WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, March 22, 2008

กระชากหน้ากาก รัฐศาสตร์ จุฬาฯ

ชำแหละ บทบาทนักวิชาการ “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เขมือบ โปรเจคงานวิจัย ยุคคมช.เรืองอำนาจ 42.6 ล้านบาท อ้างทำเรื่องการพัฒนาประชาธิปไตย อ.ใจ อึ้งภากรณ์ แฉขบวนการผลาญงบประมาณชาติเอาโครงการไปแก้ตัวให้ การรัฐประหาร 19 กันยายน 2551 ในต่างประเทศ ทั้งที่ผิดหลักการประชาธิปไตย น่าอับอายขายหน้า ล่าสุดนักวิชาการจุฬาฯกลุ่มนี้ยังมีหน้ามาขึ้นเวทีพันธมิตรฯ วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ นี้อีก

จากกรณีที่ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะมีการจัดชุมนุมโดยอ้างว่าเป็นการเสวนาทางวิชาการ แต่แท้จริงมีการจัด“รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ” วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2551ณ หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ นั้น

จากการตรวจสอบโปรแกรมงานดังกล่าว ในเวลา 18.45-20.15 น. อภิปราย “เหลียวหลังแลหน้าการเมืองไทย” โดยมีวิทยากรประกอบไปด้วย ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา คณบดีรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ.ดร.เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ศ.ดร.สุรชัย ศิริไกร คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผศ.ทวี สุรฤทธิกุล อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช รศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มอ.ปัตตานี ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผศ.ดร.พิรงรอง รามสูต รณะนันท์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีผู้ดำเนินรายการคือ รศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เคยมีประวัติในการฉีกบัตรเลือกตั้งในคูหาเลือกตั้ง ผศ.ดร.สุรัตน์ โหราชัยกุล คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โดยหัวข้ออภิปรายดังกล่าว ปรากฏว่ามี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าร่วมอภิกปรายถึง 4 คนด้วยกัน และเป็นที่น่าสังเกตว่า นักวิชาการเหล่านี้ มีความเป็นกลางทางการเมืองหรือไม่ เพราะเคยเป็นกล่ามเคลื่อนไหวในการล้มล้างรัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาแล้ว และนักวิชาการกลุ่มนี้ยังมีบทบาทในการสนับสนุนหรือทำงานให้กับ เผด็จการ คมช. หรือ โจรปล้นประชาธิปไตย ที่นำทหารเข้ายึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน 2540 อีกด้วย

ภายใต้บทความของ รศ.ใจ อึ้งภากรณ์ อาจารย์ประจำภาคปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เคยเขียนบทเรื่อง “คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ คอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย” เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2550 โดยระบุในบทความว่า
“ผู้ที่กล่าวหาอดีตนายกฯ ทักษิณ ว่ากระทำความผิด มีความถูกต้องในการมองว่าทักษิณคอร์รัปชั่นทางนโยบายในการไม่จ่ายภาษีและการกระทำอื่นๆ ที่ให้ผลประโยชน์กับตนเอง ทั้งๆ ที่พฤติกรรมดังกล่าวไม่ถือว่าผิดกฏหมายสมัยนั้น แต่ตอนนี้เป็นที่น่าสลดใจ ที่ผมต้องรายงานให้ทราบว่า คณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ คณะของผม กระทำการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบายอันใหญ่หลวง เพราะมีการนำเงินภาษีประชาชนคนยากคนจนในจำนวน 42.6 ล้านบาท มาทำ ‘การวิจัย’ เรื่องประชาธิปไตย

พฤติกรรมนี้เป็นการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย และเป็นการโกงประชาชน เพราะผู้บริหารคณะรัฐศาสตร์ และอาจารย์ในคณะเกือบทั้งหมดสนับสนุนการทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ที่ทำลายประชาธิปไตย ต่อจากนั้น กลุ่มอาจารย์เหล่านี้เข้าไปรับตำแหน่งและค่าตอบแทนจากการเป็นที่ปรึกษา คมช. ที่ปรึกษารัฐบาลเผด็จการ และเข้าไปดำรงตำแหน่งในสนช. สภาเถื่อนที่เผด็จการแต่งตั้ง และสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 50 ของเผด็จการที่ลดทอนสิทธิเสรีภาพทางประชาธิปไตย

