิงอยู่กับฝ่ายรัฐ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ดังนั้น การที่ “น้าหมัก” นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีบัญชาให้ “น้าเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย
ที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน และการบำบัดทุกข์บำรุง สุขของพี่น้องประชาชนโดยตรง ลงไปดูแลเกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส
เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด ตรงสเปก ตรงสายงาน!!!
ซึ่งความจริงแล้ว รมว.มหาดไทยควรจะต้องลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ตั้งแต่วันแรกๆที่เข้ารับตำแหน่งซะด้วยซ้ำ
แต่ถึงจะช้าไปบ้าง ก็ยังไม่สายเกินเพล เพราะการลงพื้นที่ของ “น้าเหลิม” ในครั้งนี้จะได้สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ได้สัมผัสบรรยากาศการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร โดยเฉพาะข้าราชการฝ่ายปกครองที่เป็นลูกน้องสายตรง
พูดง่ายๆ ถ้าลงพื้นที่อย่างจริงจัง คงได้ซึมซับ รับรู้ปัญหา แบบถึงกึ๋น!!!
สามารถเก็บข้อมูลมาปรับปรุงแผนดับไฟใต้ของรัฐบาล และการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น
ที่สำคัญ เมื่อผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เห็น รมว.มหาดไทยลงไปดูแลปัญหาด้วยตัวเองก็จะมีขวัญกำลังใจ ไม่เกิดความรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง
มีแรงฮึดที่จะทำงานในสถานการณ์เสี่ยงอันตรายต่อไป
แต่ถ้าจะให้แหล่มกว่านี้ งวดหน้า “น้าหมัก” ในฐานะผู้นำรัฐบาลนั่งควบ รมว.กลาโหม รับผิดชอบด้านความมั่นคง
ควรจัดโปรแกรมลงพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ตรวจราชการ เยี่ยมเยียน สร้างขวัญกำลังใจแก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ด้วยตัวเอง
แรงฮึดของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติคงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
หรือถ้า “น้าหมัก” จะไปทำรายการ “ยกโขยงหกโมงเช้า” ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เพื่อช่วยสร้างภาพพจน์ ดึงดูดการท่องเที่ยว ก็ดูดี ดูเก๋ ไปอีกแบบนะโยม
แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า จะกล้าเสี่ยงรึเปล่า???
“แม่ลูกจันทร์”
คอลัมน์ สำนักข่าวหัวเขียว