นับตั้งแต่เกิดปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากที่มีการปล้นปืนของทหารไป ผมยอมรับว่าเพิ่งเกิดความรู้สึกในทันทีว่าปัญหาที่ยืดเยื้อเรื้อรังมานาน สามารถแก้ได้ ถึงแม้จะใช้เวลาบ้างก็ตาม เพราะปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีมานานเป็นร้อยปี จะให้แก้กันได้สำเร็จฉับพลันทันทีคงเป็นไปไม่ได้
เหตุที่ทำให้ผมมั่นใจว่าปัญหาที่ยืดเยื้อมานานสามารถแก้ไขได้ เพราะปัญหานี้มีทางแก้ แต่ที่ผ่านๆ มาผู้ที่รับผิดชอบแก้กันด้วยการกระทำหวือหวาเป็นไฟไหม้ฟางเท่านั้น
จากประสบการณ์ทั้งในฐานะคนที่คุ้นเคยอยู่กับพื้นที่พอสมควร และมีประสบการณ์จากการทำข่าว รู้สึกได้ทันทีว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยใจ
“ผมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาคที่ 4 นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผอ.ศอ.บต. มีการประชุมแก้ปัญหาและติดตามสถานการณ์ภาคใต้มาโดยตลอด แต่ไม่ได้แถลง
...ได้เห็นความโหดร้ายรุนแรง ดุเดือดเลือดพล่าน พระสงฆ์องค์เจ้าบรรลัยวายวอด ถูกฟันหัวแบะหมด พระถูกฆ่ากลางถนน เห็นภาพแล้วถึงขนาดกลับไปกินข้าวไม่ได้ เห็นแล้วน้ำตาตกใน ดูแล้วเจ็บช้ำน้ำใจอยู่ในอก แต่ไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้ เพราะถ้าพูดแล้วก็ถูกต่อว่า ยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ทำงานอยู่และโปรดเห็นใจ
...จากการรับฟังปัญหาจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เขาไม่เห็นด้วยที่จะเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ
...ยืนยันว่ารัฐบาลได้จัดลำดับความสำคัญในการแก้ไขปัญหาภาคใต้อยู่ในระดับสำคัญที่สุดในชีวิต”
ประโยคสุดท้ายนี่แหละครับที่ผมขนลุก บอกตรงๆ ว่าไม่เคยได้ยินผู้ที่รับผิดชอบกับปัญหาภาคใต้พูดถึงความสำคัญของปัญหาว่าสำคัญที่สุดในชีวิต
และ...ผมเชื่อว่าคนที่ปากกับใจตรงกันอย่าง นายสมัคร สุนทรเวช คำพูดนี้ต้องออกมาจากใจ ไม่ใช่เล่นคำหรือเสกสรรปั้นแต่งแน่นอน
ผมเชื่อว่าเหตุที่ นายสมัคร สุนทรเวช จัดลำดับความสำคัญของปัญหาภาคใต้สำคัญที่สุดในชีวิต เหมือนกับคนไทยทั่วๆ ไปที่รักชาติด้วยใจ ไม่ใช่รักชาติด้วยปาก หรือสงวนลิขสิทธิ์การรักชาติไว้เฉพาะพวกตัวเอง
นั่นคือถ้าการแก้ไขปัญหาภาคใต้ล้มเหลว จะทำให้ประเทศไทยต้องเสียดินแดนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งใครที่เคยอ่านประวัติศาสตร์ชาติไทย ย่อมจะเกิดความเจ็บปวดกับการเสียดินแดนในแต่ละครั้ง
มิน่า คงจะจำกันได้ หลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อย แต่ยังไม่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสมใจปรารถนา ได้เปิดประเด็นจะให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปกครองพิเศษอะไรทำนองนั้น
รุ่งขึ้นอีกวัน นายสมัคร สุนทรเวช ได้เรียก ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง ไปว่ากล่าวในการสัมภาษณ์เรื่องเขตปกครองพิเศษ
ผมเอะใจมาตั้งแต่วันนั้นว่า นายสมัคร สุนทรเวช จะต้องมีเหตุผลที่แน่วแน่ชัดเจน สามารถอธิบายให้ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง ออกมาถอนคำพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ นานๆ จะได้เห็นสักครั้ง เช่นเดียวกัน นายสมัคร สุนทรเวช ที่ผ่านๆ มาแทบจะไม่เคยได้ยินว่า ได้ว่ากล่าวตำหนิผู้ร่วมงานที่เป็นนักการเมืองร่วมคณะรัฐบาล
ดังนั้นผมขอย้ำอีกครั้งว่า ปัญหาภาคใต้จะได้รับการแก้ไขให้ลุล่วงไปได้แน่นอน เพราะหัวหน้ารัฐบาลจัดเป็นปัญหาที่มีความสำคัญที่สุดในชีวิต และจะทุ่มเทใจเข้าไปแก้ปัญหา
ยังเหลือแต่ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง จะทุ่มเทใจในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ขนาดไหน เพราะการให้สัมภาษณ์เมื่อวันวาน ฟังแล้วเหมือนกับว่าจะถอดใจกับปัญหานี้ ทั้งๆ ที่ปากบอกว่า รู้ปัญหาดี ไม่จำเป็นต้องลงไปในพื้นที่
ผลงานที่ผ่านมาหนึ่งเดือนหลังจากแถลงนโยบาย ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไว้เป็นทุน ต้องมาขาดทันเสียรังวัดไปเยอะกับการไม่ลงไปในพื้นที่ จนถูก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (เงา) ออกมาเยาะเย้ยถากถางคนที่เคยเป็นสารวัตรประเทศไทย ว่ากลัวตาย แถมยังประกาศจะสร้างอนุสาวรีย์ให้ หากตายในพื้นที่
แต่ยังดีที่ยอมรับว่าปัญหานี้แก้ยาก ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน เพราะผมเชื่อว่าคนระดับสารวัตรเหลิม ชอบทำเรื่องยากๆ มากกว่าเรื่องกล้วยๆ ง่ายๆ มิใช่หรือ