คณาจารย์เหล่านี้สนับสนุนคมช.มาตลอดและสนับสนุนรัฐธรรมนูญของเผด็จการ พร้อมกันนั้น มีการเห็นด้วยสมยอมเพิกเฉยกับทางมหาวิทยาลัยส่วนกลาง ในการสั่งไม่ขายหนังสือต่างๆ ที่คัดค้านการทำรัฐประหาร เช่นหนังสือ A Coup for the Rich เป็นต้น แถมยังมีการเดินหน้าในกระบวนการสอบสวนพฤติกรรมของอาจารย์ที่คัดค้านเผด็จการ ซึ่งถือว่าละเมิดสิทธิเสรีภาพทางวิชาการ

“โครงการศูนย์ติดตามประชาธิปไตยไทย” Thailand Democracy Watch ของคณะรัฐศาสตร์ ได้งบประมาณจากภาษีประชาชนถึง 42.6 ล้านบาท โดยหัวหน้าทีมวิจัยคือ จรัส สุวรรณมาลา คณบดีคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ นักวิชาการคนนี้ได้นำทีมอาจารย์คณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ ไปแก้ตัวแทนคมช.และการทำรัฐประหารตามมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียและอังกฤษ โดยใช้เงินภาษีประชาชนในการเดินทาง

ผู้ที่มีหน้าที่สร้างโครงการวิจัยนี้ อ้างว่าสังคมไทยไม่มีการเรียนรู้จากอดีต ทำให้มี “วงจรอุบาทว์ทางการเมือง” มีการด่าพลเมืองไทยว่ามีนิสัยและวัฒนธรรมทางการเมืองที่ไม่ยอมเรียนรู้ เพิกเฉย ยอมรับคอร์รัปชั่น คำนึงถึงผลประโยชน์ใกล้ตัว ไม่ไตร่ตรอง ไม่แสวงหาข้อมูลและเหตุผล ซึ่งเป็นการด่าคนจนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง และเป็นการด่าผู้จ่ายภาษีให้นักวิชาการมีอาชีพได้

โครงการนี้อ้างว่าคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ มีหน้าที่ในการชี้นำสังคมไทยด้านการเมืองประชาธิปไตย ให้ข้อมูลแก่ประชาชน สร้าง “ดัชนีประชาธิปไตย” เพื่อสามารถเป็นที่อ้างอิงของนักวิชาการต่างประเทศ

การที่คณาจารย์คณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ ไม่มีความละอายใจ ไม่รู้จักความผิดของตนเองในการสนับสนุนและการร่วมมือกับเผด็จการ เป็นเรื่องน่าเศร้าและเป็นเรื่องที่ทำให้ชื่อเสียงของคณะเสียไป ขายหน้าประชาสังคมทั้งในไทยและภายนอกประเทศ แต่การรับเงินมาเป็นล้านๆ โดยการอ้างว่าคณะมีอะไรจะสั่งสอนพลเมืองไทยและนักวิชาการต่างประเทศเป็นเรื่องเหลวไหลน่ารังเกียจอย่างถึงที่สุด ผมไม่เคยคิดว่าคณะของผมจะคอร์รัปชั่นเชิงนโยบายและขาดศีลธรรมในอุดมการณ์แบบนี้ วันนี้เป็นวันที่ชื่อเสียงของคณะกลายเป็นสิ่งสกปรก

ท้ายบทความ ได้ลงท้ายว่า “ด้วยความเศร้าใจ” รศ. ใจ อึ๊งภากรณ์ ภาคปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จึงเป็นข้อน่าสังเกตุ และ น่าห่วงใย กับบทบาทของนักวิชาการ จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นอย่างมากว่าเข้าร่วมการเคลื่อนไหวครั้งนี้เพื่อจุดประสงค์อะไร เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการใช้งบประมาณ หรือการของบประมาณงานวิจัย หรือไม่อย่างไร