ตั้งแต่รัฐบาลใหม่เริ่มทำงาน สถานการณ์รุนแรงใน 3 จังหวัดภาคใต้เริ่มซาลงไปเเดือนเต็มๆ
ซาลงไปเพราะพลุ่มโจรก่อการร้ายลดการก่อเหตุชั่วคราว
เป็นการหยุดเพื่อปรับยุทธวิธีของกลุ่มโจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน ซึ่งก็เป็นวงจรอย่างนี้ทุกครั้งก่อนที่จะเกิดเหตุใหญ่ตามมา
กรณีเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี เหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่ยะลา (โจรตายเอง) กรณีเผาโรงเรียนและระเบิดซํ้าที่อำเภอ
สายบุรี ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคน
ถือว่าเป็นสัญญาณอันตรายว่าเครือข่ายผู้ก่อความไม่สงบต้องการตอบโต้ อย่างรุนแรงและโหดเหี้ยมมากกว่าเดิม
มีการใช้คาร์บอมบ์ในจุดชุมชนเพื่อทำร้าย
พี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ให้เกิดเป็นข่าว ใหญ่โต
แต่ถ้ามองอีกมุม...
ยิ่งใช้ความรุนแรงกับพี่น้องประชาชน ก็จะยิ่งเป็นผลเสียต่อขบวนการโจรก่อการร้ายเอง!!
ยิ่งใช้ความโหดเหี้ยมอำมหิตมากเท่าไหร่แนวร่วมในพื้นที่ก็จะยิ่งลดลง
เพราะขณะนี้พี่น้องประชาชนเบื่อหน่ายสถานการณ์รุนแรง
เริ่มให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่แจ้ง ความเคลื่อนไหวของเครือข่ายก่อการร้ายดีขึ้นกว่า 3 ปีก่อนอย่างชัดเจน
ทำให้แกนนำและกลุ่มอาร์เคเคถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้เพิ่มขึ้นทุกวัน
ล่าสุด คาดว่าเครือข่ายโจรก่อการร้ายใน 3 จังหวัดภาคใต้ ลดลงจากเดิมไม่ตํ่ากว่า 30 เปอร์เซ็นต์!!
ขณะนี้เครือข่ายโจรแบ่งแยกดินแดนกำลังมีปัญหาขาดแคลนกำลังคน
ไม่สามารถขยายเครือข่ายเพิ่มหน่วยกำลังอาร์เคเค เพื่อทดแทนคนเก่าที่ถูกจับกุม
แม้แต่ในหมู่บ้านพื้นที่สีแดง แกนนำโจรก่อการร้ายก็ไม่สามารถฝังตัวควบคุมชาวบ้านได้อย่างเดิม
การใช้ชาวบ้านเป็นแนวร่วมก่อม็อบ ตัดต้นไม้ คอยดูต้นทาง โปรยตะปูเรือใบ ฯลฯ ก็ทำได้ยากลำบาก เพราะชาวบ้านไม่ร่วมมือ
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่ายุทธวิธีที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐดำเนินการในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีผลดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ฝ่ายข่าวเริ่มจับโฟกัสได้ว่าในแต่ละหมู่บ้านมีใครเป็นเครือข่าย? ใครเป็นแกนนำ? ใครเป็นกลุ่มอาร์เคเค?
พูดให้ชัดๆคือ สถานการณ์ล่าสุด ฝ่ายโจรก่อการร้ายกำลังถูกกดดัน และอยู่ในสภาวะเสียเปรียบอย่างชัดเจน
แต่เจ้าหน้าที่เองก็ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์
ฉะนั้น เหตุรุนแรงใน 3 จังหวัดภาคใต้ จะยังไม่ยุติ และจะต้องเกิดขึ้นต่อไปอีกนาน
จนกว่าจะถึงจุดที่สามารถกวาดล้างโจรก่อการร้ายให้สูญพันธุ์
ขอให้ยอมรับความจริงและอดทนกันต่อไป
ที่ “แม่ลูกจันทร์” กระชุ่นมาทั้งหมด เพื่อจะบอกรัฐบาลนายกฯสมัคร สุนทรเวช ว่า เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจซึ่งรับผิดชอบดูแลปัญหาไฟใต้ปฏิบัติหน้าที่ได้ดี และทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน
รัฐบาลไม่ควรเข้าไปล้วงลูก ไม่ควรเข้าไปแทรกแซง หรือเปลี่ยนแปลงนโยบายให้เกิดความสับสนแก่ผู้รับผิดชอบโดยตรง
รัฐบาลต้องลงไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และสนับสนุนกำลังงบประมาณในทุกด้านที่จำเป็น
พูดให้ชัดๆคือ การรับผิดชอบพื้นที่และการปฏิบัติการเป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง
ฝ่ายการเมืองคือการพัฒนาพื้นที่ และการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรง
ขอให้อดทนอีกซักนิด แล้วทุกอย่างจะดีเอง.
“แม่ลูกจันทร์”
คอลัมน์ สำนักข่าวหัวเขียว