ทั้งที่อ้างว่าการจัดกิจกรรมที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2551 จะเป็นเพียงงานเชิงวิชาการ ภายใต้ชื่อรายการยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ...
แต่กระนั้น ก็กลับมีความเคลื่อนไหวในเชิงปลุกระดมอย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ไม่ว่าจะเป็นการเดินสายไปตามภาคต่างๆ เพื่อควานหาแนวร่วมเดิมๆ ที่ยังเหนียวแน่นกันอยู่ หรือการจ้อผ่านสื่อในมือของตัวเองด้วยการด่าทอรัฐบาลอย่างที่เคยถนัด
ความเคลื่อนไหวที่หลายฝ่ายกังวลใจว่าจะนำไปสู่เงื่อนไขอัปยศเหมือนที่เคยเกิดมาแล้วเมื่อครั้งรัฐประหาร 19 กันยายน ทำให้ต้องออกมาเตือนกันด้วยความหงุดหงิดว่าอย่าพยายามปลุกปั้นผีที่ไม่มีตัวตนขึ้นมาหลอกหลอนเพื่อนร่วมชาติ ให้ต้องกลับไปตกระกำลำบากในนรกภูมิใหม่อีกครั้ง ทั้งที่ก็เพิ่งผ่านช่วงเวลาแบบนั้นมาหมาดๆ
บ้างก็เตือนไปถึง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ที่ตัวเองก็ยังมีคดีความจากเรื่องเก่าที่คล้ายกันปักอยู่บนหลัง ว่าจะทำอะไรก็ให้คำนึงถึงคำตัดสินของศาลบ้าง
แต่ก็อย่างที่บอกว่า กลุ่มพันธมิตรฯ อ้างมาแต่แรกแล้วว่านี่เป็นเพียงการสัมมนาเชิงวิชาการ ดังนั้นนายสนธิจึงอ้างว่าตนมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะทำได้
เมื่อเรื่องยังไม่เกิด ศาลก็ต้องฟัง และก็ต้องอนุญาตเป็นธรรมดา
แต่ทว่า ดูเหมือนว่าระหว่างแกนนำพันธมิตรฯ ด้วยกันเอง เห็นทีจะไม่ได้นัดแนะกันให้มั่นเหมาะก่อนจะให้สัมภาษณ์ออกสื่อ
เพราะขณะที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล หรือ นายสุริยะใส กตะศิลา พยายามบอกว่านี่เป็นเพียงการจัดกิจกรรมในลักษณะเวทีอภิปรายทางวิชาการจากหลายฝ่ายทั้งนักวิชาการ เยาวชนนักศึกษา ตัวแทนองค์กรแนวร่วม และแกนนำพันธมิตรฯ ...
ไม่ใช่การประชุมอย่างที่หลายฝ่ายกังวลใจ
แต่ฟาก นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำอีกคน กลับประกาศกร้าวระหว่างเดินทางไปภาคใต้ว่า พันธมิตรฯ ต้องการล้มระบอบทักษิณที่รักของคนอีสาน คนภาคเหนือ และภาคกลางบางกลุ่ม และเป็นที่น่ารังเกียจของคนภาคใต้
และอยากให้ทุกคนไปล้มระบอบทักษิณพร้อมกันอีกรอบ...!
ปล่อยไก่ไม่ต่างกันกับ น.ส.อัญชลี ไพรีรักษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ประกาศต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหลากับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ในฐานะแกนนำพันธมิตร จ.สมุทรปราการ
ก็ออกมาปลุกเร้า ว่าอย่าตกใจหากวันที่ 28 มีนาคม จะมีพันธมิตรทั่วประเทศมาร่วมประมาณ 30,000 คน
การสัมมนาวิชาการที่มีผู้ร่วมฟังแห่แหนกันมาจากต่างถิ่นกว่า 30,000 คน หากไม่โม้ก็โกหกทั้งเพ
ยังไม่รวมที่ น.ส.อัญชลี พูดด้วยว่า การที่พันธมิตรต้องออกมาอีกครั้งก็เพราะที่ผ่านมา คมช. หรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ไม่ได้ทำอะไรเลย
เท่านี้ก็น่าจะบอกได้แล้วว่า นี่เป็นความเคลื่อนไหวของมวลชนชนิดใด และมีจุดประสงค์อย่างไร
สัมมนาวิชาการที่พูดเรื่องการเมืองนั้นมีถมเถ...
แต่สำหรับการเมืองแบบที่ใช้คำว่าวิชาการมาบังหน้า...
ก็เป็นได้แค่วิชามารอีกบทหนึ่งเท่านั้นเอง